ขวัญข้าว

1427 Words
"แม่สบายใจได้ครับ ผมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นกับยัยเด็กกะโปโลนั่นได้หรอก" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มและหัวเราะออกมาในลำคอเบาๆ เขาจะรู้หรือเปล่าว่าเวลานี้ขวัญข้าวโตเป็นสาวและสวยแค่ไหน "ขอให้มันจริงแล้วอย่ากลืนน้ำลายตัวเองล่ะ แค่นี้แหละ" "ครับแม่ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ สวัสดีครับ" พอวางสายจากมารดาบอสหนุ่มถึงกับนั่งเอามือกุมขมับเลยทีเดียว เขายังคงคิดภาพไม่ออกเลยถ้าภายในบ้านของเขามีขวัญข้าว เดินเข้ามาและอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขา ในแต่ละวันชีวิตของเขาจะเป็นยังไง ที่สำคัญอัครเดชและเธอนั้นต้องเจอกันทุกๆ วัน เกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ขวัญข้าวช่างอาภัพ เธอกำพร้าทั้งบิดาและมารดาตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้า แต่ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่มารดาของอัครเดชนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับมารดาของเธอ ที่สำคัญน้ำทิพย์มารดาของขวัญข้าวได้ฝากฝังลูกสาวเอาไว้ให้นางช่วยอุปถัมภ์ และดูแลจนกว่าหญิงสาวจะเรียนจบมหา'ลัย น้ำทิพย์ได้ขอร้องแม่เลี้ยงกวางกมลไว้ก่อนตาย จึงทำให้นางนั้นรัก และห่วงใยขวัญข้าวไม่ต่างจากลูกรักในอุทรเลยทีเดียว "คุณแม่ว่าอะไรนะคะ" ขวัญข้าวเรียแม่เลี้ยงกวางกมลว่าแม่ เพราะนางนั้นไม่อยากให้หญิงสาวมีปมด้อยมากไปกว่านี้ "ขวัญฟังไม่ผิดหรอกจ้า หนูเพิ่งเรียนจบและไม่มีประสบการณ์จะไปทำงานที่ไหนไกลหูไกลตาแม่ก็เป็นห่วง ยิ่งผู้คนสมัยนี้เชื่อใจไม่ค่อยได้ แม่อยากให้หนูไปอยู่กับพี่เสือ ไปทดลองงานที่โชว์รูม เมื่อไหร่มีประสบการณ์หางานทำได้ค่อยว่ากันอีกที" หญิงสูงวัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย แม้ขวัญข้าวจะไม่อยากไปอยู่กับอัครเดช ชายหนุ่มที่เธอนั้นรู้สึก และสัมผัสได้ว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอเลยสักนิด แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถโต้แย้ง หรือคัดค้านอะไรได้เลย "ขวัญไม่อยากไปเลยค่ะ อยากจะช่วยงานที่ไร่มากกว่า แม้ว่าขวัญจะไม่ได้เรียนเกษตรศาสตร์มา แต่ก็พอมีประสบการณ์ ที่จะช่วยคุณแม่แบ่งเบาภาระที่ไร่อยู่ได้บ้างนะคะ" หญิงสาวพูดจาออดอ้อน พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปสวมกอดหญิงสูงวัย "ไม่ต้องห่วงที่ไร่หรอกลูก แม่มีคนช่วยตั้งเยอะแยะ ขวัญไปทำตามความฝันของตัวเองเถอะนะหนูอยากเป็นโบรกเกอร์สาวไม่ใช่เหรอ ให้พี่เสือสอนงานให้ดีแล้ว พี่เขาเก่งเชื่อแม่นะ" ขวัญข้าวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เธอถึงอยากจะทำงานเป็นโบรกเกอร์ เพราะเรื่องทุกอย่างมันช่างไกลตัวเธอเหลือเกิน ความจริงเธอควรจะทดแทน แม่เลี้ยงกวางกมลด้วยการใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่นี้คอยดูแลหญิงสูงวัยมากกว่าจะก้าวออกไป โดยที่ไม่รู้ว่าในหนึ่งปีจะได้กลับมาที่นี่กี่ครั้ง "ถ้าไปอยู่ที่นู่นขวัญคงคิดถึงแม่มากเลยนะคะ" ขวัญข้าวพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา เมื่อนึกถึงวันเวลาที่จะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน ที่สำคัญเธอนั้นต้องไปอยู่ร่วมชายคากับเขา ผู้ชายที่ดูเย็นชาและหมางเมินใส่เธอมาโดยตลอด "เด็กโง่จะร้องไห้ทำไมเนี่ย...หืม ถ้าคิดถึงแม่ก็บอกให้พี่เสือพามาเยี่ยมบ่อยๆ สิ รายนั้นหนึ่งปีมาไม่กี่ครั้ง ก็ดีเหมือนกันแม่จะเอาหนูเป็นข้ออ้างให้พ่อเสือพากลับมาบ้านบ่อยๆ โอเคไหม" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง นางเองก็รู้สึกใจหายไม่น้อยที่รู้ว่าขวัญข้าวจะต้องจากบ้านไปไกลเป็นแรมเดือนหรือปี ซึ่งยังไม่รู้ว่าลูกชายนั้น จะยอมพาหญิงสาวกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างหรือเปล่า "แม่ไม่อยากไปส่งขวัญเหรอคะ ไปค้างที่นู่นสักสองสามคืนค่อยกลับก็ได้" หญิงสาวยังคงพูดจาอ้อนออกมา เพราะอยากให้หญิงสูงวัยไปด้วย ซึ่งเธอนั้นรักและห่วงใยนางไม่ต่างจากมารดาแท้ๆ และมีเหตุผลอีกข้อ นั่นก็คือขวัญข้าวไม่รู้ว่าพี่เสือจะแสนดีกับเธอหรือเปล่า เขาจะใจร้ายเห็นเธอเป็นเพียงแค่กระต่ายน้อยหรือไม่ นั่นคือความกังวลที่เกิดขึ้นภายในใจของขวัญข้าวในเวลานี้ "แม่ไม่ชอบสังคมเมือง ที่แสนจะวุ่นวาย แม้ว่าจะไปอยู่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แม่ก็ไม่อยากไปอยู่ดี หนูมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าขวัญ พี่เสือจะดูแลหนูเป็นอย่างดีเชื่อแม่เถอะนะ เพราะแม่ได้คุยกับพี่เขาแล้วสบายใจได้" หญิงสูงวัยพูดออกมาพร้อมกับแววตาที่ได้ซ่อนเรื่องราวบางอย่างเอาไว้ คงไม่มีใครรับรู้ได้นอกจากใจของนาง ต้องมีจุดประสงค์อะไรสักอย่าง ถึงอยากให้ขวัญข้าวไปอยู่กับพ่อเสือหนุ่มแบบนั้น "ขวัญขอวิดีโอคอลหาแม่ทุกวันได้ไหมคะ" ขณะที่ถามออกมาขวัญข้าวยังคงซุกใบหน้าเข้ากับอกนุ่มของแม่เลี้ยงกวางกมล หญิงสูงวัยที่เธอนั้นรักประหนึ่งว่าเป็นมารดาที่ให้กำเนิดมา "ทำไมจะไม่ได้ล่ะจ๊ะ สำหรับลูกสาวของแม่คนนี้ จะโทรมาตอนไหนก็ได้ สำหรับแม่แล้วยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีแม่ยกให้หนูคนเดียว" หญิงสูงวัยพูด พร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของหญิงสาวด้วยความรักและเอ็นดู "ถ้าพี่เสือได้ยินแบบนี้คงไม่ชอบหน้าขวัญแน่ ที่แม่เล่นยกยี่สิบสี่ชั่วโมงให้ขวัญคนเดียว" หญิงสาวพูดพร้อมกับ ฉีกยิ้มที่มุมปากแล้วเงยหน้าขึ้นไปสบตาหญิงสูงวัย ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก "ถ้าอย่างนั้นก็แบ่งให้พี่เสือสักชั่วโมงก็คงจะพอ เพราะเขาโตเป็นหนุ่มใหญ่คงไม่สนใจแม่แก่ๆ คนนี้แล้วแหละ" คราวนี้นางถึงกับพูดตัดพ้อลูกชายออกมา เพราะไม่รู้ว่าทำไมอัครเดชถึงชอบเมืองกรุงที่แสนจะวุ่นวายนั้นนักหนา "ไม่มีใครลืมแม่ได้ลงคอหรอกค่ะ ต่อให้แก่แค่ไหนแม่ก็คือแม่อยู่ดี เหมือนกับที่ขวัญรักแม่ยังไงละค่ะ ไม่แน่นะพี่เสืออาจจะเปลี่ยนใจกลับมาดูแลไร่มาอยู่กับแม่ก็ได้ ถ้าเขาเกิดเบื่อเมืองศิวิไลซ์ขึ้นมา" หญิงสาวพูดจาให้กำลังใจหญิงสูงวัยออกไป ทั้งที่เธอรู้อยู่เต็มอก ว่าลูกชายของนางคงไม่มีวันกลับมาใช้ชีวิตที่นี่อย่างแน่นอน "ถ้าขวัญพาพี่เสือกลับมาอยู่ที่ไร่ได้คงจะดี" หญิงสูงวัยพูดขึ้นมาลอยๆ ในขณะที่ขวัญข้าวกำลังคิดว่า มันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เธอไม่ได้มีความสำคัญพอที่จะทำให้ชายหนุ่มกลับมาตั้งหลักปักฐานที่บ้านเกิดได้ ในเมื่อธุรกิจของเขานั้น ก็ไปได้สวย แถมกำไรในแต่ละไตรมาสได้หลายร้อยล้าน หรืออาจจะมากกว่านั้นเธอเองก็ไม่แน่ใจ เพราะเคยแอบเข้าไปส่องในเพจของเขาบ่อยครั้ง รถก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ราวกับแจกฟรี คงเป็นเพราะบอสหนุ่มหน้าตาดี แถมสถานะยังโสดอีกด้วย จึงเป็นที่หมายตาของสาวๆ หลายคน "อีกไม่กี่วันก็จะเดินทางแล้ว หนูขวัญเตรียมน้ำพริกอ่องและน้ำพริกหนุ่มให้พี่เขาด้วยนะ ของโปรดพ่อเสือเลยล่ะ หนูทำอร่อยก็อย่าลืมทำให้พี่เขากินบ่อยๆ ด้วยนะ" "ได้ค่ะแม่" ขวัญข้าวตกปากรับคำผู้เป็นมารดา เพราะมันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง หากเธอจะแสดงน้ำใจ ให้กับชายหนุ่มบ้าง ที่เขานั้นอุตส่าห์จะสอนงานให้กับเธอ ที่สำคัญเธอไปอยู่บ้านกับเขาแบบนั้น ก็คงต้องลงมือทำอาหารเองทุกวันอย่างแน่นอน ซึ่งมันเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งของขวัญข้าว ที่เธอนั้นสามารถจัดอาหารคาวหวานขึ้นมาได้อย่างน่ารับประทาน และรสชาติยังอร่อยหาตัวจับยากอีกด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD