เช้าวันต่อมา..
เสียงฝีเท้าใครบางคนกำลังเดินลงมาจากบันได พอเลิฟยูได้ยินหญิงสาวรีบลุกขึ้นม้วนผ้าห่มเก็บแล้วยัดลงไปไว้หลังโซฟา
"ตื่นเช้าดีนี่" เสียงชายชราที่เพิ่งจะเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายได้พูดขึ้น
"คุณลุงก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะคะ" เลิฟยูแกล้งลุกขึ้นมาแล้วอัพแอนด์ดาวน์อยู่ตรงนั้น เพราะมันเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดแล้วสำหรับคนที่ตื่นเช้ามืดและลงมาข้างล่างในวันที่อากาศหนาวเย็นขนาดนี้
"เตรียมตัวออกไปทำงานพร้อมกัน" ฮิโตชิอยากจะดูว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านหรือไม่
"ค่ะ" เลิฟยูไม่ปฏิเสธ เธอเดินขึ้นไปด้านบน โดยมีสายตาพ่อเลี้ยงของเขามองตามขึ้นไป หญิงสาวจำเป็นต้องได้เดินไปที่ห้องนอนของชายหนุ่ม
"คุณ..คุณ~" เธอเรียกเบาๆ เพื่อให้เขามาเปิดห้องให้ เพราะถ้าเคาะประตูพ่อเขาคงได้ยิน
แต่ก็เงียบ..
"คุณ! คุณ!! ไฟไหม้"
แกร้ก!! พอได้ยินคำว่าไฟไหม้ประตูบานนั้นก็ได้ถูกเปิดออก
หญิงสาวรีบดันประตูนั้นเข้าไปด้านในพร้อมกับปิดไว้ทันที
"เมื่อกี้ถ้าฟังไม่ผิด เหมือนเธอบอกว่าไฟไหม้เหรอ!?"
"คุณก็ได้ยินนี่ ทำไมไม่เปิดให้ตั้งแต่ทีแรก"
"เล่นอะไรบ้าๆ"
"ก็พ่อเลี้ยงคุณยืนมองอยู่ข้างล่าง ถ้าท่านเห็นว่าคุณล็อกห้อง แล้วฉันจะแก้ตัวยังไงล่ะ"
"ฉันจะเอายังไงกับเธอดียัยจุ้น!"
"ที่ทำงานคุณแต่งตัวแบบไหนเหรอ ฉันมีแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์นะ" หญิงสาวแกล้งไม่สนใจคำพูดของเขาถึงสนใจไปเธอก็ขัดแย้งอะไรไม่ได้..เป็นแค่ผู้อาศัยนี่หน่า
"อย่าบอกนะว่าเธอจะไปทำงานจริง แบบเธอจะทำอะไรได้"
ปากแบบนี้สงสัยจะเกิดปีจอแน่เลย..(ได้แต่คิดในใจก็เอาวะ)
ติ๊ก~
นาทีนี้ไม่มีอะไรฉุดเธออยู่แล้ว พอเขาเปิดกุญแจรถเท่านั้นแหละ หญิงสาวรีบเปิดประตูฝั่งคนนั่งด้านข้างทันที ร่างบางยันกายตัวเองขึ้นไปนั่งพร้อมกับคาดเซฟตี้เบลท์
เขาได้แต่มองแล้วส่ายหน้า ชายหนุ่มเปิดประตูด้านหลังเพื่อที่จะวางกระเป๋า แล้วก็เดินมานั่งประจำที่คนขับ
"คิดว่าตัวเองทำงานอะไรได้บ้าง" เขาชวนเธอคุยระหว่างที่ขับรถออกมา
"ฉันทำได้หมดทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ล้างห้องน้ำเลยล่ะ" เธอก็ไม่รู้ว่าจะช่วยงานอะไรเขาได้บ้าง เพราะที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย ความรู้เธอก็มีไม่มาก
"ถ้าคุณนายแม่ฉันรู้ว่าให้เธอมาล้างห้องน้ำ มีหวังฉันหูชา"
"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้แต่ภาษาญี่ปุ่นฉันไม่เป็นเลยนะ ส่วนภาษาอังกฤษ..ก็ไม่เป็นเหมือนกัน" ที่จริงเธอก็พอได้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะเรียนไม่จบ
"หึ..แม่นะแม่" ตอนนี้เขาคงจะโทษใครไม่ได้แล้วนอกจากแม่ตัวเอง
ขับรถชั่วโมงหนึ่งเขาก็ได้มาจอดที่หน้าบริษัท
[บริษัทส่งออกอิเล็กทรอนิกส์]
ที่เรียกว่าบริษัทส่งออกเล็กทรอนิกส์ เพราะบริษัทของพ่อเลี้ยงเขา ผลิตในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกต่างประเทศ ส่วนมากจะเป็นโซนเอเชีย แน่นอนว่าต้องมีไทย
ที่จริงเขาก็มีบริษัทในเครือที่อยู่ประเทศไทย รอรับงานจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ช่วงไหนส่งออกมาที่ประเทศไทยเยอะ เขาต้องได้มาดูงานเอง และนั่นมันก็เลยเป็นข้ออ้างที่กชกรดึงมาอ้างว่ามังกรรู้จักกับเลิฟยูเพราะช่วงที่มาดูงาน
"โอ้โห้" บริษัทนี้กว้างใหญ่มาก ถึงแม้ว่าจะไม่สูงเท่าไหร่ แต่เนื้อที่กว้างขวาง "ฉันคิดว่าฉันคงจะทำความสะอาดไม่ไหวแล้วล่ะคุณ"
"ถือกระเป๋า แล้วเดินตามฉันมา" เขายื่นมือไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่อยู่ด้านหลังส่งให้เธอเป็นคนถือ
พอลงรถได้ ชายหนุ่มก็ก้าวเดินเข้าไปด้านใน
หญิงสาวต้องรีบวิ่งตามหลังไป และเธอก็เป็นเป้าสายตาของผู้คนที่อยู่ในบริษัทเขามาก