"อ้าว เบิ้ลสอง" พี่เบี้ยคงเห็นปริมาณในจานฉันว่ามันเยอะเกินเลยถามขึ้น
"อื้อ เสียดายของ" ตอบเสียงอ่อนๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ทั้งสองห่ออย่างเจ็บกะดองใจ
"อะไรวะ นึกว่าซื้อเผื่อไอ้คีย์"
หยุดพูดเลยพี่เบี้ย ยิ่งพูดยิ่งเจ็บ ก็เผื่อไง แต่พี่คีย์ไม่ชอบเลยทิ้ง
"เผื่อทำไม พี่คีย์ไม่ชอบนี่" ตอบเสียงไม่ดังมากก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
เป็นมื้ออาหารที่จะจำไปจนวันตาย พี่คีย์เกลียดข้าวมันไก่!!!
"ไม่ชอบบ้าอะไร นี่น่ะของโปรดมันเลย"
"บ่นไรอีก กินๆ ไปเลย ล้างเองด้วย" ฉันว่าให้พี่ชายอย่างอารมณ์เสีย
"เม็นไม่มาไงวะ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ"
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองค้อนพี่ดอกเบี้ย ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ในจานต่อ โชคดีแค่ไหนที่ร่างกายโบนัสคนนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
#หลายเดือนต่อมา
"เย้! จบแล้วโว้ย" ตุ๊ดลูกน้ำตะโกนขึ้น
"ใจหายว่ะ" แพนเค้กทำหน้าเศร้า
"ตกลงเราลงเรียนที่เดียวกันใช่ไหม" กิมหมวยผู้อ่อนโยนเอ่ยถาม
"..." ส่วนฉันเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ เหมือนเมื่อวันก่อนฉันยังงอนพี่คีย์เรื่องเอาข้าวมันไก่ของโปรดฉันไปทิ้งอยู่เลย แต่ไม่น่าเชื่อว่านี่จะผ่านมาหลายเดือนจนฉันจบมัธยมศึกษาปีที่หกเรียบร้อยแล้ว
"อีนัส จะกอดจูบใบโควตานั้นอีกนานมั้ยยะ" ลูกน้ำแซวฉันจนปากเบะ
"คนที่ไม่รู้จักคุณค่าของความรักอย่างแกจะไปรู้อะไร"
ฉันมองค้อนเพื่อนตุ๊ดตาขวาง
"จ้าแม่รู้จักคุณค่าความรักแต่เขา ไม่รับรัก"
คำว่า 'ไม่รับรัก' ถูกพูดขึ้นพร้อมกันสองเสียง นั่นคือเสียงตุ๊ดลูกน้ำตัวนำขบวนและแพนเค้กตัวเสริมทัพ
"นี่ทั้งสองคน ที่พี่คีย์ไม่รับรักโบนัสพูดเบาๆ โบนัสก็เจ็บแล้วมั้ยอะ" กิมหมวยเอาบ้าง เหมือนเธอจะด่าสองตัวนั้นให้ฉันนะ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนถูกกิมหมวยหลอกด่าเบาๆ ยังไงก็ไม่รู้อะ
"พอเลยทั้งสามคน คอยดูเถอะ ฉันจะต้องรีบได้จูบแรกจากพี่คีย์ให้ได้" ฉันทำท่าเชิดหน้ายืดอกเต็มความมั่นใจประกอบคำพูด
เดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่ว่าทำไมฉันถึงพูดแบบนั้น คืองี้นะ
ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อนหลังจากที่พี่คีย์เอาข้าวมันไก่ที่เราสองคนซื้อมาจากตลาดนัดไปทิ้ง วันต่อมาฉันเลยตัดสินใจเข้าไปคุยกับพี่คีย์แบบเปิดอก
'พี่คีย์มีแฟนยังคะ' ยังจำแววตาของพี่คีย์ตอนนั้นได้เลย
พี่คีย์มองฉันเหมือนเชื้อโรคที่ไม่อยากจะเข้าใกล้แม้ยืนหายใจข้างๆ กัน
แต่ก็อย่างที่รู้ๆ โบนัสคนนี้มันมึน หน้าหนา เลยไม่ย่อท้อต่อสายตานั้นถามต่อ
'ถ้าพี่คีย์ยังไม่มีแฟน นัสขอจีบพี่นะคะ' ความรู้สึกตอนนั้นคือลุ้นมากกกก
กลัวว่าจะหน้าแหก แต่เปล่าค่ะ พี่คีย์เงียบไม่ตอบไม่อะไรสักคำก่อนจะเดินหนีฉันไปแบบไม่ใยดี ตอนนั้นคือเฟลแล้วอะ อารมณ์แบบโลกนี้ช่างโหดร้ายกับโบนัสเสียเหลือเกิน อุตส่าห์หน้าด้านจีบผู้ชายก่อนแต่กินแห้วตั้งแต่ยังไม่สารภาพรัก
ในตอนที่หัวใจห่อเหี่ยวจู่ๆ พี่คีย์ที่ควรจะเดินสวนออกไปหน้าบ้านเพื่อไปขึ้นรถพี่ดอกเบี้ยกลับเข้าในเมืองดันพูดขึ้นมาให้ดีใจ
'ไว้ได้จูบแรกจากพี่เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน'
แค่นั้นแหละ แค่ประโยคไม่สั้นไม่ยาวนั้นของพี่คีย์ก็ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ที่กำลังแห้งเหี่ยวเฉาตายกลับมาลิงโลดอีกครั้ง
ฉันเลยตกปากรับคำท้านั้นของพี่คีย์และจะสอบเข้ามหาลัยที่พี่คีย์อยู่ให้ได้
แล้ววันนี้ฝันฉันก็เป็นจริงเมื่อฉันสอบชิงโควตาของมหาลัยที่พี่คีย์เรียนอยู่สำเร็จ
"นัส โบนัส อีนัส!!"
"อะไร! หูแตกแล้วเนี่ย" ใช้นิ้วแหย่หูตัวเองสำรวจประสาทแก้วหูสักหน่อยว่าอยู่ดีมีสุขหรือเปล่า ก็อีตุ๊ดลูกน้ำน่ะสิตะโกนมาได้ใกล้ๆ หูเนี่ย
"เห็นเหม่อนานกลัวจะน้ำแตกก่อน"
"พูดจาน่าเกลียด เดี๋ยวแช่งให้แฟนคนที่สิบสี่เลิกเสียให้เข็ด"
"ช้าไปย่ะ วันนี้แฟนคนที่สิบห้าฉันกำลังมารับ"
กรี้ดดด โบนัสอยากกระทืบเท้าแล้วกรีดร้องให้ลั่นโรงเรียน ทำไมเพื่อนตุ๊ดฉันไฟแรงเวอร์ ตั้งแต่คบกันมานี่นางเปลี่ยนแฟนแล้วถึงสิบห้าคน ในขณะที่ยัยโบนัสผู้เป็นหญิงแท้และแน่นอนจีบพี่คีย์แค่คนเดียวยังไม่ติด
"แล้วเรียกทำไมอะ?" สะบัดหัวไล่เรื่องพี่คีย์ออกไปสักสิบวินาทีก่อน เดี๋ยวจะหูหนวกเพราะไม่สนใจตุ๊ดข้างๆ
"นี่แกไม่ฟังที่พวกฉันคุยกันเลย?" แพนเค้กเลิกคิ้วถามอย่างหงุดหงิด
"แฮ่ๆ" ได้แต่ยิ้มแห้งๆ พร้อมส่ายหน้าไปมา
"คือเมื่อกี้พวกเรากำลังถามความคิดเห็น"
"พอๆ ยัยกิมหมวย เดี๋ยวตุ๊ดเล่าเอง"
นี่ก็ชอบฉีกหน้าเพื่อนอะ ตุ๊ดนิสัยเสีย ดูสิ กิมหมวยฉันถึงกับเหวอเลย
"คืนนี้จะไปฉลองบ้านแพนเค้กหรือบ้านแก" ลูกน้ำรวบรัดจบในไม่กี่คำ
"แล้วแต่ดิ" ฉันยังไงก็ได้ไง จะจัดบ้านฉันหรือบ้านแพนเค้กก็ไม่ต่าง เพราะบ้านพวกเราอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่หลังคา
"งั้นสรุปไปจัดบ้านแก" แพนเค้กพูดขึ้น ฉันพยักหน้าตกลงเพราะไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
"แล้วทำไมไม่ไปจัดบ้านแพนล่ะ" กิมหมวยยังสงสัย "ขี้เกียจล้างจาน"
"ถุย! อีบ้า" ลูกน้ำผลักไหล่แพนเค้กจนเธอเซเกือบล้มเลยถูกแพนเค้กชี้หน้าด่าทางสายตา "เดี๋ยวหมวยช่วยล้าง" กิมหมวยผู้บอบบางและแม่พระพูดขึ้น
"โอ้ยยัยกิมหมวย อีเค้กน่ะมันสตอ" ตุ๊ดลูกน้ำพูดขึ้นบ้าง
"เออใช่เราพูดไปงั้นแหละ แค่บ้านเรามีคนแก่น่ะเลยไม่อยากรบกวน" กิมหมวยพยักหน้าเข้าใจ
ก็กิมหมวยไม่เคยไปเที่ยวบ้านแพนเค้กสักครั้งไม่ผิดที่เธอจะไม่รู้ว่าบ้านแพนเค้กมียายเธออาศัยอยู่ด้วย "แล้วจะเลี้ยงฉลองอะไรกันดี"
สถานที่พร้อมคนพร้อมตอนนี้คงถึงเวลาหาของกินกัน
"หมูทะ"
"ถุย!"
ทันทีที่ลูกน้ำเสนอ แพนเค้กถึงกับทำกริยาเสื่อมๆ ทันที
"แดกทุกวันไม่เว้นวันอาทิตย์ยังจะฉลองหมูกะทะอีก" แพนเค้กว่าให้ลูกน้ำ
"ก็แฟนคนที่สิบห้าฉันอยากกิน มีไรแมะ!?"
ลูกน้ำใช้เสียงดัดจริตพร้อมจิกตามองแพนเค้กที่ส่ายหน้าไปมา
"กินๆ ไปเถอะ นอกจากเลี้ยงหมูกะทะชีวิตเราสี่คนจะมีอะไรกินล่ะ" ฉันเสริม
"งั้นเดี๋ยวหมวยให้ม๊าทำกับข้าวมาแจม"
"Good idea" แพนเค้กยกนิ้วโป้งให้กิมหมวยพร้อมฉีกยิ้มกว้าง
"แล้วเครื่องดื่มล่ะ" ฉันถามขึ้นบ้าง
"SPY , Bacardi .."
"หยุด!!" ฉันรีบห้ามลูกน้ำที่กำลังจะทำฉันซวย
"อะไรชะนี" ลูกน้ำหันมามองตาขวางที่ฉันเบรกหล่อนเสียงลั่น
"หาเรื่องซวยให้ยัยนัสน่ะสิ" แพนเค้กพูดขึ้น
"เออว่ะ ตุ๊ดลืม" ลูกน้ำทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะเดินมาลูบหัวฉันเล่น
"แค่น้ำอัดลมพอ" ฉันเสนอออกไป
ถ้าขืนลูกน้ำเอาพวกแอลกอฮอล์เข้าบ้านตอนที่พี่ดอกเบี้ยไม่อยู่ฉันกับป้าอี๊ดที่มาอยู่เป็นเพื่อนฉันตอนกลางคืนเวลาที่ฉันอยู่คนเดียวได้ถูกพี่เบี้ยบ่นหูชาแน่
"งั้นตามนี้ เรื่องอาหารกับน้ำอัดลมปล่อยให้เป็นหน้าที่หมวยเอง" กิมหมวยยิ้มหวานก่อนจะโทรเรียกคนที่บ้านมารับ
ในบรรดาเพื่อนในกลุ่มกิมหมวยนี่แหละรวยสุดแล้ว เป็นถึงลูกเจ้าของภัตตาคารที่โด่งดังที่สุดในย่านที่ฉันอยู่
"งั้นห้าโมงเย็นมาสุมหัวที่บ้านยัยนัส โอเค๊?" ลูกน้ำทำเสียงแหลมสูงพร้อมท่าโอเคถามพวกเรา "ตามนั้น"
Rrr
ฉันบอกเพื่อนๆ เสร็จเสียงโทรศัพท์ที่เพิ่งกดเปิดเสียงก็ดังขึ้น
"งั้นฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบไปช่วยจัดสถานที่" แพนเค้กเดินมาสะกิดไหล่ตอนที่ฉันกำลังจะกดรับสายพี่เบี้ยพอดี ฉันเลยพยักหน้าพร้อมกับโบกมือลาคนอื่นๆ เดินกลับบ้านที่อยู่ถัดจากโรงเรียนไปสองป้ายรถเมล์
ถามว่าทำไมไม่ขึ้นรถเมล์หรือวินมอเตอร์ไซค์กลับตอบเลยว่า 'เปลืองตังค์'
"ว่าไงพี่เบี้ย" ฉันถามปลายสาย
[เกรดออกยัง] พี่เบี้ยคงจำได้ เพราะฉันเคยบอกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
"อื้อ ออกแล้ว"
[แล้วทำไมเสียงเป็นงั้นอะ] พี่เบี้ยรีบถามกลับอย่างเป็นห่วงเมื่อฉันตอบประโยคนั้นด้วยเสียงเนือยๆ "พี่เบี้ย" ขอแกล้งพี่ชายสักหน่อยแล้วกัน อิอิ
[อะไร ทำไมยัยนัส แกเป็นอะไร] เสียงฝั่งพี่เบี้ยที่ตอนแรกเหมือนจะดังจอแจแต่ตอนนี้กลับเงียบกริบเหมือนรอดูเจ้าของสายที่กำลังคุยกับฉันยังไงยังงั้น
"พี่เบี้ย" ฉันเริ่มเล่นใหญ่ทำเสียงเศร้าเพิ่มอีกระดับ
[ฉิบหาย น้องกูเป็นไรวะ] เหมือนพี่เบี้ยจะคุยกับใครสักคนเพราะเสียงเหมือนพี่เขาเอาโทรศัพท์ออกห่างๆ
[มึงก็คอลวิดีโอสิ ไอ้ฟาย / เออ โง่จริงเพื่อนกู]
แล้วก็มีเสียงเพื่อนพี่เบี้ย คิดว่านะ พูดแทรกขึ้นมาแล้วสายที่โทรมาก็ดับไป