“ท่านประธานคะปล่อยค่ะ”
เสียงคนตัวเล็กประท้วงให้คามินคายอ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดเธอไว้แน่น แต่เหมือนยิ่งเธอขยับเขยื่อนเท่าไร เขายิ่งเพิ่มแรงมหาศาลขึ้นเท่านั้น ใบหน้าหล่อคม จมูกโดงเป็นสันรับกับรูปหน้า ดวงตามีขนตาเป็นแพรยาวหนาราวกับผู้หญิง เขาหลับตาพริ้มราวกับว่าตอนนี้กำลังหลงอยู่ในห้วงรัตติกาล
“.........”
นิสสานอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของคามินราวเกือบๆ ห้านาทีเห็นจะได้ ตอนนี้อ้อมกอดค่อยๆ ผ่อนคลายลงแล้ว แต่เธอยังไม่สามารถพ้นจากพันธนาการของเขาไปได้ เพราะแข้งขาที่กอดก่ายมันหนักจนเธอเองยกมันไม่ขึ้น ลมหายใจอุ่นพ่นลดที่หน้าผากมน คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองคามินที่กำลังนอนหลับตาพริ้มราวกับเด็กขี้เซา เธอเผลออมยิ้มเล็กๆ ให้กับความหล่อเหลาของนายตัวเอง
“หล่อนะเนี่ย แต่ดุไปหน่อย”
เธอพึมพำอยู่คนเดียว ความรู้สึกหวิวๆ กลับมาเล่นงานเธออีกแล้ว ใจเธอละลายทุกที เห็นคนหน้าตาดีเป็นไม่ได้เชียว นิ้วเรียวเล็กจิ้มเบาๆ ที่แก้มของคามิน เพื่อเป็นการสะกิดให้เขาตื่นขึ้นมาจากภวังค์
“ท่านประธาน”
เสียงลากยาวเบาๆ ราวกับเด็กน้อยของนิสสาไม่ได้ทำให้คามินตื่นขึ้นมาได้เลย
“อือ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากลำคอ บ่งบอกเป็นกลายๆ ว่าอย่ามารบกวนเวลานอนของเขา นิสสาทำได้แต่เพียงนอนนิ่งๆ ราวกับหมอนข้าง ให้ท่านประธานจอมโหดของเธอกอดก่ายไปมาอยู่อย่างนั้น เพราะเธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปลุกเขา แต่เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น ตีเท่าไรก็ไม่กระดุกกระดิก ยิ่งขยับก็ยิ่งกระชับร่างบางให้แน่นขึ้น
“กูจะบ้าตายเอาไงวะเนี่ย”
“ท่านประธานคะตื่นได้แล้ว!!!”
เสียงร้องตะโกนดังลั่นห้องของนิสสา ทำเอาคนตัวใหญ่ร่างกายกำยำยกมือข้างขวาที่โอบรัดเธออยู่ขึ้นมาปิดปากคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างกายจนนิสสาแทบหายใจไม่ออก
“บอกว่าอย่าเสียงดังผมจะนอน”
น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยขึ้นทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ คามินไม่ได้สนใจเลยว่าใครร้องเรียกเขา ตอนนี้เขาสนใจแค่ว่าตนเองต้องการนอนหลับพักผ่อนก็เท่านั้น
“อื้อ อื้อ อื้อ”
เสียงร้องอู้อี้ออกมาจากลำคอของนิสสา ฟังไม่ได้ศัพท์เพราะโดนมือหนาปิดปากเอาไว้ไม่ให้เอ่ยอะไรออกมา เธอพยายามเปล่งเสียงร้องแต่ก็สูญเปล่าจนตนเองต้องจำใจนอนอยู่เงียบๆ ให้เขาตื่นขึ้นมาเอง จนไม่นานนิสสาก็เผลอหลับคาอ้อมกอดอุ่นของคามินไปอย่างง่ายดายเพราะความเหนื่อยล้า
รุ่งอรุณเช้าวันใหม่ พนักงานต่างเริ่มเข้ามาทำงานกันตามปกติเหมือนอย่างเคยๆ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวัน แม่บ้านใช้กุญแจเสียบเข้าไปที่ลูกบิดประตูห้องท่านประธานเพื่อทำความสะอาดก่อนเจ้านายตัวเองจะมาทำงานเหมือนอย่างเคย
ประตูห้องถูกเปิดออกคุณป้าแม่บ้านก็ปัดกวาดเช็ดถูกโต๊ะทำงาน ทุกซอกทุกมุม จนมาถึงห้องนอนที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องทำงาน ประตูถูกเปิดแง้มเอาไว้ แต่คุณป้าก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปด้านใน เพราะถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทำความสะอาดก็จะไม่เข้าไปได้ เธอไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าท่านประธานของตัวเองไม่ได้ปิดประตูก่อนออกจากออฟฟิศเท่านั้น เลยถือวิสาสะจะเดินไปปิดให้ แต่ก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า
คามินกำลังนอนกอดกับนิสสา ร่างทั้งสองราวกับว่าจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากหยักประทับอยู่บนหน้าผากมนของคนตัวเล็ก คุณป้าแม่บ้านวัยกลางคนถึงกับตกใจไม่น้อย ร้องอุทานออกมาอย่างดัง
“ว๊าย ตายแล้ว!!....ท่านประธาน ดิฉันขอโทษค่ะ”
คามินได้ยินเสียงหวีดร้องของหญิงแก่ ก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามอง สะบัดหัวไปมาสองสามที เพื่อเรียกสติตัวเอง เขาถึงกับผงะเมื่อเห็นตัวเองกำลังนอนกอดก่ายร่างบางราวกับว่าเป็นคู่สามีภรรยากัน นิสสาเองก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา มองเห็นคนตรงหน้าเป็นคามิน ที่กำลังจ้องมองหน้าเธอด้วยสายตางุนงง ปนสงสัยและตกใจไม่น้อย
“คุณมาอยู่ในนี้ได้ไงเนี่ย!!”
“ท่านประธานนั่นแหละ!!”
ทั้งสองผละตัวออกจากกันทันที คนตัวเล็กรีบเอามือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดหน้าอกอิ่ม ที่แทบจะล้นทะลักออกมาของเธอทันที เมื่อเห็นคามินจ้องมองมันตาค้าง สภาพผมกระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงราวกับผ่านศึกสงครามครั้งใหญ่ ทำให้คนที่ยืนมองอยู่หน้าประตูเข้าใจผิดคิดเป็นอื่น
“ไม่ใช่อย่างที่ป้าคิดนะคะ หนูกับท่านประธานไม่ได้มีอะไรกันค่ะ”
นิสสารีบเอ่ยปัดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นท่าทีของคุณป้าที่ทำสีหน้าท่าทางราวกับว่าทั้งคู่ผ่านศึกราคะกันมาเมื่อคืน เพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวของคามินก็ถูกปลดกระดุมออกไปสามสี่เม็ด จนเผยให้เห็นหน้าอกแกร่ง ลามไปถึงหน้าท้องอันแบนราบที่มีกล้ามเนื้อชวนมอง
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ป้าขอตัวก่อนนะคะ”
“อืม...”
คามินยกมือขึ้นสะบัดมือไปมาสองสามที ให้ป้าแม่บ้านออกไปข้างนอกก่อน แล้วหันมามองคนตัวเล็กที่นั่งหน้าซีดอยู่ตรงหน้าตาขวาง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองนิสสาอย่างเอาเรื่องที่เห็นเธอมานอนอยู่ในห้องนี้
“คุณมานอนทำไมตรงนี้”
นิสสาเม้มปากเข้าหากันแน่น มือทั้งสองยังคงปิดหน้าอกตัวเองเอาไว้ มือหนาค่อยๆ ยกขึ้นมาจับเส้นผมสีบลอนด์เทาที่ยุ่งเหยิงให้มันเข้าที่อย่างลืมตัว
“ก็นิสสาไม่มีรถกลับบ้าน เลยมาปลุกท่านประธานน่ะสิคะ”
“หวังว่าจะมาขอความช่วยเหลือ ไม่คิดว่าจะมาซวยแบบนี้”
“แต่นิสสาไม่ผิดนะคะ นิสสาปลุกเท่าไรท่านประธานก็ไม่ตื่น แถมยังดึงนิสสาไปกอดไม่ปล่อยเลย ดิ้นแทบตาย หายใจก็ไม่ออก รู้ไหมนิสสาเกือบขาดอากาศหายใจตายเพราะท่านประธานรู้ไว้ซะด้วย”
เธอสาธยายยาวเป็นหางว่าวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คามินถึงกับไปไม่เป็น ไม่คิดว่าคนที่ผิดจะเป็นตัวเอง เขาแก้เก้อด้วยการลุกขึ้นจากเตียงแล้วติดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ทีละเม็ด
“หยุดพูดก่อนที่ฉันจะไล่เธอออก มาวันแรกก็พาซวยเลย”
ประโยคเน้นย้ำทำนิสสาหยุดพูดทันที เขาตวัดหางตามองนิสสาที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงไม่ไปไหน พลางคิดในใจป่านนี้เรื่องนี้รู้ไปทั่วบริษัทแล้ว เพราะเมื่อครู่ที่ป้าแม่บ้านกรีดร้องมีพนักงานเข้ามามุงดูอยู่หลายคน
“ลุกขึ้นสิ...จะนอนต่อรึยังไง?”
คามินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว แววตาดุจดั่งมัจจุราชจ้องมองมาราวกับว่าจะกระชากวิญญาณนิสสาให้ลงหลุม เธอทำตามอย่างว่าง่าย รีบลุกขึ้นมายืนนิ่งอยู่ที่ปลายเตียง พลางมองหน้าคามินตาปริบๆ ตอนนี้หัวสมองของเธออื้อไปหมดไม่รู้จะทำอย่างไรต่อเลย
“เอายังไงต่อดีคะท่านประธาน”
“ก็ไปทำงานสิ”
“แต่นิสสายังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวาน ชุดก็ชุดเดิม ฟันก็ยังไม่ได้แปรง นิสสาทนเหม็นขี้ฟันตัวเองไม่ได้หรอกนะคะ”
“เรื่องมาก”
“อาบน้ำในห้องนี้ แปรงสีฟันอยู่ในลิ้นชัก”
นิ้วชี้ข้างขวาชี้ไปที่ลิ้นชักที่อยู่บนหัวเตียง ยังโชคดีที่เขายังมีน้ำใจให้ใช้พื้นที่ส่วนตัวของเขาอยู่บ้าง เธอรีบแทรกตัวผ่านหน้าคามินไปยังห้องน้ำทันทีไม่รีรอ เพื่อทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จก่อนที่ใครๆ จะเข้ามาเห็นอีก
“ยายบ้าเอ๊ย ทำป่วนตั้งแต่วันแรกเลย”
คามินเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอน เขายังไม่ได้ไปไหน ร่างใหญ่เอนหลังลงนอนบนที่นอนอีกครั้ง พลางยกแขนข้างขวาขึ้นก่ายหน้าผากอย่างรู้สึกหนักอกหนักใจ ชื่อเสียงความน่ายำเกรงที่สั่งสมมาเสียเพราะเลขาฯ จอมป่วนคนเดียวแท้ๆ
“เฮ้ยๆ เมื่อคืนเอานิสสามานอนด้วยเหรอ”
“ฉันจะไปส่งไม่ให้พาไป หวงก้างนี่หว่า”
เสียงเหมันต์ดังขึ้นมาก่อนตัว ประตูห้องถูกเปิดออก คนตัวสูงรีบจ้ำอ้าวเดินเข้ามาหาคามินที่นอนอยู่ด้านในทันที ไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาตแม้แต่คำเดียว
“เข้ามาได้ไง ฉันยังไม่ได้อนุญาตแกเลย”
เขาตวาดเพื่อนรักของตัวเอง รู้สึกฉุนที่อยู่ๆ ก็โดนบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต
“อะไรนะคะท่านประธาน”
นิสสาในชุดคลุมอาบน้ำ มือข้างหนึ่งกำลังใช้ผ้าขนหนูสีขาวขยี้หัวตัวเองจนฟูฟ่อง ส่วนมืออีกข้างกำลังแปรงฟันอยู่ เดินออกมาจากห้องน้ำหน้าตาเฉย เพราะนิสสาคิดว่าคามินเรียกเธอ
“เอ่อ........”
นิสสารีบผลุบตัวหายเข้าไปในห้องน้ำทันที เมื่อเห็นเหมันต์ยืนคุยอยู่กับคามิน เธอทำเสียเรื่องอีกแล้ว เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่แล้ว คราวนี้เหมันต์ต้องเข้าใจผิดไปกันใหญ่แน่ๆ คามินถึงกับยกมือข้างขวามาตบที่หน้าผากตัวเองอย่างจัง