เหอโจวเว่ยเดินตามน้องสาวจับจ่ายซื้อของ โดยมีสองแม่บ้านเดินตาม พอของเริ่มเต็มมือชายหนุ่มจึงนำกลับไปเก็บที่รถและให้แม่บ้านคอยดูน้องสาวไว้ สำหรับพี่ชายเช่นเขาไม่ว่าน้องโตอย่างไร เขายังคงเป็นห่วงเสมอ
เหอว่านเซียงเดินมาถึงร้านขายเนื้อตรงท้ายตลาด เธอมองชาย
คนหนึ่งที่เดินประกบป้าตรงหน้าจึงแปลกใจ ทำไมป้าคนนี้จึงดูเกร็ง ๆ
ชอบกล ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นปลายมีดที่กำลังจี้เอว เธอจึงตัดสินใจจะเดินเข้าใกล้ เพราะท่าทางของเธอไม่น่าสงสัย และคิดว่าชายคนนั้นคงกำลังจี้หรือปล้นป้าคนนี้อยู่
“ป้าถง ป้าหม่ารอตรงนี้ก่อนนะ อย่าเข้ามาใกล้เด็ดขาด ทางที่ดีรีบไปตามพี่ใหญ่มา”
ทันทีที่พูดจบเหอว่านเซียงจึงเดินเข้าไปประกบและแกล้งล้มใส่ เพราะถ้าหากเธอทำอะไรวู่วามป้าที่กำลังโดนจี้อาจจะเกิดอันตรายได้
ความจริงแล้วตลาดแห่งนี้ไม่น่าจะเกิดการปล้น เพราะคนก็ออกจะพลุกพล่าน
“เกิดอะไรคะคุณหนู ทำไม”
ป้าถงพูดไม่ทันจบเหอว่านเซียงเดินจากไปแล้ว ภาพที่เธอเห็นคือเหอว่านเซียงเดินเข้าไปใกล้คนคู่หนึ่ง และทำท่าคล้ายจะล้มใส่ แต่อยู่ ๆ เธอกลับจับข้อมือของชายคนนั้นบิดอย่างแรง จนชายที่มีรูปร่างใหญ่ร้องดังลั่น
เมื่อเห็นว่ามีดหลุดมือหล่นลงพื้น เธอจึงใช้เท้าเตะให้พ้นตัว ก่อนที่เหอว่านเซียงจึงจับชายคนนั้นทุ่มลงกับพื้น และมีชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ
ช่วยกับจับชายคนนั้นไว้
“ขอบคุณมากนะ ถ้าคุณไม่ช่วยไว้ ป้าคงตายแน่” ป้าที่โดนจับตัวเมื่อรู้ว่าปลอดภัยจึงเอ่ยขอบคุณด้วยท่าทางที่ยังตื่นตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะป้า คราวหลังก็ระวังหน่อยเพราะป้าอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ ใครก็ได้รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ” เหอว่านเซียงตอบกลับ ก่อนจะส่งเสียงบอกให้ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับตัวไป
“ป้าต้วน เซียงเซียง เกิดอะไรขึ้นครับ”
“อ้าวคุณเหอ นี่คือ...” ป้าต้วนแม้บ้านตระกูลหวงเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่ปกตินัก ก่อนจะมองมาที่เหอว่านเซียงอย่างแปลกใจ
“นี่เหอว่านเซียงน้องสาวผมครับ ทำไมป้ามาที่นี่ล่ะ เกิดอะไรขึ้น”
“ป้ามาซื้อของเข้าบ้านค่ะคุณเหอ แต่กลับโดนชายคนนี้เอามีดมาจี้เพื่อเงิน คนขับรถเดินเอาของไปเก็บมันเลยได้โอกาส ดีที่ได้คุณหนูเหอมาช่วยไว้ ป้าเลยรอดมาได้”
ป้าต้วนเป็นแม่บ้านตระกูลหวง ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดีกับเหอโจวเว่ย และไม่คิดว่าคนที่ช่วยเธอไว้ในวันนี้จะเป็นหญิงสาว ดูสวยสง่าที่เป็นถึงน้องสาวของคุณเหอ
เหอว่านเซียงแปลกใจ การที่แม่บ้านของตระกูลหวงมาซื้อของเข้าบ้านที่นี่ แสดงว่าบ้านตระกูลหวงคงอยู่ไม่ไกลใช่ไหม
ความคิดของเธอที่อยากจะสร้างตลาดจึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง ในพื้นที่บริเวณนี้มีชาวบ้านที่มีฐานะ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายของที่นี่คงจะอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก ดังนั้นควรจะสร้างตลาดที่ถูกสุขลักษณะดีที่สุด
ทันทีที่ร่ำลากับแม่บ้านของตระกูลหวง ในขณะที่กำลังเดินกลับมาที่รถ เหอโจวเว่ยจึงบ่นน้องด้วยความเป็นห่วง
“เซียงเซียงต่อไปไม่บุ่มบ่ามแบบนี้แล้วนะ พี่หัวใจจะวาย ทำไมไม่รอพี่ก่อนล่ะ”
“ถ้าฉันรอพี่ใหญ่กลับมา ไม่รู้จะเกิดอะไรกับป้าต้วนบ้าง ถ้าพี่ต้องการให้ฉันปลอดภัย พี่ก็หาคนมาสอนการต่อสู้ให้สิ หรือไม่หาสถานที่ที่น้องสาวคนนี้สามารถฝึกซ้อมได้”
เหอว่านเซียงหันมาตอบพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน เธอลืมไปเสียสนิทเลยว่าว่านเซียงคนเก่าต่อสู้ไม่เป็น
“พี่จะคุยกับพ่อเรื่องนี้ให้ คนสนิทของพ่อและของพี่มีความสามารถไม่น้อย ตัวพี่เองก็เช่นกัน ส่วนสถานที่ พี่จะทำห้องด้านหลังคฤหาสน์ให้ละกัน ทำไมเดี๋ยวนี้เซียงเซียงของพี่ถึงได้ดื้อนัก”
เหอโจวเว่ยอ่อนใจ แต่ก็เห็นด้วยกับความคิดของน้อง ไม่ว่าจะเป็นคนดูแลหรือตัวเขาเองก็อาจจะปกป้องเซียงเซียงได้ไม่ตลอดทุกครั้ง การที่เธอต้องการที่ฝึกต่อสู้ไว้ก็ไม่เสียหาย เผื่อว่าเกิดเหตุฉุกเฉินแบบเมื่อครู่นี้เธอจะได้ช่วยตนเองได้
“พี่ใหญ่น่ารักที่สุดเลย ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีพี่สะใภ้ให้น้องสาวคนนี้ล่ะ หลิงหลิงจะได้มีเพื่อนเล่น”
เหอว่านเซียงเกาะแขนพี่ชายยิ้มตาหยี ไม่รู้เป็นเพราะว่าร่างเดิมสร้างวีรกรรมอะไรไว้ พี่ชายที่แสนดีคนนี้จึงยังไม่แต่งงาน ถึงแม้ว่าการกระทำ
ของเธอไม่เหมือนกับเด็กน้อย แต่ทว่าร่างนี้นั้นกลับแตกต่างจากนิสัยที่แท้จริงของเธอมากพอควร
แต่เพราะส่วนลึก ๆ เธออยากมีครอบครัวที่พร้อมและสมบูรณ์
จึงได้กระทำและแสดงออกเช่นนี้ โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนเป็นประกายเมื่อเห็นการช่วยเหลือคนของเหอว่านเซียงเมื่อครู่นี้
เมื่อแม่บ้านและคนสนิทซื้อของครบตามรายการที่เหลือ เหอว่านเซียง
จึงชวนพี่ชายกลับบ้านเพื่อทำอาหารให้กับทุกคนและลูกน้อยที่ตอนนี้น่าจะตื่นนอนแล้ว
“อาเทา นายเห็นหรือเปล่า แล้วนายรู้ไหมว่าหญิงสาวเมื่อครู่นี้เธอเป็นใคร” หลู่หงเย่ผู้จัดภาพยนตร์เอ่ยถามผู้ช่วยซึ่งเป็นน้องชายของตนเองด้วยความตื่นเต้น
“เห็นน่ะเห็นพี่ แต่ถ้าถามว่ารู้จักเธอไหม ผมตอบได้เลยว่าไม่รู้จัก แต่การที่เธอและผู้ชายคนนั้นเดินไปคุยกับแม่บ้านของตระกูลหวง ผมว่าคงเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมไม่น้อย”
หลู่เจียงเทากลอกตาแล้วตอบพี่ชาย อยู่ด้วยกันแท้ ๆ แต่กลับมาถามเขา แต่ก็ว่าไปความสามารถและความกล้าที่จะเข้าสู้กับโจรของเธอมีไม่น้อยเลยล่ะ
‘หรือว่าพี่ใหญ่... เมื่อคิดได้จึงมองหน้าพี่ชายพร้อมกับเบิกตากว้าง’
“ใช่ นายเข้าใจไม่ผิดน้องรัก พี่ชายของนายคนนี้ต้องการเธอมาเล่นหนังเป็นตัวร้ายในเรื่อง นายก็รู้ว่านางร้ายของฉันในหนังเรื่องนี้เป็นยังไง”
ไม่ว่าจะให้ดาราหรือนักแสดงคนไหนที่มาทำการคัดเลือกก็ยังไม่ถูกใจของเขาเสียที อย่าลืมว่านายทุนหนังในครั้งนี้คือคุณหวง มาเฟียและเจ้าพ่อผู้ที่ชอบความสำเร็จ หากเงินทุนที่ให้มาเขาเกิดทำหนังแล้วขาดทุน คิดว่าคุณหวงยังจะยอมเป็นนายทุนในเรื่องต่อไปไหม แม้ว่าบทนี่จะเป็น
ตัวร้าย แต่บทนั้นเด่นกว่าพระนางในเรื่องเสียอีก
แต่พอเขาเห็นท่าทางและการต่อสู้ที่แม้ว่าจะไม่มาก แต่มันคือสิ่งที่ทำโดยสัญชาตญาณ เขาเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้คือตัวร้ายที่เขาตามหา ยิ่งเขาเผลอเห็นสีหน้าและแววตาของเธอยามที่สบตากับโจรช่างเย็นชาจนเขายังรู้สึกกลัว
“แล้วเราจะทำยังไงล่ะพี่ ถ้าเธอรู้จักกับแม่บ้านของคุณหวง หรือว่าพี่จะบุกไปถามเธอที่คฤหาสน์ตระกูลหวง ผมคนหนึ่งล่ะไม่เอาด้วยหรอกนะ”
หลู่เจียงเทาขยับเท้าหนีพี่ชาย เขาหวังว่าความหน้าด้านและ
ความบ้าระห่ำของพี่ใหญ่คงไม่เข้าไปที่ตะกูลหวงหรอกนะ
“นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันจะทำ และนายต้องไปด้วยกับฉัน ไม่เช่นนั้น...” หลู่หงเย่วมองหน้าน้องชายด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ ทำให้หลู่เจียงเทาต้องยอมทำตาม เพราะเขาเป็นทั้งน้องชายและผู้ช่วยนี่นา เฮ้อ...
เมื่อได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจหลู่หงเย่วจึงคว้าคอเสื้อน้องชายกลับไปที่รถยนต์ของตนเองเพื่อจะมุ่งหน้าไปตระกูลหวง
ทางด้านเหอว่านเซียงไม่รู้เลยว่า เธอเข้าตาผู้จัดภาพยนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว และฝ่ายนั้นกำลังตามหาเธออยู่ ตอนนี้เธอขะมักเขม้นอยู่กับการทำอาหารที่หน้าเตาเพื่อคนที่เธอรัก
“อาหารเสร็จแล้วค่ะ ฝากจัดการที่เหลือด้วยนะป้าถง ฉันขอไปป้อนอาหารเจ้าตัวยุ่งก่อน ป่านนี้น่าจะหิวแล้ว”
เหอว่านเซียงฝากแม่บ้านและทุกคนที่อยู่ในครัวให้ช่วยเก็บและจัดการส่วนที่เหลือ ส่วนตัวเธอขอไปป้อนอาหารลูกน้อยก่อน
“ได้ค่ะคุณหนู”
แม่บ้านถงและทุกคนตอบรับ เพียงแค่ได้กลิ่นอาหารที่คุณหนูทำ พวกเธอก็น้ำลายสอแล้ว คุณหนูยังใจดีทำอาหารเผื่อทุกคนอีกด้วย พวกเธอทั้งเกรงใจทั้งห้ามปราม เพราะการทำอาหารจำนวนมากในแต่ละมื้อมันเหนื่อยไม่น้อย แต่ห้ามเท่าไรคุณหนูก็ไม่ยอม อีกทั้งยังบอกว่าครอบครัวเธอกินอะไร ทุกคนก็ต้องกินเหมือนกัน
เย็นวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือลูกน้องต่างก็มีรอยยิ้ม กับอาหารที่เหอว่านเซียงทำให้ แม้แต่นายท่านเหอเองยังขอเติมข้าวหลายจาน