6 - พระแม่ลักษมีตกงาน
เช้าวันต่อมา
ผมหลบอยู่ที่คอนโดตัวเองอยู่พักหนึ่ง เพราะผมกลัวว่าจะเจอหัวโจทก์และนักเลงที่ผมไปหาเรื่องวันนั้น เกิดมันรู้ว่าผมอยู่ระแวกนี้มันตามสืบจนเจอ เล่นงานผมไม่เหลือตัวตนแน่นอน ผมเป็นผู้ชายที่เลือดพร้อมบวก ทำตัวเสเพลพร้อมหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน มันเป็นสัญชาตญาณผู้ชายที่ครอบครัวผมสอนมา ถึงผมจะชอบหาเรื่องผู้ชาย แต่ผมชอบผู้ชายกันเองมันดูขัดแย้ง แต่ความชอบของผมถือว่าเป็นทั้งความถูกต้องและความถูกใจ
ผมจะอยู่ในห้องนานเป็นวันก็คงไม่ใช่ตัวตนผมสักเท่าไหร่ ผมหยิบขวดฟองสบู่ติดมือออกไปด้วยเพราะผมจะเอาของสิ่งนี้ออกไปตามหาความรักที่ผมคิดว่าอาจจะเจอมันในอนาคต มันดูเป็นความเชื่องมงาย ผมกำลังทำตัวบ้าบอเหมือนปอแก้วไปได้ แต่ความเชื่อผมมีหลักฐานและความเป็นไปได้มากกว่าปอแก้วเสียอีก คิดได้ยังไงว่าประเทศไทยเราจะมีหิมะและมีขั้วโลกเหนือให้นอนสูดความเย็นฉ่ำปอด
“หวังว่าเจ้าจะตามหาความรักให้ข้อยได้เด้อ”
ผมไม่ได้เป็นคนทางนั้นแต่ว่าผมชอบพูดภาษาต่างประเทศได้ซึ่งไม่ได้ออกไปจากเขตภาษาไทยเลย แต่เวลาพูดใส่ของชิ้นนี้แล้วมันดูมีความขลังเพิ่มพลังในการตามหาความรักของผมให้เจอ คนที่ผมชอบอาจจะซ่อนอยู่บนโลกใบนี้ก็ได้ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะหาในวันเดียวเจอ แต่ผมจะตามหามันจนกว่าจะเจอเอง
ฟรู้ววว
ผมทดลองเป่าก่อนจะหยิบมันติดตัวไปเวลาผมอยากไปพักผ่อนใจ ชีวิตผมได้เงินด้วยงานง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แค่นี้ผมก็เป็นมหาเศรษฐีที่ใครก็ต้องอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด ผมออกมาอย่างระแวงกลัวว่าจะมีใครตามมาเจอ ผมมองดูอย่างถี่ถ้วนถือว่าทางสะดวก ผมออกมาจากคอนโดแล้วเดินทางไปตามจุดหมายอย่างสบายใจ
“ทำแบบนี้ไอ้นอร์ทมันจะไม่สงสัยเหรอ”
ใครบางคนนั่งเฝ้ามองนอร์ทผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์จอน้ำแข็งอยู่ที่ส่วนหนึ่งของโลกที่ไม่มีใครรู้นอกจากพวกเขาเท่านั้น ผมเป็นหัวหน้าทีมของพวกเขาแต่ทำไมผมต้องทำตาใจพวกมันทุกคนด้วย ถ้าแบบนี้ทุกคนก็เป็นมิสเตอร์นอร์ทโปลได้หมดน่ะสิ
“ไม่หรอก มันน่ะเสพก***าจนเห็นภาพหลอนทุกนาทีอยู่แล้ว มันจะเสพไม่เสพมันก็เห็นภาพหลอนอยู่ดี” ปอแก้วบอกกับชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งมองชีวิตของนอร์ทผ่านหน้าจอ ผมนำเสนอความคิดให้คนตรงหน้าที่ผมเรียกว่ามิสเตอร์นอร์ทโปลมาตั้งแต่เข้าทีม ผมอยากให้นอร์ทมองเห็นสิ่งดี ๆ ที่อาจมองข้ามไปนั่นคือการค้นหาความรัก
“มึงก็พูดไป เอ็นดูความพยายามเขา”
“คุณมิสเตอร์นอร์ทโปลจะลงสนามเลยไหมครับ” จะว่าไปผมและลูกทีมคนอื่น ๆ อีกสี่คนรวมถึงตัวผม ลงไปบนโลกมนุษย์นานจนซึมซับอะไรที่อยู่ในประเทศเขตร้อนที่เขาจิ้มพิกัดให้ผมและคนอื่นลงไปใช้ชีวิตให้เหมือนมนุษย์มากที่สุด น่าเสียดายที่ชายตรงหน้ายังไม่ลงไปแต่ฝากของบางอย่างที่เป็นของเล่นให้มนุษย์ได้ทดลองใช้มัน
“งั้นปอแก้วและคนในทีมช่วยเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาให้คนในโลกใช้หน่อยสิ ให้เร็วที่สุดเลยล่ะ” มิสเตอร์นอร์ทโปลหยิบแผ่นโปรแกรมและโน้ตบุ๊คคู่ใจของเขามาให้ผม เขาบอกให้ผมไปพัฒนาเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมามันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากปัญญาที่ผมคิดว่าพระแม่ลักษมีตกงานแน่นอน
Northpole.com
ผมทำการกรอกรหัสและเริ่มทำการสร้างโปรแกรมและเว็บไซต์ ลูกเล่นต่าง ๆ พร้อมเวทมนตร์ผ่านโลกออนไลน์ เพราะของสิ่งนี้วิธีใช้งานง่ายนิดเดียวที่เหลือยากไปหมด แค่ตั้งจิตให้มั่นแล้วกดค้นหาทันที พรหมลิขิตจะส่งคนที่ใช่มาให้ผ่านเว็บไซต์นี้เป็นอันเสร็จสรรพ เพียงแค่หาคนตรงหน้าให้เจอ ฟังดูมันเหมือนเกมแต่คุ้มค่ากับการได้ทำมันเลยก็ว่าได้ ผมจะทำให้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนบนโลกให้ดีที่สุด
ตริ๊งงง!
“หวังว่าจะตอบโจทย์ให้นอร์ทได้ความรักจากคนที่ใช่นะครับ” ผมยิ้มและกำลังพัฒนาเว็บไซต์ สร้างมันขึ้นมา นิ้วผมรัวแป้นพิมพ์จับเม้าส์และมองหน้าจออย่างมีสมาธิที่สุด ภาษาคอมพิวเตอร์ผิดไปตัวเดียวทำการประมวลผลใช้งานพังทั้งหมด ผมต้องตั้งสมาธิและรอบคอบที่สุดจะได้ไม่ใส่ภาษาคอมพิวเตอร์ผิดเพี้ยนเพราะสมาธิของผมเด็ดขาด
มิสเตอร์นอร์ทโปลมองดูปอแก้วบอกเลยว่าความพยายามกับการเรียนรู้คอมพิวเตอร์บนโลกมนุษย์ ถือว่าไม่สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย วิชาที่เขาได้มาจะนำมาสร้างอินเตอร์เนตความเร็วสูงในขั้วโลกเหนือ พร้อมไฟฟ้าครบครันแค่นี้ทุกอย่างผมก็อาศัยอยู่ได้แล้ว ไม่แพ้ปัจจัยอาหารและเครื่องดื่ม
‘ใครว่าผมไม่เคยสงสนามล่ะ ลงไปแบบไม่รู้ตัวแล้วต่างหาก’
บนโลกมนุษย์
ปอแก้วกลับมาในโลกมนุษย์ ผมจะติดต่อทุกคนผ่านหูฟังแท่งแม่เหล็กที่เป็นอุปกรณ์คู่ใจผม ผมเดินไปพร้อมเอานิ้วแตะหูฟัง เวลาสลับพื้นที่ที่อุณหภูมิต่างกัน ผมจะต้องเปิดความเย็นให้อากาศล้อมรอบตัวผมให้เป็นการปรับตัวไม่งั้นผมจะเป็นหวัดและนอนจมไข้ก่อนจะไปทำภารกิจช่วยโลกมนุษย์ได้ ผมเป็นคนพร้อมสู้กับชีวิตอยากทำให้ตัวเองไม่มีเวลาว่างมากเกินไป มันไม่ใช่ตัวตนผมเลย
พรู้ววว
ผมรู้สึกได้ถึงลมเย็นของหูฟังแท่งแม่เหล็กที่สามารถปล่อยความเย็นรายล้อมตัวผมได้ ผมเดินทางจากโลกเย็นมาพื้นที่ร้อนระอุกว่าทะเลทราย ผมก็ต้องมีเครื่องปรับอากาศส่วนตัวสักหน่อยจะได้ไม่โดนอากาศร้อนเผาละลายร่างกายไปเสียก่อน ผมเดินมาที่สวนสาธารณะพบว่านอร์ทเดินเป่าฟองสบู่ไปมา ผมทำทีเข้าไปหาแกล้งกอดเหมือนคนเป็นแฟนไปเลย
“งื้อออ ที่รัก”
“อะไรของมึงเนี่ย กูไม่ใช่ผัวมึงนะ” ผมตกใจเมื่อปอแก้วเข้ามาจากด้านหลังมากอดผมแล้วทำเสียงอ้อนงื้อใส่ผม ทำเหมือนผมเป็นแฟนของเขาไปได้ ผมไม่ขัดขืนหรอกออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่ว่ากอดแล้วจูบปากใครเห็นเขาจะคิดยังไงเนี่ย
จู้บบบ
“อื้อออ”
ผมตกใจเพราปอแก้วจูบปากผม ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ผมไม่เคยโดนผู้ชายด้วยกันจูบปากมาก่อน แอบขนลุกแม้ว่าผมจะชอบเพศเดียวกันใช่ว่าผมจะไม่กลัว ผมเห็นปอแก้วทักทายแปะมือกันสักหน่อยแล้วไปนั่งที่ม้านั่ง ผมนั่งลงยังไม่ทันคุยอะไรมาก หยิบขวดฟองสบู่มาเป่าให้ฟองรายล้อมตัวผมและเขาจะได้สร้างบรรยากาศโรแมนติก
“มึงบอกว่ากูงมงายแล้วมึงไม่ต่างกับกูไหม” ผมเคยบอกกับปอแก้วว่ามันเป็นคนที่งมงายมาก แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกลายเป็นคนงมงายเสียเองมานั่งเป่าฟองสบู่ตามหาความรักมันดูเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกินกว่าจะเชื่อแต่ผมรู้สึกได้ถึงความพิศวงนี้จริง ๆ
“เป่าอยู่นั่นแหละ ปอดมึงจะพังก่อนไหม”
“สำหรับกู ปอดแข็งแรงอยู่แล้ว กูจะเป่าหาความรักจนกว่าฟองสบู่จะไม่มีให้กูเป่า” ผมยืนยันคำเดิมว่าผมจะเป่าฟองสบู่เพื่อตามหาความรักจนกว่ามันจะไม่ผลิตมาให้ผมเป่าอีก ผมยังศรัทธาในรักและความเชื่อที่ผมคิดขึ้นมาเอง ผมแกล้งเป่าใส่หน้าปอแก้วจะได้เห็นว่าเขาชอบมากแค่ไหน
“มึงคิดยังไงกับกูเนี่ย”
“ไม่เคยเกินเลย อยากเป็นเพื่อนที่แสนดีกับนาย” ผมบอกแล้วว่าผมกับปอแก้วเป็นแค่เพื่อน ผมคงให้ความรู้สึกมากกว่านี้ไม่ได้ ผมจะตามหาคนที่ชอบต่อไปด้วยการเป่าฟองสบู่ให้ฟองของมันลอยไปหาคนที่ใช่ ซึ่งในขณะที่ผมเป่า ผมไม่รู้เลยว่ามันลอยหายไปไหนหรือไปหาใคร แต่ที่แน่ ๆ คำปรารถนาของผมจะเป็นจริงในไม่ช้า
“กูช่วยเป่าไหม”
“เอาดิ”
ผมแบ่งไม้เป่าฟองให้ปอแก้วอีกหนึ่งอัน ช่วยกันเป่าให้ฟองลอยไปทั้วสวนสาธารณะ ผมมองไปรอบ ๆ บอกเลยว่าผมไปสร้างมลพิษทางการมองเห็นของคนในสวนสาธารณะหรือไม่แต่บอกเลยว่าลอยเข้าหูเข้าตาคนอื่นไปหมด ถ้ามีพัดลมผมจะเอามาเป่าให้ฟองลอยเต็มจนมองไม่เห็นไปเลย
“ไอ้พวกเวรเอ้ยยย เลิกเป่าสักที”
ผมและปอแก้วจับมือกันวิ่งหนีเพราะผมไปก่อกวนผู้คนในสวนสาธารณะจนน้ำหูน้ำตาไหลหมด พลังปอดของเราสองคนถือว่าดุดันพอสมควรถ้าไปแข่งร้องเพลงได้อันดับหนึ่งนับจากด้านล่างไปแล้ว
หารู้ไม่ว่าการที่มีคนเป่าฟองสบู่ไปทั่วสวนสาธารณะมีบางส่วนลอยไปที่แห่งหนใด แห่งหนึ่งอีกใจกลางเมืองที่เงียบสงบตามบริเวณนอกเมือง ฟองสบู่ฟองหนึ่งลอยมาโดนมือของผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องนอน ตรงโต๊ะทำงาน ผมตกใจเพราะนึกว่ามีอะไรแปลกปลอมหล่นมา ผมเกือบตกใจกรี๊ดแต่ยังเก็บอาการอยู่ ผมเห็นก็โล่งใจเพราะมันแค่ฟองสบู่เท่านั้น ไม่ได้เป็นสัตว์อะไร ผมยิ่งขี้ตกใจอยู่ด้วย จะมาสะกิดต่อมความกลัวแบบผมไม่ได้
“ฟองสบู่งั้นเหรอ...”