ใต้ผ้าห่มอุ่น

1058 Words
ตอนที่ 13 ระหว่างที่นั่งรถกลับจิราภรก็นึกถึงคำพูดของยายหลานที่ได้บอกเธอเมื่อสักครู่ เกี่ยวกับเรื่องของเสือที่ออกอาละวาด “จริงสินังหนู ป้าเจอมันมากับตาเลยนะ” “ยายเมี้ยน อย่าเพิ่งทำให้คุณเขา เข้าใจไขว้เขวสิ” รื่นฤดีรีบบอกยายไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะจิราภรไม่ใช่คนในพื้นที่ “แล้วพวกคุณมาจากที่ไหนกันคะ” รื่นฤดีเอ่ยถาม “ดิฉันกับสามีเดินทางมาจากกรุงเทพฯ จ้ะ” “อ๋อ” “แล้วตอนนี้พวกคุณพักในอุทยานใช่มั้ย” รื่นฤดีภรรยาน้อยของจิราวัฒน์เอ่ยถาม “ใช่ค่ะ” “ทางที่ดีพวกคุณรีบกลับเถอะค่ะ แล้วคืนนี้ก่อนจะนอนก็ปิดห้องนอนให้เรียบร้อย อย่าเปิดหน้าต่างเอาไว้เด็ดขาด” “ค่ะ ขอบคุณที่เตือนนะคะ” หลังจากที่กลับมา จิราภรก็นึกกลัวเสือขึ้นมาทันที เธอจึงไปขอนอนกับชญานนท์ ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไร ภายในห้องนอนไม่มีเตียง มีเพียงฟูกผืนเดียวที่ใช้ปูนอนกับพื้น บรรยากาศที่หนาวเหน็บทำให้เด็กหนุ่มต้องแบ่งปันผ้าห่มพื้นเล็ก ๆ ไปให้แม่เลี้ยงสาวของเขา “ขอบใจจ้ะเบส น้ารีบก็เลยไม่ได้หยิบผ้าห่มของตัวเองมาเลย” “คุณน้าอย่ากลัวไปเลยครับ เสือตัวนั้นคงไม่มาที่นี่หรอก” ชญานนท์รีบบอกแม่เลี้ยงสาวแล้วก็หันหลังให้เธอทันที ร่างกายของเด็กหนุ่มร้อนรุ่มอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ใกล้หล่อน และที่เขาต้องหันหลังก็เพราะกลัวว่าน้องชายที่แข็งปั๋งจะไปโดนตัวแม่เลี้ยงเอาได้ สักครู่จิราภรก็เอ่ยถามถึงเรื่องราวที่ทำให้เธอนอนไม่หลับ “เบส หลับหรือยัง” “ยังครับ น้าฝ้ายมีอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มผลิกตัวคะแคงมาทางฝั่งแม่เลี้ยงสาวเพราะตอนนี้เขาสามารถทำให้น้องชายสงบลงได้แล้ว “น้าสงสารคุณรื่นฤดีจัง” “น้าฝ้ายคิดมากเรื่องนี้เองเหรอครับ” “อืม..ใช่ เบสไม่สังเกตเหรอ หลัง ๆ มานี้คุณพ่อของเบสไม่ค่อยกลับบ้านเลย” ชญานนท์ก็รู้สึกแบบเดียวกันกับจิราภร เพราะหลัง ๆ มานี้ พ่อเลี้ยงของเขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน “รู้ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ ผมไม่อยากให้น้าฝ้ายเก็บมาคิดให้รกสมอง และอีกอย่างผู้หญิงคนนั้นเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเธอไม่รู้นะครับ” จิราภรนั้นไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับคุณจิราวัฒน์พ่อเลี้ยงของชญานนท์ พอแม่แท้ ๆ ของชญานนท์เสียไป คุณจิราวัฒน์ก็พาเธอเข้ามาอยู่บ้านในฐานะภรรยา หลังจากที่คุณจิราวัฒเสียไปทรัทย์สินทุกอย่างจึงตกเป็นของชญานนท์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมทันที แต่ทรัพทย์สินของคุณจิราวัฒก็ไม่ได้มีมากมายอะไรนัก มีเพียงบ้านที่เขาอาศัยอยู่กับจิราภรณ์และลูก ๆ กับรถยนต์อีกหนึ่งคันเท่านั้น “น้าฝ้ายรีบหลับเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะขับรถไม่ไหวเอา” ชญานนท์รีบบอกแม่เลี้ยงสาวเพราะเธอต้องขับรถของตัวเองกลับ ส่วนชญานนท์ก็ต้องขับรถของพ่อเลี้ยงกลับ “เออ!..ใช่สิ!..น้าลืมไปว่าเบสต้องเอารถคุณพ่อกลับ” “ครับ ผมว่ากลับไปจะเอาคันนี้ให้น้าฝ้ายใช้ขับไปทำงาน มันยังสภาพดีกว่าคันที่น้าฝ้ายใช้” “ขอบใจนะเบส...เบสช่างดีกับน้าเหลือเกิน” จิราภรหันไปหอมแก้มเด็กหนุ่มอย่างดีใจจนเขาต้องร้อนรุ่มไปทั้งตัวอีกครั้ง แถมแม่เลี้ยงสาวก็ยังซุกตัวไปกอดเขาเอาไว้ หล่อนเอาศีรษะพิงไหล่กว้างของชญานนท์แล้วก็หลับไป เด็กหนุ่มจึงไม่กล้าขยับตัวไปไหนและตอนนี้น้องชายที่เขาเพิ่งทำให้สงบได้เมื่อสักครู่ ก็ผงาดขึ้นอีกครั้ง ชญานนท์นอนหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อทำให้น้องชายสงบอีกครั้ง เขาแอบจูบเบา ๆ ที่ศีรษะของหล่อนอย่างรักใคร่ และเอื้อมไปกอดแม่เลี้ยงสาวเอาไว้แล้วก็หลับไปพร้อมกับเธอจนถึงเช้า เช้าวันต่อมาชญานนท์และจิราภรก็เตรียมกระเป๋าสัมภาระเพื่อเตรียมจะออกเดินทางกลับ แต่ปรากฏว่ารถของจิราภรเกิดสตาร์ทไม่ติด “น้าฝ้าย รถสตาร์ทไม่ติดเหรอครับ” “ใช่จ้ะเบส...เมื่อวานน้าก็ยังสตาร์ทอยู่เลยนะ” “เดี๋ยวเราจอดไว้ที่นี่แล้วไปตามช่างดีกว่านะครับ” “เอางั้นเหรอ...เดี๋ยวน้าไปด้วยนะ” จิราภรเดินมานั่งคู่ด้านหน้ากับชญานนท์เพื่อเตรียมจะไปตามช่างด้วยกัน ก่อนไปชญานนท์แวะถามกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอุทยาน เขาแนะนำว่า มีช่างอยู่ในเมืองห่างจากอุทยานประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งกว่าจะไปถึงช่างก็รับงานไว้เยอะแล้ว ทั้งคู่จึงไม่ได้ช่างกลับมาซ่อมรถ “เป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ยครับคุณ” ช่างซ่อมรถเอ่ยกับทั้งสอง “เดี๋ยวผมทิ้งเบอร์โทรไว้ให้นะครับ” ชญานนท์รีบบอกกับช่างซ่อมรถทันที “รถพวกคุณจอดอยู่ที่ไหนครับ” “ในอุทยานเลยครับ” “ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะรีบไปซ่อมให้ แต่ไม่รับปากว่าจะเสร็จทันหรือเปล่านะครับ ต้องรอเช็กอาการเบื้องต้นเสียก่อน” “ได้ค่ะ ถ้ายังไงช่วยกรุณาเร่งให้เราด้วยนะคะ” จิราภรรีบบอกช่างซ่อมรถทันที “ไม่มีปัญหาครับคุณผู้หญิง พรุ่งนี้เช้าเจอกันครับ” ออกมาจากอู่ซ่อมรถได้ไม่นาน จิราภรก็เอ่ยอย่างเซ็ง ๆ กับชญานนท์ทันที “เบสนี่เราต้องพักกันที่นี่ต่ออีกเหรอ” แม่เลี้ยงสาวพูดขึ้นพร้อมกับหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมา “ครับแล้วช่างยังบอกอีกว่า ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเสร็จทันหรือเปล่า” “งั้นน้า..ขอโทรบอกลูก ๆ ของน้าก่อนนะจ๊ะ” “ครับ” จิราภรโทรบอกกับลูก ๆ ของเธอเสร็จก็รีบบอกกับชญานนท์ทันที “เบส น้าว่ากลับไปที่อุทยานก็ไม่รู้จะทำอะไร เราไปดูหนังกันดีมั้ย ไหน ๆ เราอยู่ในเมืองแล้ว” “ก็ได้ครับ..น้าฝ้าย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD