ตอนที่ 2 ข้อตกลงสามเดือน

1174 Words
สองวันต่อมา “คุณย่าคะ ได้เวลากินยาก่อนอาหารแล้วนะคะ” หวานเย็นเดินเข้ามาในห้องของคุณยาเอื้องฟ้าพร้อมแก้วใส่ยาและแก้วน้ำในมือ สองวันมานี้เธอมาค้างที่ไร่เพื่อคอยดูแลคุณย่าอย่างใกล้ชิด “ขอบใจนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้หนู ย่าคงเหงาแย่เลย” “พูดอะไรแบบนั้น ตอนหนูเด็กๆ คุณย่าก็คอยดูแลหนูบ่อยไป พ่อชอบเที่ยวของหนูคงเอาหนูมาฝากคุณย่าบ่อยเลยสินะคะ” หญิงสาวพูดไปหัวเราะไป เธอต้องการให้คุณย่าที่เอาแต่นั่งเหม่อมองไปนอกระเบียงได้ยิ้มออกมาบ้าง ตั้งแต่นนท์นธีเข้ากรุงเทพฯ เขาก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ซึ่งหวานเย็นก็ไม่กล้าบอกเรื่องที่เขาไปรับแฟนสาวมาหาคุณย่าเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่ม จึงได้แต่โกหกไปว่าเขาเข้าไปทำธุระเท่านั้น “ไม่หรอก เพราะพ่อของหนู ย่าถึงได้หัวเราะได้บ่อยๆ ตานนท์น่ะ...ตั้งแต่เสียพ่อแม่ไปก็กลายเป็นเด็กเงียบขรึม ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยหัวเราะ อยู่กันแค่สองคนย่าหลานทีไรก็มีแต่ความเงียบทุกที แต่ว่า...พอมีหนูเข้ามา ไร่นี้ก็ไม่เงียบอีกเลย” “นั่นเป็นคำชมหรือเปล่าคะเนี่ย” หวานเย็นชักไม่แน่ใจว่าคุณย่ากำลังชมเธอหรือไม่ หญิงสาวรับแก้วยาและแก้วน้ำจากคุณย่าไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะมานั่งลงบนพื้นข้างเตียงแล้วบีบนวดแขนให้ “ชมสิจ๊ะ ย่าเชื่อว่านธีเองก็ต้องคิดเหมือนกัน ย่าเลี้ยงเขา ย่ารู้ว่าเขาชอบอะไรและไม่ชอบอะไร” “แต่เรื่องของหนู คุณย่าอาจจะคิดผิดก็ได้นะคะ” “ไม่หรอกจ้ะ ย่ามั่นใจ” คุณย่าพยักหน้ายืนยันด้วยรอยยิ้ม หวานเย็นเองก็อยากจะเชื่อแบบนั้น เธออยากจะเชื่อที่คุณย่าบอกว่านนท์นธีชอบเธอ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา การกระทำและการแสดงออกของเขาไม่ได้มีตรงไหนใกล้เคียงกับคำว่า ‘ชอบ’ เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เด็กๆ มีแต่เธอที่คอยเดินตามเขาต้อยๆ พอพยายามที่จะขึ้นไปเดินเคียงข้าง ก็จะมีผู้หญิงคนอื่นมายืนก่อนเสมอ และท้ายที่สุด...เธอก็จะต้องกลับไปยืนมองเขาจากทางด้านหลังเหมือนเดิม แม้กระทั่งตอนนี้...ผู้หญิงที่เขารักก็ยังเป็นคนอื่นอยู่ดี ก๊อกก๊อกก๊อก ประตูห้องถูกเคาะก่อนจะเปิดออก ชายหนุ่มที่ถูกพูดถึงยืนตีหน้าขรึมอยู่ที่ประตู เขายกมือสวัสดีคุณย่าเอื้องฟ้าก่อนจะกวักมือเรียกหวานเย็น “ยัยลิง ออกมานี่ซิ” “ไปสิจ๊ะ” คุณย่าเอื้องฟ้าเอ่ยเมื่อเห็นว่าหวานเย็นเอาแต่มองหน้าคุณย่าไม่ยอมลุกขึ้นไปหาเขา เมื่อได้รับอนุญาต หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปหานนท์นธี “อ๊ะ...” ทันทีที่เข้าใกล้ เธอก็ยกมือขึ้นอุดจมูกด้วยเหม็นกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งมาจากตัวของร่างสูง นนท์นธีรีบกระชากเธอออกมาจากห้องแล้วปิดประตู “พี่กินเหล้ามาเหรอ” หวานเย็นถามพลางจับตัวเขาด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของนนท์นธีในตอนนี้ดูไม่ดีเลยสักนิด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจของเขา “ไม่ต้องยุ่งหรอก อาการของคุณย่าเป็นยังไงบ้าง” “ก็ดีนะ แต่คุณย่าเอาแต่นั่งซึมมองออกไปนอกระเบียง ทานข้าวได้น้อยลงด้วย” “งั้นเหรอ” นนท์นธีเม้มปากแน่น เขาดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด พอเห็นเขาเป็นแบบนี้ หญิงสาวก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะแขนเขา “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า บอกฉันได้นะ” “สามเดือน” “หื้ม?” “หมอบอกว่าคุณย่ามีเวลาอีกแค่สามเดือน เพราะฉะนั้น...เธอกับฉัน...” “...” “เราจะแต่งงานกันแค่สามเดือน” คำพูดที่ออกมาจากปากของนนท์นธีเสมือนนาฬิกาหยุดเวลาชีวิตของเธอ หวานเย็นยืนตาโตอ้าปากค้างมองเขาตาไม่กะพริบจนชายหนุ่มต้องใช้สองมือกดปากเธอให้ปิดลง “เพื่อให้คุณย่าสบายใจในช่วงสุดท้ายของชีวิต พวกเราจะแต่งงานกัน แต่แค่สามเดือนเท่านั้น หลังจากที่คุณย่าจากไปเมื่อไหร่ พวกเราจะหย่ากันทันที แน่นอนว่าในช่วงเวลาสามเดือนนั้น ฉันจะไม่แตะเธอแม้แต่ปลายก้อย เราจะนอนแยกเตียงกันทุกคืน” นนท์นธีบอกรายละเอียดข้อตกลงทั้งหมดที่เขาครุ่นคิดมาเป็นอย่างดีแล้วแก่เธอ หวานเย็นที่ได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วด้วยฟังดูทะแม่งๆ เหมือนจะได้แต่งงาน...แต่ก็เหมือนไม่ได้แต่งงาน เธอคิดในใจ “พี่กำลังพูดถึง...การแต่งงานแค่ในนามใช่ไหม” “ใช่” คำตอบของเขาช่างเฉยชาและเลือดเย็นเสียจริง หวานเย็นได้แต่แกล้งยิ้ม เก็บอารมณ์ความน้อยเนื้อต่ำใจที่สะสมอยู่เอาไว้ แม้อยากจะปฏิเสธเขาใจแทบขาด แต่ความกตัญญูและความรักที่เธอมีต่อคุณย่า เอื้องฟ้าก็ทำให้เธอต้องห้ามปากตัวเองเอาไว้ “ก็ได้ค่ะ เพื่อคุณย่า ฉันจะ...แต่งงานกับพี่” นนท์นธีมองหน้าหญิงสาวที่ให้คำตอบกลับมาในทันทีด้วยสีหน้านิ่ง นัยน์ตาของเขาสะท้อนภาพของหวานเย็นอยู่ในนั้น “แน่ใจนะ จะไม่ขอเวลาไปคิดทบทวนหน่อยเหรอ” “ทำไมต้องคิดล่ะ พี่ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าฉันต้องไปแต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้สิถึงค่อยคิดหนัก” “แต่นี่มันคือการแต่งงานเลยนะ อย่างน้อยเธอก็น่าจะอยากแต่งงานกับคนที่เธอรักไม่ใช่หรือไง” หญิงสาวเบือนหน้าหนี ไม่รู้ทำไมคำพูดของเขาถึงทำให้เธออยากจะร้องไห้นัก ทั้งที่ตอนเรียนก็ได้รางวัลนักเรียนเรียนดีมาตลอดแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงดูเธอไม่ออกเสียที “ช่างฉันเถอะน่า ฉันบอกแต่งก็คือแต่ง เรื่องอื่นพี่ไม่ต้องห่วงหรอก” “ถึงเธอจะทโมนแค่ไหนแต่เธอก็เป็นผู้หญิงนะ เรื่องแบบนี้สำคัญสำหรับผู้หญิงมาก แล้วจะไม่ให้ฉันห่วงได้ยังไง” “ไอ้พี่บ้า” “อะไรนะ?” “ฉันจะกลับแล้ว ที่เหลือพี่ก็บอกคุณย่าเองแล้วกัน เอาเป็นว่าฉันตกลงตามที่พี่บอกทุกอย่าง” หวานเย็นร่ายยาวเป็นชุดก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดไปโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าสบตากับนนท์นธีสักวินาทีเดียว ชายหนุ่มมองตามหลังเธอด้วยความกังวล เขากลัวว่าการตัดสินใจแบบนี้จะดูเห็นแก่ตัวเกินไปสำหรับเธอ เพราหากในใจเธอตอนนี้มีชายคนรักอยู่ การต้องมาแต่งงานกับเขาเพื่อให้คุณย่าได้สมหวังและมีความสุขก่อนจากไปคงจะใจร้ายกับเธอไม่น้อย “ยัยนั่น...แอบรักใครอยู่บ้างไหมนะ” เขาครุ่นคิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD