ตอนที่ 9

1385 Words
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงไม่มีอาต้นชมพูก็อยู่ได้ ก็ดีเหมือนกัน อาต้นจะได้ไม่ต้องคอยวิ่งหนีชมพูด้วย จะได้ไม่เหนื่อยไงคะ แต่ชมพูจะเป็นฝ่ายไปไม่ใช่อาต้น” พวงชมพูหยุดออกฤทธิ์ เด็กสาวรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ของตัวเองที่อยู่บนหลังตู้ลงมาเปิดออก ก่อนจะรีบหันไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ทั้งน้ำตา “หยุดนะชมพู ทำไมถึงได้ดื้อขนาดนี้ เอาแต่ใจเหลือเกิน” เมธาพัฒน์กระโดดข้ามเตียงนอนสีหวานมาคว้ามือของพวงชมพูไว้แน่น สาวน้อยพยายามสะบัดแรง ๆ แต่ไม่หลุด หล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างน้อยใจเป็นที่สุด “อย่ามายุ่ง ปล่อยชมพูนะ” พวงชมพูพยายามดิ้นรน เมธาพัฒน์ก็ไม่ยอมแพ้เขาพยายามรวบข้อมือทั้งสองข้างของพวงชมพูเอาไว้ ทั้งคู่ต่อสู้กันอยู่นานก่อนจะเสียหลักล้มลงไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่ โดยที่เรือนร่างแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเมธาพัฒน์นอนอยู่เบื้องล่าง และร่างนุ่มนิ่มของพวงชมพูอยู่ด้านบน กาลเวลาเหมือนหยุดอยู่กับที่ เมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกัน ความแนบสนิทที่ชิดเชื้อเกินความจำเป็นทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มปั่นป่วน ความต้องการบางอย่างค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากการหลับใหล แต่มันก็เรียกร้องอย่างชัดเจนบริเวณท้องน้อยของพวงชมพู สาวน้อยหน้าแดงซ่านความรู้สึกแนบชิดสนิทสนมกับชายที่ตัวเฝ้าแอบรักมานาน เด็กสาวขยับตัวไม่ได้ ความร้อนบางอย่างขมวดเป็นปมอยู่ในช่องท้อง ดวงตากลมโตของหล่อนจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของผู้ชายใต้ล่างราวกับต้องมนต์สะกด ทรวงอกของหล่อนแนบชิดกับอกกว้างตึงเครียดจนหล่อนคิดว่าแม้แต่อากาศก็ยังเล็ดลอดผ่านไปได้ยากเลย “อาต้น...” พวงชมพูครางเรียกชื่อเขาออกมาเสียงแผ่วเบาในลำคอ ดวงตากลมโตของหล่อนจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาขั้นเทพของอาหนุ่มของตนเองนิ่ง ความต้องการอะไรบางอย่างฉายชัดออกมาจากประกายตาคู่สวยคู่นั้น เมธาพัฒน์เห็นแล้วสติสตังก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงหายไปจนหมดสิ้น “อย่าทำให้อาคลั่ง...” เมธาพัฒน์คำรามเสียงแหบพร่า พลังกายและพลังใจทั้งหลายทั้งมวลถูกเขาเรียกออกมาใช้จนหมดสิ้น แต่... มันไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกถึงความอวบอิ่มงดงามของพวงชมพูน้อยลงแม้แต่นิดเดียวเลย “ลุกขึ้นจากตัวอา ก่อนที่จะสายเกินไป” คำเถื่อนของเขาเหมือนกับเสียงของสัตว์ป่าที่ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส พวงชมพูหน้าแดงจัดด้วยความอับอาย สาวน้อยรีบพลิกกายอวบอิ่มงดงามลงจากเรือนร่างกำยำแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว เมธาพัฒน์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เมื่อร่างบอบบางงามสะพรั่งของสาวน้อยในปกครองเคลื่อนตัวพ้นจากไปแล้ว เขาแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากจะคว้าเจ้าหล่อนเข้ากอด เข้ามาจูบให้หายคลั่งนัก แต่ก็ทำไม่ได้ หล่อนเด็กเกินไป และหล่อนก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาซะด้วย ถึงแม้หล่อนจะแสดงท่าทีว่าหลงรักเขามากมายแค่ไหน แต่นี่คงเป็นแค่ความหลงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น สักวันหล่อนก็คงจะมีคนรักที่พร้อมจะยืนเคียงข้างหล่อน และที่แน่ๆ ไม่มีทางใช่เขา... ด้วยความคิดที่ว่าหล่อนต้องไปเป็นของคนอื่น ความโกรธเกรี้ยวก็แล่นเข้ามาสู่สายเลือดของเขาเต็มเปี่ยม ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง เขามองแผ่นหลังของพวงชมพูที่สะท้อนไปมาเพราะแรงสะอื้นอย่างขุ่นเคืองใจ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงนอนไปหยุดยืนหันหลังอยู่ที่ประตูห้อง “สิ่งที่ชมพูกำลังจะบังคับให้อาทำ มันเป็นไปไม่ได้ และอาก็ไม่คิดจะทำมันด้วย” จบคำพูดประหัตประหาร พ่อตัวโตก็เผ่นแน๊บออกไปจากห้องนอนของหล่อนทันที เสียงปิดประตูตามหลังแรงๆ นั้นบ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นมัวของเขาได้เป็นอย่างดี พวงชมพูตัวแข็งทื่อ... คำพูดกล่าวหารุนแรงที่เมธาพัฒน์ทิ้งให้ไว้ก่อนจะออกไปจากห้องนั้นทำให้หล่อนแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บช้ำ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน เขาใจร้าย... ใจร้ายกับหล่อนเหลือเกิน... เมธาพัฒน์วิ่งลงมาตามบันไดไม้ที่ทอดยาวอย่างรีบร้อน อารมณ์ปรารถนาที่เขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นมาเลยกำลังเบ่งบานอยู่ภายในอก พวงชมพูทำให้กายหนุ่มของเขาลุกเป็นไฟ ร้อนยิ่งกว่าถ่านในเตาเสียอีก “ระยำ!” หนุ่มหล่อสบถคำรามออกมาอย่างหัวเสียสุดขีด ความรู้สึกต้องห้ามมันกำลังจะเข่นฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น ชายหนุ่มกำลังจะเดินพ้นไปจากประตูบานใหญ่หน้าบ้านอยู่แล้ว แต่เสียงเรียกของสาวใช้คนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังซะก่อน เมธาพัฒน์พยายามปรับอารมณ์ให้เย็นลงก่อนจะหันหลังกลับไปยังต้นเสียง “มีอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงที่เอ่ยถามออกไปนั้นราบเรียบ แต่ก็ยังมีร่องรอยแห่งความขุ่นเคืองใจแฝงอยู่มหาศาลนัก “คือ... คุณต้นจะรับอาหารกลางวันเลยไหมคะ หนูจะได้จัดให้...” “ไม่ต้องหรอก ผมทานมาแล้ว” เมธาพัฒน์จ้องมองสาวใช้อย่างแปลกใจที่เห็นหล่อนทำท่าทางตกตะลึงคำกับตอบของเขา “ต่อไปก็ไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวันเผื่อผมแล้วนะ ผมจะทานกับพวกคนงาน” พูดจบก็กำลังหันหลังเดินจากไป แต่แม่สาวใช้คนเดิมก็เรียกเขาขึ้นมาอีก ชายหนุ่มหันกลับมาอีกครั้งด้วยท่าทางรำคาญเต็มทน “ผมมีงานต้องทำอีกเยอะ รีบพูดมาครับ” สาวใช้หน้าเสียเมื่อถูกเมธาพัฒน์ตำหนิออกมา “คือ... คุณหนูเธอ... เธอ...” เมื่อได้รู้ว่าเรื่องที่สาวใช้กำลังจะพูดนั้นเกี่ยวพันกับพวงชมพู ความสนใจของเมธาพัฒน์ก็ถูกนำมากองรวมกันไว้ตรงหน้าทันที และคำพูดอึกอักของสาวใช้ก็ช่างไม่ทันใจเขาเสียจริง ๆ “ชมพู ทำไม มีอะไรครับ?” “คุณหนูเธอเข้าครัวทำอาหารเตรียมไว้ให้คุณต้นทานค่ะ แต่คุณต้นไม่มา เธอเลยเสียใจมาก...” คำพูดของสาวใช้ที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้น เสมือนคมมีดที่พุ่งเข้าไปตัดขั้วหัวใจของเขาอย่างเฉียบพลัน พวงชมพูเข้าครัวทำอาหารรอเขางั้นหรือ... แค่คิดถึงตรงนี้ความรู้สึกผิดก็จู่โจมเข้าใส่สามัญสำนึกของเขาอย่างรุนแรง ราวกับพายุที่กำลังโหมกระหน่ำถึงขีดสุด อย่างนี้นี่เองพวงชมพูถึงได้ดูโกรธเกรี้ยวนักที่เขาไม่ยอมกลับมาทานอาหารกลางวันที่บ้าน “อาขอโทษ ชมพู...” เมธาพัฒน์พึมพำออกมาแผ่วเบาในลำคอ ก่อนจะรีบหมุนตัวกลับเดินตรงไปยังห้องอาหาร โดยมีสาวใช้คนเดิมรีบวิ่งตามไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวข้ามพ้นธรณีประตูห้องอาหารเข้ามา ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำเอาเมธาพัฒน์อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นานหลายอึดใจ และพอได้สติชายหนุ่มก็หันหน้ากลับไปมองสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาด้วยสายตาคาดคั้นต้องการคำตอบ “ใครมาเล่นขายขนมในบ้านของผมหรือเปล่านี่ ทำไมมันเละเทะอย่างนี้” “คือคุณหนู... เธอทำไว้รอคุณต้น แต่คุณต้นไม่มา เธอเลย...” สาวใช้ไม่กล้าพูดต่อ แต่ถึงหล่อนไม่พูดออกมา จากสภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เขารู้ดีกว่าพวงชมพูเป็นเด็กเอาแต่ใจแค่ไหน “เอาล่ะ ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว เธอทำความสะอาดให้เรียบร้อยนะ ส่วนตัวต้นเหตุเดี๋ยวผมจะจัดการเอง”เมธาพัฒน์คำรามเล็ดลอดไรฟันออกมา กรามแข็งแรงของเขาขบกันขึ้นเป็นสัน ดวงตาคมดั่งพญาเหยี่ยวของเขาวาววับอย่างน่ากลัว จากที่ตั้งใจว่าจะหนีหล่อนกลับเข้าไปทำงานที่ไร่ต่อ แต่ตอนนี้แผนการของเขาต้องปรับเปลี่ยนโดยฉับพลัน พวงชมพูร้ายกาจเกินไปแล้ว เอาแต่ใจ แสนงอน เขาคงต้องหาวิธีมากำราบหล่อนซะที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD