มังกร>> ชายหนุ่มรูปงามหน้าตาหล่อเหลา เขาเชื้อชาติไทยโดยกำเนิดแต่สัญชาติของเขาคือญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่ามังกร เพราะชื่อคล้องจองกับแม่ และราศีเกิดของเขาก็คือ #ราศีมังกร
นางกชกร แม่ของมังกรได้สามีใหม่ เป็นคนประเทศญี่ปุ่น นางก็เลยพาลูกชายย้ายไปอยู่ที่นั่น..สามีใหม่ของกชกรเป็นถึงเจ้าของบริษัทส่งออกด้านอิเล็กทรอนิกส์ อันดับต้นๆ ของประเทศนั้น
นางกชกรได้กลับมาประเทศไทยที่จริงนางไม่มีครอบครัวที่นี่แล้ว แต่..นางยังมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง และเพื่อนคนนี้ก็มีบุญคุณกับนางมากที่นางได้ดิบได้ดีจนทุกวันนี้ ก็เพราะเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ พอได้ข่าวว่าเพื่อนรักป่วยหนัก นางก็เลยเดินทางกลับมาเพื่อดูใจเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย
"เราขอฝากลูกสาวคนเดียวของเรา ให้เธอช่วยดูหน่อยได้ไหม"
"ได้สิ เราจะเอาหนูยูไปด้วย"
ทีแรกกชกรคิดว่าจะอยู่ประเทศไทยแค่ไม่กี่วันแต่นางต้องได้อยู่ต่ออีกหลายวันเพื่อจัดงานศพของเพื่อน
หลายวันผ่านไป
"แม่พูดเล่นใช่ไหมครับ?!"
"แม่พูดจริงกรช่วยแม่หน่อยนะ"
"แม่จะให้ผมช่วยอะไรก็ได้ แต่..ยกเว้นเรื่องนี้"
"แม่ไม่อยากจะรบกวนท่าน ลูกช่วยแม่หน่อยนะไดจิ" ไดจิเป็นอีกชื่อหนึ่งของมังกรที่พ่อเลี้ยงเขาใช้เรียก ความหมายก็คือลูกชายคนโต
สิ่งที่กชกรขอร้องให้ไดจิช่วยนั้นก็คือ..ขอให้เขาจดทะเบียนสมรสเพื่อจะรับลูกสาวของเพื่อนเข้าไปอยู่ในประเทศด้วยแบบถูกกฎหมาย
"แม้แต่ชื่อผมก็ยังไม่รู้จัก แล้วแม่จะให้ผมจดทะเบียนสมรสกับเธอได้ยังไง"
"เธอชื่อเลิฟยู"
"คนบ้าอะไรชื่อเลิฟยู"
ณ.ประเทศญี่ปุ่น
[บริษัทส่งออกอิเล็กทรอนิกส์]
"แม่ครับ การจดทะเบียนสมรสรับผู้หญิงเข้ามาในประเทศมันไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่แม่คิดไว้นะ" ทีแรกมังกรคิดว่าแม่ของเขาจะไม่จริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนี้ แต่พอแม่ลงทุนเดินทางกลับมาที่ประเทศเพื่อขอร้องเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ชายหนุ่มก็เลยพยายามหาเหตุผลมาพูดเผื่อแม่จะเปลี่ยนใจ
"แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของลูกแม่หรอก แม่รู้ว่าไดจิเก่ง" ถ้าไม่งั้นลูกชายของนางคงจะไม่บริหารงานช่วยสามีมาจนเจริญรุ่งเรืองขนาดนี้ ตั้งแต่มังกรเรียนจบเขาก็เริ่มทำงานที่บริษัทของพ่อเลี้ยงโดยเป็นผู้บริหารระดับสูง
"แล้วแม่จะรับผู้หญิงคนนั้น เข้ามาในประเทศทำไม ถ้าแม่อยากจะ ดูแลเธอก็แค่ส่งเสียเธอไปก็พอแล้ว" เขารู้ดีว่าแม่ของเขาต้องการจะทดแทนบุญคุณเพื่อนรักคนนั้น แต่ถ้าจะให้เขาทำถึงขนาดนี้มันก็มากเกินไป
"ถ้าลูกเห็นน้อง ลูกจะเอ็นดูน้องเหมือนแม่ ลูกจะไม่รับน้องเป็นภรรยาก็ได้ พอน้องได้วีซ่าถาวรแล้วลูกจะหย่าแม่ก็ไม่ว่า"
"แม่รู้ไหมว่ากว่าจะได้เอยูมันต้องใช้เวลานานเท่าไหร่"
"ทำไมแม่จะไม่รู้ล่ะมังกร"
"เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันดีกว่าครับแม่" ชายหนุ่มจับแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า ขึ้นมาเคลียร์งานต่อเหมือนจะไม่สนใจคุยกับผู้เป็นแม่แล้ว
"ไม่พูดไม่ได้ ต้องพูดให้รู้เรื่องวันนี้ เพราะตอนนี้น้องอยู่ที่บ้าน"
"ห๊า?!"
กชกรเซ็นต์ค้ำประกันเพื่อให้เลิฟยูเดินทางเข้าประเทศด้วย นางเอาที่อยู่และเซ็นต์เป็นคนค้ำประกันด้วยตัวเอง
แต่เลิฟยูมาในฐานะท่องเที่ยวได้เท่านั้น ท่องเที่ยวในที่นี้มีสองรูปแบบคือเดือนครึ่ง และ สามเดือน แต่ทั้งสองรูปแบบต้องมีคนเซ็นต์ค้ำประกันว่าคนๆ นี้จะไม่หนี ถ้าครบกำหนดแล้วจะต้องออกจากประเทศ
"แล้วโอโต้ซังรู้เรื่องนี้หรือยัง" (โอโต้ซัง'พ่อ')
"แม่ไม่ได้บอกโอโต้ซังหรอก ถ้าท่านรู้..ก็เหมือนมังกรนี้แหละ จะดุแม่เอาเปล่าๆ"
"แล้วแม่จะให้เหตุผลโอโต้ซังยังไง" เพราะถ้าอยู่ดีๆ มีผู้หญิงแปลกหน้ามาอยู่ในบ้านแบบนั้น พ่อเลี้ยงของเขาต้องถามแน่ว่าเธอเป็นใคร
"แม่ว่าจะบอกโอโต้ซังว่าหนูเลิฟยูเป็นคนรักของลูก"
"อะไรนะครับแม่! นอกจากจะให้ผมเล่นละครกับสถานทูตแล้ว ยังจะให้ผมเล่นละครกับโอโต้ซังอีกเหรอ?"