Hafe’ s Part
ช่วงนี้พ่อนายแบบคนดังไม่ได้เล่นโซเชียลใด ๆ เลย นอกจากแอฟสีเขียวที่มีไว้ใช้ติดต่อเรื่องงานกับพี่เก๋เท่านั้น เพราะทั้งแอฟสีฟ้าเอย ทั้ง IG เอย ร่างแกร่งได้ลบทิ้งออกจากเครื่องไปหมดแล้ว
เฮฟรู้สึกรำคาญเวลามีแฟนคลับประหลาด ๆ ชอบถล่มส่งข้อความแปลก ๆ เข้ามาให้เขา แล้วมันมีเยอะมาก จนพ่อนายแบบคนดังสุดจะยุ่งวุ่นวาย สบทพึมพำบ่อยครั้งว่า “อะไรกันนักหนาวะเนี่ย?”
แถมชีวิตของนายแบบดาวรุ่งก็ยุ่งมาก ๆ ถามหาเวลาว่างที่จะเปิดดูข่าว หรือข้อความจากครอบครัวยังไม่มีเลย และที่สำคัญเฮฟทั้งเบื่อ และไม่อยากเห็น คนคนนั้น
คนที่พยายามอัพข้อความหรือรูปภาพต่าง ๆ ของตนเอง เพราะเขาไม่ได้อยากจะรับรู้ด้วย แต่ทว่าเขาคนนั้นก็ยังคงต้องพยายามติดแท็กมาให้เฮฟ เพื่อที่จะได้รับรู้การเคลื่อนไหวในชีวิตของเขาที่เฮฟไม่ได้อยากจะรับรู้ด้วยทุกครั้งเลย จนบางครั้งเฮฟยังรู้สึกคับข้องใจว่า แม่งเมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับกูสักทีว่ะ
ซึ่งมันทำให้นายแบบคนดังหัวเสียหงุดหงิดได้ง่ายขึ้นทุกครั้งเมื่อต้องได้สบเห็นมัน พอมีผลกระทบทางด้านอารมณ์ต่อการทำงานจนส่งผลทำให้เสียสมาธิได้ง่ายนั่นเอง ดังนั้นเฮฟจึงตัดสินใจลบแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นทิ้งไปซะยังจะดีซะกว่า
พอไม่ได้เล่นโซเชียล ทุกคนต้องคิดว่าแล้วเวลาว่างผมทำอะไร ?
คำตอบคือ นอนกับเล่นเกมครับ ถ้ามีงานที่ไทย ก็อ่านจดหมายที่ได้รับจากแฟนคลับด้วย
แต่ช่วงนี้พ่อนายแบบดาวรุ่ง มีบินไปต่างประเทศบ่อยครั้ง นอกจากจะถ่ายนิตยสาร นัดสัมภาษณ์ ยังเริ่มมีงานเดินแบบติดต่อเข้ามาแบบไม่ขาดสาย
เฮฟจำต้องใช้ชีวิตแบบวนลูปเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละวันด้วย แต่ทว่าก็ไม่เห็นจะได้รับจดหมายจาก ฟาร์รัง อีกเลย ทั้ง ๆ ที่ยังมีเรื่องของเขาที่ทำให้ ผมไม่สามารถปัดออกไปจากความคิดได้เลย...
⍣
@ Leon's House
ตอนนี้ย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว...
ที่คนตัวเล็กได้บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่กับพี่ชายของตนเอง ตอนที่ได้เจอหน้าพี่เลออนครั้งแรก
ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปโผกอดคนเป็นพี่ พร้อมปลดปล่อยน้ำตาที่พรั่งพรูร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย
แถมสะอึกสะอื้นเสียใจ อยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพี่ชายเนิ่นนาน ร่างบางคิดว่าตัวเองนั้นจะต้องทำให้พี่เลออนผิดหวังแน่ ๆ
จนคนเป็นพี่โอบกอด ปลอบประโลมน้องชายสุดที่รักอยู่นานสองนาน กว่าคนในอ้อมกอดจะทำใจให้สงบลงได้
หลังจากคนเป็นน้องเริ่มคลายความกังวล ที่กลัวว่าพี่ชายจะผิดหวังมลายหายไปแล้ว จึงได้เริ่มบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ให้พี่เลออนฟัง
ฟาร์รังรู้ว่าคนพี่ก็แอบตกใจเรื่องของตนเองนะ แต่พี่เลออนก็สามารถปรับสีหน้าอารมณ์ และเอาแต่โอบกอดคอยปลอบโยน บอกแต่ว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรซ้ำๆ โดยที่ไม่จี้ถามคนน้องสักคำว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ได้แต่เอ่ยปากบอกแค่เพียงว่า พี่จะรับเป็นลูกให้เอง
และเรื่องนี้พี่เลออนก็จะเป็นคนบอกกับป๊าให้เองด้วย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไรทั้งน้องสุดที่รักและหลานของเลออนได้แน่นอน
คนน้องแปลกใจว่าทำไมพี่เลออน ไม่มองว่าตนเองนั้นเป็นตัวประหลาด เป็นผู้ชายที่ท้องได้ แต่พี่เลออนกลับบอกว่าไม่เห็นจะแปลกเลย มันเป็นสิ่งพิเศษต่างหาก ต่างประเทศก็เคยมีเครสแบบนี้มาแล้ว
จากนั้นพี่เลออนก็พาคนตัวเล็กไปฝากครรภ์อีกด้วย ฟาร์รังจึงรู้สึกขอบคุณพี่ชายสุดที่รักมากจริง ๆ ช่างเป็นพี่ชายที่เข้าอกเข้าใจคนเป็นน้องได้ดีเสมอมา พี่เลออนดีกับฟาร์มากมายจริง ๆ
อาจจะเพราะเราทั้งคู่อายุห่างกันตั้ง 10 ปี จึงทำให้คนเป็นพี่ถึงได้เอ็นดูคนเป็นน้องเป็นพิเศษ หรือไม่ก็ยังเห็นฟาร์เป็นเด็กน้อยในสายตาของพี่คนโตเสมอ
ผมรู้สึกโชคดีจัง ที่มีเลออนเป็นพี่ชาย
ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนที่ 8 ใกล้จะได้กำหนดผ่าคลอดแล้ว
ช่วงที่คนร่างบางเริ่มกลายเป็นคนร่างท้วม มีอาการแพ้ท้องนั้น พี่เลออนก็ดูแลคนท้องได้ดีมาก
แม้นจะจ้างทีมดูแลคนท้องให้มาช่วยดูแลช่วงกลางวัน แต่คนพี่ก็แทบจะหยุดงานเพื่อมาดูแลคุณแม่มือใหม่เอง เกือบจะทุกวันเลยทีเดียว
ฟาร์รังรู้สึกเกรงใจมาก แต่พี่เลออนก็มักจะพูดปลอบคนท้องเสมอว่าไม่เป็นไร เพราะเรื่องงานของพี่เลออน ยังมีคุณเอริคคอยดูแลแทนให้อย่างดี
คนท้องแก่ ลองส่งข้อความให้พ่อนายแบบดาวรุ่งไปอีกสองครั้ง แต่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีการเคลื่นไหวใด ๆ ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าเขาคนคนนั้น จะอ่านข้อความของฟาร์รังเลยสักนิด
ดังนั้น ฝ่ายคนท้องจึงลองทักไปสอบถามจากน้องใบเฟิร์น ก็กลุ่มน้องแฟนคลับเด็กผู้หญิง ที่เคยเจอกันในวันที่ไปรอพี่เฮฟที่สตู A12 ทั้งสามคนนั้นแหละ ทั้งน้องใบเฟิร์น น้องกวางมูส น้องพะเพลง หากมีเวลาเราก็ยังคุยกันเรื่อย ๆ แต่ทว่าช่วงนี้น้องเตรียมตัวจะสอบกันแล้ว จึงค่อนข้างจะยุ่ง จึงไม่ค่อยได้ไปตามพี่เฮฟเท่าเมื่อก่อน
แถมน้องใบเฟิร์นบอกกับฟาร์ด้วยว่า ตอนนี้พี่เฮฟดังเป็นพลุแตกยิ่งกว่าเดิมเยอะเลย จึงไปรับงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้งมากกว่าอยู่ในไทยซะอีก
พ่อนายแบบคนดังอาจจะไม่ได้เล่นโซเชียลแล้ว เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวหรืออัปเดตอะไรใด ๆ เลย นอกจากแอคเค้าท์ กับเพจของออฟฟิเชียลเท่านั้น
คนท้องจึงทำได้แค่เพียงปลง และทำใจได้แล้วละ ว่าจะไม่บอกอะไรกับพี่เฮฟคนดังอีกต่อไป
เมื่อว่าที่คุณแม่มือใหม่ ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าตนเองสามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้ไม่มีปัญหา
ส่วนเรื่องเรียนของตัวเองนั้น เดี๋ยวพอเจ้าหนูน้อยโตขึ้น ฟาร์ค่อยจะกลับไปเรียนใหม่ ซึ่งตอนนี้พี่เลออนก็เตรียมพร้อมทุกสิ่ง ไว้ให้ทั้งคนแม่และคนหลานเรียบร้อย นี่มันพ่อทูนหัวชัด ๆ
ส่วนเรื่องป๊านั้น ฟาร์เคยลองเกริ่นถามกับคนเป็นพี่แต่ พี่เลออนตอบกลับมาว่า เป็นคุณแม่ก็อย่าเครียด อย่ากังวลมากนักเลย ไม่ดีต่อเด็กในท้อง เดี๋ยวเจ้าหนูน้อยในท้องจะขี้หงุดหงิดไม่ยิ้มแย้มนะ บอกปัดเรื่องป๊าตลอด จนคนร่างท้วมไม่รู้เลยว่าป๊าจะรังเกียจตนเอง มากกว่าเดิมอีกหรือเปล่า
แต่ก็ช่างเถอะครับ ถ้าป๊ารู้คงขยะแขยงผมมากกว่าเดิม
และเรื่องเพื่อนซี้สุดที่รักอีกคน หมอก เราทั้งคู่ก็ยังคงไม่ขาดการติดต่อกัน เมื่อเวลาก็เฟสไทม์หากันตลอด
หมอกบอกว่าเดี๋ยวเรียนจบแล้วจะบินมาหา อยากมาดูหน้าหลานชัด ๆ จะจับฟัดให้หนำใจเลย
หมอกก็ยังคงเป็นหมอกที่สดใส เข้ากับคนง่ายเหมือนเดิม ซึ่งบางครั้งก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถอยู่เรียนจบพร้อมกับหมอกได้
แต่หมอกก็มักจะพูดปลอบใจกลับมาเสมอ บอกว่าไม่เป็นไรตลอดเลย ไหนจะยังบอกว่า เดี๋ยวจะหอบชุดครุยมาถ่ายรูปด้วย
หรือไม่ก็รอฟาร์เรียนจบ แล้วค่อยคอสเพลย์ใส่ชุดคลุยถ่ายรูปคู่ด้วยกันอีกก็ได้ เวลาที่ได้คุยกับหมอกทีไร ฟาร์รังรู้สึกสบายใจทุกครั้งเลย
ก่อนจะกดวางสายทุกครั้ง หมอกก็มักจะขอคุยกับหลานก่อนเสมอ นี่ขนาดยังอยู่ในท้องก็ยังพยายามจะคุยอีก
จนว่าที่คุณแม่มือใหม่ต้องวางมือลูบท้องอยู่บ่อย ๆ เพราะเวลาเจ้าตัวเล็กได้ยินเสียงของอาหมอกทีไร จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ ถีบผนังท้องโต ๆ นี้ จนมันโป่งนูนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
สนุกอาหลานเขาแหละ
อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้วนะ...เจ้าตัวเล็ก
⍣
และแล้วก็ได้ฤกษ์กำหนดผ่าคลอด...
เลออนได้พาว่าที่คุณแม่มือใหม่มาพักที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวไว้ให้เรียบร้อยก่อน พอเมื่อได้เวลาผ่าคลอดจริงๆ แล้วคนท้องครั้งแรกก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันอยู่ดี
แบบนี้เขาเรียกว่าเข้าขั้นเกิดความกลัวแหละครับ!
ใครจะไม่กลัวบ้าง ?
จนทุกวันนี้คนตัวเล็กก็ยังนึกถึงผู้ชายคนนั้นอยู่ดี แต่เขาคงจำฟาร์ไม่ได้แล้วแหละครับ
เพราะฉะนั้น เลิกหวังลม ๆ แล้ง ๆ เถอะ ผมเลี้ยงเจ้าตัวเล็กคนเดียวก็ได้!
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนรักเจ้าตัวเล็กสักหน่อย ไหนจะพี่เลออน ไหนจะหมอก มีแต่คนรอรุมรักเจ้าตัวน้อยนี่กันทั้งนั้นเลย
“ฟาร์ ไม่ต้องกลัวนะครับ ต้องปลอดภัยทั้งคู่ พี่รอที่จะได้เจอเจ้าตัวเล็กอยู่นะครับ”
คนเป็นพี่เอ่ยบอกให้กำลังใจว่าที่คุณแม่มือใหม่ และคอยโอบกอดพร้อมกับลูบหลังปลอบใจให้คลายความกังวล
จนคนท้องโตรู้สึกคลายความกังวลใจไปได้เยอะ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักก็มีพยาบาลมา ว่าที่คุณแม่ป้ายแดงไปยังห้องคลอด
หลังจากนั้นคุณแม่มือใหม่ก็มีอาการมึนเบลอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรทั้งสิ้น
อุ๊แว๊ อุ๊แว๊...แอ๊...
นั่นเสียงเจ้าตัวน้อยใช่ไหม?
เสียงร้องกังวานเชียว หลังจากคุณพยาบาลนำเด็กทารก ไปทำความสะอาดแล้วพันผ้า อุ้มมาให้คุณแม่ป้ายแดงดูใบหน้าหน้าเจ้าหนูน้อย
ฟาร์รังจับจ้องมองใบหน้ากระจิริดของเจ้าตัวเล็ก แก้มกลมใสยกยิ้มขึ้นอย่างใจชื้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าที่ปลายหางตามีน้ำตาไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ
นี่สินะความรู้สึกของคนเป็นแม่คน
หลังจากนั้นคุณแม่มือใหม่ ก็ผล็อยหลับไปเลย
ฟาร์รังรู้สึกตัว เปลือกตาสีนวลค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าตนเองได้เข้ามาพักอยู่ที่ห้องพักพิเศษแล้ว
คนเป็นพี่ชายเมื่อผินหน้าหันมาสบตา มองยังใบหน้าอ่อนล้าของคนเป็นน้อง ว่าลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว จึงเอ่ยถามทันที
“ตื่นแล้วเหรอ เจ็บแผลไหมฟาร์”
คนที่ยังนอนบนเตียงพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น แต่ทว่าความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผลแล่นริ้วผ่าน จนต้องนิ่วหน้าเป็นคำตอบ
“อย่าพึ่งรีบลุกขึ้นสิฟาร์” พี่เลออนรีบผุดลุกออกมาจากโซฟา มาประชิดคนพักฟื้นให้นอนลงนิ่ง ๆ มือแกร่งหยิบยื่นแก้วน้ำมาประคองให้คนเป็นน้องได้ดูดกิน
“ดื่มน้ำก่อนครับ ปากแห้งไปหมดแล้ว”
“ขอบคุณครับ แล้วตัวเล็กละครับ”
“อยู่ห้องเด็กครับ เดี๋ยวพยาบาลก็คงพามาส่งให้” พี่เลออนยังพูดไม่ทันขาดคำ พยาบาลเคาะหน้าห้องก่อนเลื่อนเปิดประตูเข้ามา ทำท่าจะเข้ามาตรวจก็เห็นคุณแม่ป้ายแดงตื่นแล้ว
จึงเข้ามาสอบถามอาการเพิ่งเติม เมื่อได้ตรวจเช็กอาการเสร็จ ก็แจ้งว่าเดี๋ยวจะพาเจ้าตัวเล็กมาส่งให้
คุณแม่มือใหม่ตื่นเต้นมาก จนส่งแววตาวาววับพร้อมพยักหน้าหงึกหงักให้คุณพยาบาลด้วยอาการอยากที่จะเห็นหน้าลูกเร็วๆ จังเลย เพราะตอนอยู่ในห้องคลอดคุณแม่ป้ายแดง ได้เห็นใบหน้าของเจ้าตัวเล็กไม่ทันไรก็ดันผล็อยหลับไปเฉยเลย
สักพักใหญ่ พยาบาลก็เข็ดรถเด็กมาส่งให้ เจ้าตัวเล็กอ้อแอ้ ชูไม้ชูมือทักทาย
ช่างดูเป็นเด็กอะเลิทซะจริงเชียวลูกใครเนี่ย ?
พอได้เห็นใบหน้าของเจ้าตัวเล็กอีกครั้ง ฟาร์รังก็รู้สึกว่าใบหน้าของเจ้าตัวเล็กนี่
ช่างเหมือนกับพ่อเขาเปี๊ยบเลยแฮะ
นี่สินะที่เขาบอกว่า DNA แสดงอยู่บนหน้าเด็ก
แต่ไม่หรอก! ก็นี่ลูกของผมก็ต้องเหมือนผมสิ ดูสิเหมือนผมมาก ๆ เลย
คุณแม่มือใหม่มัวแต่จับจ้องมองยังใบหน้าของลูกน้อย จนพยาบาลส่งเสียงเรียก เพื่อจะสอนการอุ้มเด็กให้ถูกวิธี ฟาร์รังจึงดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน และตั้งใจฟังคุณพยาบาลอธิบาย เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าวางใจได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงผละตัวออกและขอตัวกลับไปทำงานต่อ ทว่าก่อนจะออกไปแจ้งไว้ว่า เดี๋ยวจะกลับมารับเด็กน้อยไปยังห้องเด็กอีกครั้ง
คล้อยหลังคุณพยาบาลออกจากท้องไปแล้ว คุณแม่ป้ายแดงจึงหันความสนใจทั้งหมด มายังเด็กตัวน้อยที่ทำตาแป๋วจ้องใส่กันอีกครั้ง คนเป็นลุงที่ได้แอบมองตอนพยาบาลสอนอุ้มตลอดเวลา ตอนนี้ได้จังหวะจึงเข้ามาทักทายหลายชายตนเองบ้าง
“ไหนดูสิ หน้าเหมือนลุงเลย นี่มันลูกลุงชัด ๆ หื้อออ”
คนเป็นแม่อมยิ้ม นี่สินะเจอคนคลั่งรักแล้วหนึ่งอัตรา
“ฟาร์คิดชื่อให้เจ้าตัวเล็กหรือยัง”
“คิดไว้แล้วล่ะครับ"
"ไหน หล่อ ๆ แบบนี้ชื่ออะไรนะเรา"
"น้องฮาร์ฟ..ครับ”
ดวงตากลมสบเห็นว่าพี่เลออนเงียบไปในที จึงแอบลอบมองใบหน้าคมเข้มของคนเป็นพี่ นัยน์ตาสีอ่อนสบเข้ากับใบหน้าคนพี่ที่ยังคงขมวดคิ้วแน่น ใบหน้านิ่งเรียบเฉย
คนตั้งชื่อเริ่มรู้สึกใจเสีย จนพี่เลออนยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตามองคนเป็นน้อง จึงเปลี่ยนสีหน้าและแววตา พร้อมยกมุมปากขึ้นตอบกลับมาเป็นรอยยิ้มแทน
“ชื่อดี แปลกและน่าจะเป็นที่จดจำ”
ในที่สุดพี่เลออนก็ยอมพูดออกมาแบบนี้ คนตั้งชื่อให้ลูกจึงรู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง ฟาร์รังคิดว่าคนเป็นพี่จะไม่ชอบชื่อนี้ซะแล้ว
แต่ฟาร์รังยังรู้สึกเหมือนกับว่า
พี่เลออนจะไม่ค่อยพอใจหรือเปล่านะ ?
แต่ช่างเถอะครับ เพราะผมตั้งใจจะให้เจ้าตัวเล็กชื่อนี้ตั้งแต่แรกนี่นา!
“น้องฮาร์ฟหิวแล้วเหรอครับ”
คุณแม่ป้ายแดงเห็นน้องฮาร์ฟขยับปากมุบมิบ แต่สายตานี่จับจ้องมองกันไม่วางตาเชียว ท่าทางแบบนี้จะต้องหิวแล้วแน่ ๆ
คุณแม่มือใหม่เลยเอาน้องฮาร์ฟเข้าเต้า ส่วนคนเป็นพี่พอเมื่อได้ยินแบบนี้ พี่แกจึงปลีกตัวห่างออกไปก่อนจะเดินกลับไปทิ้งตัวยังโซฟาและเข้าโหมดนั่งทำงานจริงจังต่อ
พอน้องฮาร์ฟอิ่ม พี่เลออนก็ผุดลุกกลับมาขออุ้มน้องฮาร์ฟอีกครั้ง พากันอุ้มไปอุ้มมาน้องฮาร์ฟก็เอาแต่อ้าปาก ตากลมจ้องมองพี่เลออน แถมยังทำตาแป๋วใส่อีก คนน้องเพิ่งจะเคยได้ยินท่านประธานใหญ่จอมเนี๊ยบ คุยงุ้งงิ้งภาษาสองภาษาสามกับหลานใหญ่เชียว
จนกระทั่งได้เวลา คุณพยาบาลกลับเข้ามารับเจ้าตัวเล็กไป คนเพิ่งพักฟื้นจึงได้มีเวลาทานอาหารและได้พักผ่อนต่อ
“เดี๋ยวอีกวันสองวันก็ได้กลับแล้วแหละ เพราะทั้งเราทั้งน้องฮาร์ฟแข็งแรงกันทั้งคู่ขนาดนี้”
"ดีเลยครับ ฟาร์อยากกลับบ้านจะแย่แล้ว"
#ทุ่มเทเพื่อรัก