4

1551 Words
“แต่ก็ควรจะถามไถ่แสดงน้ำใจว่าอยากช่วย มันเป็นสิ่งดีงามที่สุภาพบุรุษควรทำ” “ครับ งั้นจะให้ผมช่วยอะไร” “ก็ช่วยเปลี่ยนยางล้อรถ ตามช่างไงคะ” “ผมมีอีกทางเลือก” “อะไรคะ” “คุณมาขึ้นรถผม เดี๋ยวผมไปส่งเพราะบ้านคุณอยู่ใกล้บ้านผม” เธอครุ่นคิดกำลังยืนลังเลเขาก็เดินไปยังรถ เธอเลยรีบวิ่งจู๊ดไปเปิดประตูรถนั่งใกล้คนขับในทันที ที่เธอทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะอยากไปกับเขาหรอกนะ เพราะเธอเห็นอดีตแฟนกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกำลังมองมาที่เธอกับดนุเดช ตอนเข้าเรียนเธอเห็นติรกาญจน์ดูอึ้งไปเหมือนกันที่เห็นอาจารย์หนุ่มในห้องเพราะจำเขาได้ว่าเจอกันที่ผับเมื่อคืน เธอกัดปากครุ่นคิด สองคนนั่นจะสงสัยหรือเปล่านะ โดยเฉพาะยายเพื่อนทรยศเพราะเธอทำท่าทางเฟอะฟะในห้องเรียน ทำเหมือนไม่อยากเจอกับดนุเดช ปิดหน้าปิดตาเหมือนไปทำความผิดอะไรมา ดนุเดชขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัยในขณะที่คนนั่งใกล้ๆ คิดอะไรไปต่างๆ นาๆ เขาจอดรถก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ เธอสะดุ้งมองเขาหน้าตาเหลอหลา “ทำไมไม่คาดเข็มขัดนิรภัย” เขาเอ่ยถามเสียงดุก่อนจะจัดการดึงเข็มขัดคาดให้เธอ ใบหน้าที่แนบชิดมาหาห่างกันแค่คืบทำเอาเธอแทบกลั้นใจ ลมหายใจร้อนๆ ของเขาและใบหน้าที่ขยับเข้ามาจนชิดทำเอาเธอหัวใจเต้นโครมคราม เธอเลยหลับตาหนี “ถ้าผมจูบคุณ คุณจะลืมตาไหม” คำถามของเขาทำให้เธอรีบลืมตา ใยไหมสบกับสายตาคมเข้มสีเหล็กกล้าของเขาแล้วเงียบงันไป “ลืมตาแสดงว่าอยากให้จูบเหรอ” “ไม่ใช่สักหน่อย” เธอรีบปิดปากตัวเองป้องกันการจูบ เขายกยิ้มมุมปากก่อนจะผละออกห่าง เธอล่ะเกลียดสายตาของเขาแบบนี้เป็นที่สุด “นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ” เธอหันไปเอ่ยถามเขา มองอย่างระแวงระวังและไม่ไว้ใจ “มองผมเหมือนผมเป็นอาชญากร” “คนเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้ค่ะ” “ผมหิวข้าว” “คะ?” เธอทำหน้างงกับประโยคของเขา “แวะกินข้าวก่อนนะ วันนี้ยุ่งทั้งวัน ผมกินข้าวกลางวันไปแค่นิดเดียวเอง” “ก็ได้ค่ะ” เธอติดรถเขามาแล้วจะบอกว่าไม่ได้ก็กระไรอยู่ “มีร้านอาหารแนะนำไหม ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ ยังไม่ค่อยรู้จักที่ไหนเลย” เขาเอ่ยถามเธอ ใยไหมเลยทำท่าครุ่นคิด เธอเลยบอกเขาให้แวะร้านอาหารปักษ์ใต้ตรงริมทางระหว่างกลับบ้าน ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก อาหารของเขาอร่อยและสะอาดเพราะเธอและครอบครัวแวะมารับประทานกันบ่อย “ร้านนี้ค่ะ รับรองว่าอร่อย” เขาจอดรถและเดินตามเธอเข้าไปในร้าน ร่างของคนทั้งสองที่เดินเข้ามาทำให้แขกในร้านหลายคนต่างหันมามอง เพราะร่างสูงสง่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล็คเนื้อดีทำให้ช่วงเพรียวแข็งแรงปรากฎแก่สายตาทุกคน สาวหญิงสวยในชุดนักศึกษารูปร่างโปร่งบางอรชรอ้อนแอ้นแต่มีสัดส่วนยวนตา อกอวบอิ่ม เอวคอด สะโพกผายรับกับช่วงขาเรียวขา ใบหน้าเรียวรูปไข่ของเธอสดใสยามยิ้มนั้นก็ปรากฎลักยิ้มบุ๋มที่ข้างแก้มขึ้นมาทำให้น่ามองเข้าไปอีก ปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ แก้มนวลใส ดวงตาเรียวสวย แพขนตางอนงาม คิ้วเรียวหน้าผากนูนเกลี้ยงบ่งบอกถึงความฉลาดเฉลียวและเด็ดขาดมั่นคง ใยไหมเหลือบมองเขาเล็กน้อย ผู้ชายตัวสูงมาดขรึมแต่ชอบแหย่แกล้งเธอ เขาดูสุภาพเรียบร้อยในสายตาของคนอื่น ผิวขาวจัดปากแดงจัด คิ้วเข้มส่งผลให้ใบหน้าเรียวของเขาดูสว่างและหล่อเหลา เธอนึกคิดไปว่าเขาจะกินอาหารรสชาติจัดจ้านได้หรือไม่ คงจะร้องว่าเผ็ดและดื่มน้ำเป็นปี๊บๆ อย่างแน่นอน “สั่งเต็มที่เลยนะคะ ร้านนี้อร่อยมากค่ะ” เธอบอกเขายิ้มๆ ก็ดีเหมือนกันได้กินอาหารนอกบ้านแถมยังเป็นร้านโปรดอีกด้วยที่สำคัญไปกว่านั้นมีคนเลี้ยง “อันนี้เลยค่ะผัดเผ็ดกบขอเผ็ดๆ เลยนะคะ อาจารย์กินกบไหมคะ” เธอหันไปถามเขา สีหน้าเหมือนอยากแกล้ง อาจารย์หนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า ใยไหมกัดปากทำหน้าครุ่นคิด อาจารย์ของเธอดูสำอางขนาดนี้กินผัดเผ็ดกบด้วยเหรอ หรือพยักหน้าไปอย่างนั้นไม่อยากเสียฟอร์ม “อันนี้เลยค่ะคั่วกลิ้งหมูป่า เอาเผ็ดๆ ถึงเครื่องไปเลยนะคะ อาจารย์กินไหมคะ” เธอเอ่ยถามเขาก็พยักหน้าอีก “อาจารย์คะ” “ครับ” “ร้านนี้เผ็ดมากเลยนะคะ” เธอย้ำเขาก็รับคำอีก เธอจึงสั่งต่อเอาให้เผ็ดตายกันไปข้างหนึ่งเลย ใยไหมคิดแค่อยากแกล้งแต่ลืมไปว่าตัวเองก็ต้องกินอาหารพวกนั้นด้วย พอพนักงานเสิร์ฟกลับไปแล้วเธอก็หันมานั่งคุยกับเขาปรากฎว่าเจอแฟนเก่ากับอดีตเพื่อนรัก เธอหลบไม่ทันสองคนนั่นเดินมาทางนี้แล้ว “อาจารย์” เธอเขี่ยเท้าเขา กระซิบกระซาบเสียงเบา ดนุเดชพาเท้าหนีเขาทำตาดุวับใส่เธอ ใยไหมกัดปากไม่ทันได้เตี๊ยมอะไรกับเขาสองคนนั่นก็เดินมาถึงที่โต๊ะของเธอพอดี “บังเอิญจังเลยนะคะ เรามากินอาหารที่ร้านเดียวกันเลย” ไม่ได้บังเอิญหรอก เธอตั้งใจให้แฟนหนุ่มขับรถตามมาและดูเหมือนวิษณุเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย “สวัสดีค่ะอาจาย์ดนุเดช หนูติรกาญจน์ที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์กับอาจารย์วันนี้ไงคะ อาจารย์จำได้ไหม” “จำได้ครับ” ดนุเดชตอบเสียงสุภาพรับไหว้ลูกศิษย์สาว ในขณะที่ใยไหมแอบหมั่นไส้ แน่ะ! ดันไปจำนางมารร้ายได้อีก ก็ใช่น่ะสิ อาจารย์หนุ่มก็ต้องจำลูกศิษย์ผู้หญิงได้อยู่แล้ว แต่ผู้ชายอย่าหวังว่าจะจำได้ เธอขอตั้งฉายาแบบหนังจีนกำลังภายในให้เขาเลย หวังฟันศิษย์!!! คนคิดเป็นตุเป็นตะนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พอคนโดนด่าในใจหันมาเธอก็ฉีกยิ้มกลบเกลื่อน “จะรังเกียจไหมคะถ้าพวกเราจะขอร่วมโต๊ะด้วย พอดีลูกค้าเยอะไม่มีโต๊ะว่างเลยค่ะ” ติรกาญจน์เอ่ยขอเสียงสุภาพในขณะที่วิษณุมองหนุ่มสาวทั้งสองนิ่งๆ ไม่แสดงความไม่พอใจออกมา ใยไหมเลิกกับเขาไม่ทันไรก็มีแฟนใหม่ คิดแล้วรู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน “ห่อกลับไปกินที่บ้านสิ ไม่มีที่ว่างให้เธอนั่งหรอกนะ” ใยไหมรีบตอบแต่ดนุเดชเอ่ยอนุญาตแทน ใยไหมหันไปมองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ “ขอบคุณค่ะอาจารย์” ติรกาญจน์ทำท่าจะเข้าไปนั่งใกล้ดนุเดชแต่ใยไหมลุกพรวดพราดขึ้นเสียก่อน “เธอมานั่งใกล้แฟนเธอสิ” คนพูดเสียงแข็งมองตาเขียวปั๊ด ติรกาญจน์เองก็ไม่กล้าเพราะเห็นวิษณุกำลังมองมาเช่นกัน เขาไม่ชอบให้แฟนตัวเองเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าหรืออยากไปนั่งใกล้คนอื่น ติรกาญจน์เดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้ของใยไหมที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ใยไหมไปนั่งใกล้ดนุเดชเธอหันหน้าไปมองเขาเหมือนขอร้องอะไรบางอย่าง ดนุเดชไม่เข้าใจแต่เขาก็รอดูท่าที “อาจารย์คบกับไหมนานแล้วเหรอคะ” ติรกาญจน์ไม่รอช้ายิงคำถามที่อยากรู้ในทันที “ก็ไม่นานนะ เพราะอาเดชเพิ่งย้ายมาอยู่ใกล้บ้านฉัน แต่เรามองตากันก็ปิ๊งกันเลย” คนตอบคือใยไหม เธอกอดแขนเขาถูไถแก้มสาวเหมือนลูกแมวเหมียว มองเขาอย่างขอร้อง “จริงไหมคะอาเดช” เธอตีเนียนเรียกเขาเสียสนิทสนม ดนุเดชเงียบไปไม่ยอมตอบ ทุกคนเหมือนรอฟังคำตอบ ใยไหมหัวใจเต้นระทึกแทบกลั้นใจ ลุ้นตัวโก่งว่าดนุเดชจะตอบว่ายังไงเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน วิษณุกับติรกาญจน์ที่อีกใจหนึ่งไม่เชื่อทำท่าผิดหวังที่ไม่ได้คำตอบ แต่ใยไหมแอบถอนใจอย่างโล่งอก “ผมขอตัวคุยโทรศัพท์สักครู่นะครับ” เขาบอกทุกคนก่อนจะเอ่ยขอตัวไปคุยโทรศัพท์อีกด้านเพราะต้องคุยธุระสำคัญ “ฉันก็ขอไปห้องน้ำแป๊บนึง” ใยไหมเบ้ปากใส่คนทั้งสองก่อนจะรีบเดินตามดนุเดชไปติดๆ พอเขาคุยโทรศัพท์เสร็จก็หันมามองเธอ ลูกศิษย์ของเขากำลังกะพริบตาปริบๆ ดึงนิ้วไปมาเหมือนมีเรื่องจะคุยด้วย “มีอะไรครับ” น้ำเสียงของเขาฟังแล้วทำเอาเธอบรรยายความรู้สึกไม่ถูก “อาจารย์แกล้งเป็นแฟนหนูหน่อยได้ไหมคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD