ขึ้นรถพี่แล้ว..ต้องตามใจพี่นะครับ (Pt.2)
1474 Words
ขึ้นรถพี่แล้ว..ต้องตามใจพี่นะครับ (Pt.2)
“งั้นกลับกันเลยดีกว่าครับ” ฟาร์รังคิดนึกอยู่ภายในใจ งั้นขอเลือกตอบว่า กลับก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวค่อยหาเรื่องแถทีหลังเผื่อเอาตัวรอดได้ดีกว่าตอนนี้
“ครับ งั้นกลับกันเลยเนอะ” ใบหน้าหล่อเหล่าเผยรอยยิ้มใจดี ราวกับว่ายอมตามใจคนที่เลือกคำตอบให้แล้ว จึงได้เรียกพนักงานมาหาแล้วเอ่ยปากบอกให้ฝากบอกกับ ฮิม ให้ด้วยว่าคืนนี้ขอตัวกลับคอนโดก่อนแล้วกัน จนพนักงานรับคำสั่งแล้วรีบผละตัวถอยห่างออกไป
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมแบมือรอรับมือเล็กให้เอื้อมมาเกาะเกี่ยวกัน เมื่อฟาร์รังยื่นมือไปให้ทันใดก็ถูกจับจูงให้ได้ก้าวขาออกเดินไปพร้อมกันที่ลานจอดรถ VIP ซึ่งมี Audi R8 สีดำสุดเท่ของเฮฟจอดจองที่ประจำเอาไว้
มือแกร่งเลื่อนไปเปิดประตูให้คนเด็กกว่าได้ย้ายตัวเข้าไปนั่งลงฝั่งข้างคนขับทันที ซึ่งคนตัวเล็กก็มัวแต่พะวักพะวนดูเก้กังทำตัวไม่ถูกไปหมด หลังจากที่ได้หย่อนกายเข้ามานั่งอยู่บนเบาะรถสปอร์ตคันหรูของคนพี่แล้ว จึงไม่ทันได้สังเกตว่าเฮฟก็ได้ขึ้นมานั่งประจำที่ฝั่งคนขับเรียบร้อยแล้วเช่นกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เพราะมัวแต่ตื่นเต้นจนไม่ทันได้สังเกต
กระทั่งเพิ่งจะกลับมารู้สึกตัวได้เพราะคนขับได้เอี้ยวตัวเข้ามาใกล้กัน แล้วยังได้ยื่นมือมาช่วยดึงสายเบลล์ออกมาให้ พร้อมกับจัดแจงทำการคาดเข็มขัดให้กับฟาร์รังที่นั่งจ้องมองกันแบบตาไม่ละสายตาอยู่นั่นเอง
เมื่อถูกใบหน้าหล่อเหลาประดุจเทพเจ้าสร้างเฉียดใกล้เข้ามาจนดูมากจนเกินไปขนาดนี้ ทำเอาลมหายใจของคนน้องถึงกับต้องสะดุดหยุดชะงักการหายใจไปจนลมเข้าออกไม่ทั่วท้องไปชั่วขณะเลย
“ขอนุญาตนะครับ น้องฟาร์ลืมคาดเข็มขัดแบบนี้ไม่ได้นะครับ หืม..รู้ไหม” คนเป็นพี่ไม่ว่าเปล่า พร้อมกับยื่นมือเข้ามาคาดเข็มขัดให้กับคนหน้าเหลอหลาเรียบร้อยแล้ว
เพียงแค่นั้นยังไม่พอ เฮฟจอมโปรยเสน่ห์ได้ทำการแจกเซอร์วิสเพิ่มเติมให้ด้วยคือรอยยิ้มพิฆาต(เหยื่อ) ที่มาพร้อมกับสายตากรุ้มกริ่มพราวระยับส่งแถมท้ายมาให้กัน อย่างมีนัยชัดเจนอีกด้วย
นิ้วเรียวยาวที่อยู่ไม่สุขเริ่มขยับเขยื้อนขึ้นมาจรดลงที่ริมฝีปากบางสีเชอร์รี่สด ซึ่งมันช่างดูเย้ายวนชวนให้ลองสัมผัสลิ้มชิมรสอย่างเหลือหลาย ปลายนิ้วร้อนค่อยๆ ลูบไล้ไปมาบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นอย่างแผ่วเบาด้วยความเผลอไผล
จนแสดงออกถึงความปรารถนากันอย่างชัดเจน แล้วท้ายที่สุดคนเจ้าเล่ห์ก็ยอมเอ่ยปากออกมาอย่างปกปิดความต้องการเอาไว้ไม่มิดแล้วทันที
“ปากฟาร์น่าจูบจัง..พี่ขอจูบได้ไหมครับ”
พี่เฮฟจอมวายร้ายได้ปรากฏกายออกมาแล้วสินะ!
ร่างบางยังคงนั่งนิ่งเกร็งตัวไม่ไหวติงตามแรงอารมณ์สั่นไหวของคนตรงหน้า ทว่ามีเพียงแค่นัยน์ตาสีอ่อนเท่านั้นที่ขยับหลุกหลิกกลอกตาไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก จนไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรกลับคืนไปดี
"หืม..นะครับ น้า..นะครับ..น้องฟาร์" ริมฝีปากหยักเอื่อนเอ่ยคำออดอ้อนออกมาอีกครั้ง ราวกับกำลังรบเร้าเว้าวอนขออนุญาตทำอย่างเอาแต่ที่ใจของคนเจ้าเล่ห์ต้องการอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อคำออดอ้อนเสียงหวานขนาดนี้ได้หลุดออกมาจากริมฝีปากของคนตรงหน้าอีกครั้ง จนมันยากที่คนหวั่นไหวจะห้ามใจไม่ให้โอนอ่อนตามได้ยังไงก่อน ยิ่งเมื่อได้ยินแบบนี้คนขี้ใจอ่อนได้ง่ายแบบฟาร์รังหรือ ที่จะสามารถไปหยุดยั้งตามให้ทันคนเจ้าเล่ห์แพรวพราวตรงหน้ากันได้ล่ะ
เพียงแค่เพราะ เป็นผู้ชายคนนี้ ฟาร์รังก็แพ้เขาเสมอมาแล้ว
ฟาร์รังจึงลองจับจ้องมองลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสีเข้มอย่างหลงใหล ที่ยังคงจับจ้องมองกันอย่างไม่ละวางสายตาเช่นกัน ยิ่งสองสายตาได้สอดประสานกันอย่างลุ่มลึก จนมันเกิดความรู้สึกหวามไหวถึงการสื่อสารบ่งบอกออกมาทางแววตาด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ฟาร์รังรู้สึกเขินอายจนแทบบ้า
มองจ้องกันแบบนี้ ผมเขิลจะตายอยู่แล้วนะพี่เฮฟ
ไม่รู้ว่าด้วยความที่ชอบคนตรงหน้าเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะด้วยความที่ดื่มมาหลายแก้วแล้วนั้น พอมันกรึ่มได้ที่ขนาดนี้ คนที่ใจกล้าเป็นฝ่ายเริ่มต้นเคลื่อนขยับใบหน้าเข้าไปใกล้กับอีกคนก่อนนั้น ถึงได้กลายเป็นฟาร์รังคนขี้เขินอยู่เมื่อครู่นี้ซะเอง ทำเอาคนที่มองกันด้วยสายตาแทบอยากที่จะกลืนกินคนตรงหน้า ถึงได้เผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ออกมาทันทีเลย
เพราะการขยับปรับองศาของใบหน้าหวานติดแดงก่ำของคนตัวเล็กตรงหน้า จึงทำให้ทั้งสองคนได้ชิดใกล้กันมากขึ้นแล้ว จนระยะห่างมันมีไม่ถึงเซนติเมตรเลยทีเดียว ทำเอาอวัยวะนุ่มหยุ่นได้ถูกประกบแตะสัมผัสซึ่งกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติได้ง่ายดายเลยละ
คนพี่เริ่มเปลี่ยนจากการจูบตอบรับที่เชื่องช้าอย่างบรรจง มาเป็นฝ่ายรุกซะเอง ทั้งส่งเรียวลิ้นชื้นเข้าไปไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กกลับคืนไปบ้างเช่นกัน
การบดจูบที่ดูดดื่มเริ่มบรรเลงกันอย่างหนักหน่วงขึ้นแบบทวีคูณตามห้วงอารมณ์ ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่ยอมที่จะส่งเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้ากลับคืนกันไปมาอยู่แบบนั้น
ฮ๊า...ฮะ....
คนน่ารักคนตรงหน้าที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน กลับกลายเปรียบเสมือนกับเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาทันทีเลย เมื่อได้เจอเข้ากับลีลาการป้อนจูบฉบับคาสโนวาเข้าไป จนฟาร์รังหน้าแดงก่ำตามแรงอารมณ์ แล้วขยับปรับองศาเพื่อหาจังหวะควบคุมการหายใจไม่ถูกเลย
อะ..อื้อ..
เมื่อยิ่งโดนตะโบมจูบถูกยัดเยียดให้แลกเรียวลิ้นใส่กันอยู่แบบนี้ ซึ่งมันดูขี้โกงมากเลย เพราะคนไล้ต้อนกวาดลิ้นอยู่ในโพรงปากกันอยู่นั้น ไม่ยอมมีเวลาให้อีกคนได้พักเบรกหายใจกันบ้างเลย
แฮก..แฮ่ก
รุ่นพี่ผู้ช่ำชองมากประสบการณ์ชีวิต จึงเริ่มต้นสอนหลักสูตรการจูบแบบดีพคิสให้กับเด็กน้อยด้อยประสบการณ์ตรงหน้า ด้วยการเคล้าคลึงขบเม้มแลกน้ำใสภายในโพรงปากกันจนร้อนระอุไปหมดแล้ว
จากการเริ่มต้นเพียงแค่จังหวะเนิบนาบชวนให้หวาบหวามและเคลิบเคลิ้มตามแล้วแท้ๆ ทว่าตอนนี้กลับค่อย ๆ ไต่ระดับความเร่าร้อนให้หายใจลำบากขึ้นทุกที
อะ..อื้อ..
ฟาร์รังรู้สึกได้ว่า พี่เฮฟคนตรงหน้านี้ช่างจูบเก่งมากขึ้นซะเหลือเกิน
เมื่อคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกหัวใจเต้นระส่ำราวกับเป็นกลองที่ถูกรัวตีในงานเชียร์กีฬาสีซะแล้ว มันเหมือนกับว่าจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้เลย เจ้าตัวจึงต้องประท้วงขออากาศร้องอื้ออึงในลำคอออกมา ด้วยการพยายามดันอกแกร่งให้ผละริมฝีปากให้ห่างออกจากกันบ้าง
อือ....อื้มมม
เมื่อเฮฟใจดียอมผละริมฝีปากให้กับคนหน้าแดงก่ำที่หายใจไม่ทันออกมาเป็นอิสระแล้ว ฟาร์รังถึงกับต้องอ้าปากกว้างแล้วหอบหายใจถี่รัวรีบกอบโกยเอาออกซิเจนเข้าปอดรัวๆ ให้ได้มากที่สุดทันทีทันใดเลย
แฮก..แฮ่ก..
ใบหน้านวลขึ้นสีระเรื่อเพราะเริ่มออกอาการร้อนวูบวาบอย่างควบคุมการหายใจไม่ทัน จนมันปั่นป่วนมวนท้องน้อยไปหมด ส่วนตัวการณ์นั้นกลับกรุ้มกริ่มแย้มยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ราวกับถูกอกถูกใจกับการได้แกล้งของเล่นชิ้นโอชะขนาดนี้มาเล่นสนุกด้วยในค่ำคืนนี้แล้ว
เฮฟเริ่มอดใจรอที่จะเล่นสนุกกับคนน่ารักตรงหน้ายามค่ำคืนนี้แบบทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงได้โน้มตัวเข้ามาชิดใกล้กันอีกครั้งทันที ทำเอาคนเผยอปากหายใจหอบอยู่ยิ่งใจเต้นระส่ำผิดจังหวะมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
คาสโนวาจอมแพรวพราวแลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนที่จะกระซิบชิดกับใบหูขาวขึ้นสีระเรื่อ จนไปถึงแดงก่ำเหมือนดั่งลูกตำลึงสุกไปซะแล้ว
“น้องฟาร์รู้ใช่ไหมครับว่าใครที่ขึ้นมาบนรถพี่แล้ว ต้องตามใจพี่นะครับ”
#ทุ่มเทเพื่อรัก
- Writer
