เขายิ้มแทนคำตอบ ทำเอาจิ่งช่านกำหมัดแน่น
‘เจ้าหมอโฉด! แอบอ้างการรักษาข้ามาใช้ล้างแค้นส่วนตัวสินะ’
นางอยากตะโกนไล่หลังแต่เขาเดินเร็วจี่จนไปถึงหน้าเรือนแล้ว หมอเวิงอันเดินไปห้องโถงที่ใต้เท้าจิ่งรออยู่ เขายืนยันหนักแน่นว่านางต้องฝังเข็มอีกหลายคราจึงจะหายจากอาการเช่นนี้ได้
“ตกลงว่าต้องฝังเข็มอีกกี่ครั้งกันล่ะท่านหมอ?”
“ข้าก็ยังไม่แน่ใจขอรับ แต่ข้ารับปากว่าจะรักษานางจนกว่าจะหายก็แล้วกัน” เขาทำสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
ใต้เท้าจิ่งทั้งหวั่นวิตกในอาการของบุตรสาวแต่ก็สบายใจที่หมอหนุ่มรับปากจะรักษานางอย่างสุดความสามารถ ขุนนางวัยกลางคนได้รับคำแนะนำมาว่าหากอยากรักษาโรคเกี่ยวกับภาวะภายในสตรีต้องให้หมอเวิงอันรูปงามที่มาจากแคว้นเว่ยผู้นี้จึงจะหายขาด
จิ่งช่านลุกขึ้นได้ก็เดินตามมาหวังจะเอาเรื่องหมอเวิง กว่านางจะวิ่งตามเขาทัน ชายหนุ่มก็กลับออกไปแล้ว แม้นางจะบอกกับท่านพ่อว่าคนผู้นั้นต้องการจะกลั่นแกล้งนางแต่ใต้เท้าจิ่งก็ไม่รับฟัง นางจึงได้แต่ฮึดฮัดกลับไปเรือนนอน ของตน หญิงสาวจึงตั้งใจว่าต่อแต่นี้นางจะขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้หมอเวิงอันได้สมหวังกับคุณหนูรองหลูโดยเด็ดขาด!
“พวกเจ้าคอยดูเถอะ! ข้าจะไม่มีวันให้เขาเข้าใกล้พี่รองได้แน่” นาง กำหมัดชูกำปั้นขึ้นต่อหน้าสาวใช้ทั้งสองด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะหันไปหยิบกระบี่เดินไปสวนหน้าเรือนฝึกวรยุทธ์ระบายอารมณ์
ครั้นถึงวันที่เหยียนถังอดีตพี่ข้างบ้านที่นางเคารพนับถือเดินทางไปสู่ขอคุณหนูรองตระกูลหลูที่จวนสกุลหลู ใต้เท้าจิ่งก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ใต้เท้าเหยียนท่านลุงของเหยียนถังเองก็เป็นขุนนางผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง ทั้งยังเคยช่วยเหลือใต้เท้าจิ่งหลายครา ครอบครัวสกุลจิ่งจึงพร้อมใจกันเดินทางไปสกุลหลูเพื่อเป็นสักขีพยาน หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ สนับสนุนเหยียนถังให้สู่ขอได้สำเร็จ
“ช่านเอ๋อร์! เจ้าว่าวันนี้หมอเวิงจะขายหน้าหรือไม่?” จิ่งเฉิงพี่ชายของนางเอียงหน้ามากระซิบยิ้มๆ “แต่จะว่าไปก็น่าเสียดายเหมือนกันนะ หมอเวิงก็รูปงามมากไม่แพ้พี่ถังของเราเลย ซ้ำยังมีวิชาแพทย์สูงส่งอีกด้วย ชาติตระกูลและฐานะ ก็ดี”
“พี่เฉิง ท่านจะมายกย่องศัตรูของข้าทำไมกัน? เมื่อวานท่านยังช่วยข้าโมโหเขาอยู่เลยที่แกล้งฝังเข็มข้า”
จิ่งเฉิงพยักหน้าหงึกหงัก “อ้อๆ ข้าลืมตัวไป”
จิ่งช่านหลังอยู่ข้างหลังคุณหนูรองหลู ซึ่งมองไปก็เห็นหน้าหมอเวิงอันได้ถนัด ครั้นนางมองไปเขาก็มองกลับมา สายตาของเวิงอันแฝงแววเยาะเย้ยนางอยู่ในที จิ่งช่านถลึงตาใส่เขาแล้วหันไปบอกคุณหนูรองหลู
“ท่านอย่าได้ตกลงไปกับเจ้าหมอร้ายกาจผู้นี้เชียวนะพี่รอง วันก่อนข้าไม่สบายท่านพ่อให้เรียกเขามารักษาข้า เขาแกล้งฝังเข็มข้าไปจนทั่วตัว พอใกล้จะกลับก็เฉลยว่านี่เป็นการเอาคืนข้า...คนผู้นี้ไม่น่าคบค้ายิ่งนัก” นางพูดพลางเบะปากใส่หน้าหมอรูปงาม
หลูฉิงซวงหันมายิ้มตอบ “เจ้ากับหมอเวิงนี่...ดูเหมือนจะชะตาต้องกันนะ”
“ต้องกันกับผีที่ไหนล่ะ? เขามันหมอโฉดต่างหาก หาทางแกล้งข้า”
ถึงแม้นางจะรู้สึกเช่นนั้น แต่พอเห็นเขาหน้าซีดในตอนที่พี่ถังของนางเข้ามาถึงห้องโถงและกลายเป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นว่าที่สามีของหลูฉิงซวงจริงๆ ใจลึกๆ ก็อดจะสงสารชายหนุ่มมิได้ จะว่าไปก็จริงอย่างที่พี่ชายนางบอก รูปร่างหน้าตา ฐานะ ชาติตระกูลและความสามารถของเขา มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า เหยียนถังสักนิดแต่เรื่องความรักขึ้นอยู่กับจิตใจ หลูฉิงซวงปักใจรักใคร่ใน ตัวเหยียนถังไปแล้วถึงขนาดแลกหยกแทนใจ เวิงอันเองก็คงจะไม่คิดหักหาญอยากได้คุณหนูรองหลูเป็นภรรยาอีกแล้ว
ใต้เท้าจิ่งขอโทษขอโพยใต้เท้าหลูที่ได้ร่วมเล่นงิ้วหลอกเมื่อครั้งก่อนว่าตนเองไม่เคยรู้จักกับเหยียนถัง แต่เพราะเห็นว่าชายหนุ่มอยากจะพิชิตใจ หลูฉิงซวงเขาจึงให้การช่วยเหลือ เหยียนถังแอบปลอมตัวเป็นพ่อครัวมาอาศัยอยู่ในจวนหลูนานนับเดือน โดยมีโหยวอีบุตรเขยที่แต่งงานกับคุณหนูสามสกุลหลูเป็นผู้รับรองมา กระทั่งเหยียนถังกับหลูฉิงซวงคบหารักใคร่กันวันนี้เขาจึงได้มาปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะหลานชายของใต้เท้าเหยียน เมื่อผู้ใหญ่เจรจากันจบแล้ว ใต้เท้าจิ่งก็พาจิ่งช่านกับจิ่งเฉิงเดินทางกลับ
“ท่านพ่อ ข้าขอไปไหว้พระวัดหยกสวรรค์กับพี่เฉิงได้หรือไม่เจ้าคะ?”
“เช่นนั้นพวกเจ้าก็แยกไปเถอะ”
จิ่งเฉิงทำหน้าฉงนหันมามองน้องสาว “เกิดเหตุอันใดเจ้าจึงอยากจะไปวัดหยกสวรรค์ขึ้นมา?”
จิ่งช่านอึกอัก นางรู้สึกอิจฉาที่หลูฉิงซวงได้พบรักกับเหยียนถัง ตัวนางเองก็อยากจะพบบุรุษที่มีใจตรงกันเช่นนี้บ้าง นางได้ยินสาวใช้เล่าให้ฟังว่าในวัดหยกสวรรค์มีรูปปั้นผู้เฒ่าจันทราซึ่งทำหน้าที่ผูกด้ายแดงให้กับคู่รัก นางจึงอยากไปอธิษฐานขอให้นางได้พบเนื้อคู่อย่างเช่นคนทั้งสองนั้นบ้าง
“เอาเถอะน่า พี่เฉิงพาข้าไปอย่างเดียว ไม่ต้องพูดอะไรได้หรือไม่?”
จิ่งเฉิงเอียงศีรษะทำหน้าฉงน แต่ก็ยอมยุติไม่ซักไซ้นางอีกต่อไป ครั้นถึงวัดหยกสวรรค์ ชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อถือเรื่องเทพเซียนใดๆ ก็ขอรออยู่สวนหน้าวัด ปล่อยให้น้องสาวและสาวใช้ทั้งสองเข้าไปข้างใน
“คุณหนูคิดจะไปไหว้เจดีย์หรือเจ้าคะ?”
“พาข้าไปไหว้ผู้เฒ่าจันทราที” นางหันไปกระซิบ สาวใช้ทั้งสองที่อยากจะมาไหวขอพรด้วยเช่นกันก็รีบพยักหน้า
“เจ้าค่ะ!”
หมอเวิงอันที่มาถึงก่อนสองเค่อกำลังยืนตัดพ้ออยู่หน้ารูปปั้นผู้เฒ่าจันทราด้วยความหดหู่
“ข้าอุตส่าห์เดินทางไกลมานับพันลี้เพื่อตามหาสตรีที่ผูกด้ายแดงกับข้า เหตุไฉนจึงมิใช่นางเล่า? ผู้เฒ่าจันทรายังมีสตรีที่คู่ควรยิ่งกว่านางอีกหรือขอรับ? ยามนี้ข้ารู้สึกเศร้าเสียใจยิ่งนัก ท่านได้โปรดบอกข้าทีเถิดว่าข้าควรจะไปตามหาคนผู้นั้นที่ใด?” เขาพูดพลางหยิบเอาปั้วโป้ยที่เป็นไม้สีแดงขนาดครึ่งฝ่ามือสองชิ้นออกมาเสี่ยงทาย เขาโยนก้อนไม้สีแดงนูนนั้นขึ้นไม่สูงนักและคอยลุ้นในยามที่มันตกลงกระทบพื้น
โพล๊ะ!
“อ๊ะ! คว่ำอัน หงายอัน เสียด้วย! แสดงว่าข้าได้รับความเมตตาแล้ว” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นคารวะรูปปั้นผู้เฒ่าจันทราอีกครั้ง “ขอบพระคุณมากขอรับ หวังว่าครั้งนี้ข้าจะสมหวังเสียที!”
************************