Luna Say ::
ทุกวันหยุดกลางเดือน และสิ้นเดือน เราต้องบินกลับมาที่เชียงใหม่ทุกครั้ง มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ฉันยังเด็ก และเมื่อโตมา ก็ยังคงเป็นแบบนี้ นี่คือความเสมอต้นเสมอปลายของลุงซันที่ฉันชอบ ฉันกับมูน จะนอนที่เรือนเล็กของพ่อ เพราะแม่ยกให้เราสองคนแล้ว
“ มาแล้วหรอคะ ไปพักให้หายเหนื่อยกันก่อน “
“ คิดถึงแม่จัง “ ฉันสวมกอดหญิงสาวร่างเล็ก
“ อ้อนเก่งดีจัง เอาของไปเก็บก่อนปะ แล้วค่อยมาอ้อน “
ฉันทำตามที่แม่บอก โดยการเอากระเป๋าและสัมภาระไปเก็บในบ้าน พอเดินเข้าเรือนเล็กก็เจอไอ้มูนกำลังจะออกมาพอดี ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ไม่ถูกกับมันเลย ทั้งๆที่เด็กๆก็ออกจะรักกันดีแท้ๆ
ไร่ที่นี่มันกำลังจะใหญ่เกินกว่าที่เราจะดูแลไหวรึเปล่า ไหนจะคอกม้า ไหนจะไร่ ไหนจะสินค้าแปรรูป ไหนจะคน แม่เป็นผู้หญิงคนเดียวจะดูแลยังไงหมด
แม่เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย วางตัวดี ไม่ฟุ่มเฟือย และ รักมูน แน่นอน คงจะมากกว่าฉันด้วยซ้ำ ฉันเดินมาที่เรือนใหญ่ ก็เห็นทุกคนนั่นล้อมคุยกันเรื่องธุรกิจของไร่ แน่นอนว่าตอนนี้ลุงซันเป็นเหมือนที่ปรึกษาของแม่อยู่เนืองๆ
“ พี่ซัน ตอนนี้ฉันมีปัญหา ยอดขายสตรอว์เบอร์รี่กำลังตก เพราะนายทุน ถ้าฉันจะส่งไปตลาดที่กรุงเทพเองจะดีไหม แต่มันต้องมีการขนส่งอะไรอีกหลายอย่าง พี่ว่าฉันควรทำยังไงดี “
“ นี่ ไหวหรอ ทำอะไรที่มันมากมายอะ “
“ ก็อยากจะพัฒนาให้ทันยุคสมัย “
“ ซี ฟังพี่นะ เราไม่จำเป็นต้องทำให้ดีมากขึ้น ถ้าทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ซีลองคิดดูนะ ถ้าซีจะส่งของลงไปขายเอง ค่าขนส่งอาจจะแพงกว่าส่วนต่างของพวกนายหน้าก็ได้ “
“ ผมคิดว่าจะขายผ่านช่องทางออนไลน์ สตรอว์เบอร์รี่เรามีแค่ช่วงหน้าหนาว ใช่ว่ามันจะมีทั้งปี เราจะแพคกล่องสวยๆ เพื่อนส่งผ่านทางขนส่งเอกชน “ น้องชายรวมสายเลือด ที่มีหัวพัฒนาเหมือนแม่ไม่มีผิด จะผิดก็ผิดที่ฉัน ที่ไม่เก่งทางไหนเลย ผิดพ่อ ผิดแม่ชิบเป๋งเลย
ฉันเดินเข้ามานั่งฟัง ทั้งสามคนคุยกัน ในเรื่องที่ฉันเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยากจะพยายามจะเข้าใจนะ เพราะฉันอยากอยู่ช่วยงานลุงซันที่โรงแรมมากกว่านิ
“ ลูน่าคิดว่าดีไหม ถ้าแม่จะทำรีสอร์ต ให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวไปด้วยเลย “
“ ต้องใช้เงินเยอะมากเลยนะซี “
“ นั่นสินะคะ คงได้แค่ฝัน ที่นี่อะมีทุกอย่างพร้อม ยกเว้นเงินทุน ฮ่าๆ “ แม่หัวเราะออกมา
ลุงซันอยู่ที่นี่ ยิ้มง่ายดีจัง ดูอารมณ์ดี แบบที่หาที่บ้านไม่ได้เลย ฉันนั่งฟังแม่เล่าถึงแพลนที่ตัวเองวางไว้ ว่าถ้าที่นี่เปิดเป็นรีสอร์ตมันจะเป็นยังไง แล้วดูทุกคนก็ฟังตามที่แม่พูดอย่างตั้งใจ รวมทั้งตัวฉันเองด้วย
“ อยากทำจริงหรอ รับพี่เป็นหุ้นส่วนไหมล่ะ “
คำถามที่ทำเอาแม่เงียบ ลงไปทันที ก่อนจะปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจน จนลุงซันหน้าเสียไปเลย
“ เราเลิกคุยเรื่องนี้ แล้วกินข้าวกันดีกว่า “
เอกสารงานทุกอย่างถูกเก็บลงแล้วเปลี่ยนเป็นอาหารที่เต็มโต๊ะ
“ พี่แจง ไปตามต้นกล้ามากินข้าวที “
“ ค่ะ คุณซี “
แม่ดีกับทุกคน ยกเว้นลุงซัน ทำไมกันนะ ถึงจะไม่ได้แสดงออกชัดเจน แค่ใครที่อยู่ใกล้ก็คงรู้สึก พอพี่ต้นกล้ามา เราก็เริ่มทานอาหารกันอย่างเงียบๆ ฉันอยากทำลายความเงียบที่หน้าอึดอัดนี้จัง
“ ลุงซันกินนี่หน่อยนะคะ “ ฉันตักหมูใส่ลงที่จานของลุงซัน
“ ขอบใจ แต่ไม่ต้องก็ได้นะ ลุงกินเองได้ “ ปกติก็ตักให้ตลอด ทำไมจู่ๆวันนี้ถึงปฏิเสธล่ะ
นับวันก็ยิ่งเย็นชา ไม่รู้เลยรึไงว่าฉันรู้สึกยังไง
“ จบปีหน้าจะกลับมาเลยไหมลูน่า “
“ ไม่ค่ะ หนูยากจะทำงานที่โรงแรมของลุงซัน “ คำตอบของฉันทำเอาแม่ถึงกับวางช้อน
“ ไร่เรางานเยอะแยะ “ แม่เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง
“ แต่หนูเรียนบริหารมานะคะ “
“ กลับมาทำงานที่บ้านเรา คุณทวดกับพ่อทิ้งอะไรไว้ให้เยอะแยะ “ แม่เริ่มขึ้นเสียง
“ แม่คะ หนูก็มีความฝันนะคะ “
“ เห็นแก่ตัว “ ลูกชายสุดที่รัก พูดขึ้นมา
“ แกจะพูดอะไร ก็พูดได้นิ แกมันขี้ประจบ “
“ ลูน่า หนูจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ “
“ แม่ก็ปกป้องมันตลอด ถ้าพ่อยังอยู่ พ่อต้องเข้าใจหนูมากกว่าที่แม่เป็นแน่ๆ “ ฉันลุกพรวดแล้วเดินออกจากโต๊ะทันที
“ พี่ไปตามเอง “
“ พี่ซันหยุด แล้วนั่งลง ต้นกล้าตามน้องไป “
แม่เข้าข้างมันตลอด ไม่ว่ามันจะทำอะไรฉันก็เป็นคนผิด แบบนี้มันได้หรอ แค่ไม่อยากอยู่ที่ไร่ ฉันผิดรึไง ฉันเรียนหนักขนาดนี้ เพื่อมาทำงานที่ไร่งั้นหรอ
“ ทำไมถึงวิ่งออกมาแบบนี้ “
“ พี่ก็เข้าข้างแม่ “
“ แล้วที่เธอทำอยู่มันถูกหรอ ถ้านายอยู่คงจะเสียใจมากๆ “
พ่ออยู่พ่อจะเสียใจที่ฉันทำแบบนี้งั้นหรอ น้ำหยดน้อยๆค่อยไหลออกมาจากตาพร้อมระบายความรู้สึกที่อัดแน่น
“ แม่ไม่เคยเข้าใจฉันเลย แม่เข้าข้างมูนมันตลอด “
“ ไม่จริงเลย คุณแม่ตามใจเธอมากนะ ทั้งที่ยอมให้ลูกสาวไปเรียนไกลถึงกรุงเทพ แต่คุณมูนกลับไม่ได้ไป เธออยากได้อะไร คุณแม่ก็หามาให้ก่อน “
“ แม่จ้างพี่มาพูดเท่าไหร่เนี่ย “
พี่ต้นกล้าปาดน้ำตาของฉันเบาๆ
“ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ “
“ เลิกร้องไห้ได้แล้วเด็กขี้แย “ พี่ต้นกล้าขยี้หัวของฉันเบาๆ
“ ขี้แยงั้นหรอ พี่ไม่เรียกฉันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ “
“ ต่อไปเรียกว่าขี้แยดีไหม “
“ ม้ายยยยยย!!!! ต้องเรียกว่าลูน่าสิ ขอบคุณนะคะที่มาปลอบ พี่เป็นเหมือนพี่ชายของฉันจริงๆเลย แถมพี่ยังดีกับฉันมากกว่าน้องชายแท้ๆของฉันอีก “
“ เราไปปั่นจักรยานเล่นกันไหม เผื่ออารมณ์จะได้ดีขึ้น “
“ พี่ปั่นนะ ให้ฉันแบกคนตัวใหญ่แบบนี้ ขาฉันคงกล้ามขึ้น “
“ พี่เคยให้เธอปั่นรึไง “
“ ไม่เคยค่ะ “
ฉันซ้อนจักรยานของพี่ต้นกล้าไปเรื่อยๆ ตากลมเย็นๆไปตามถนน เห็นคนงานมากมายกำลังทำงานในไร่กันอย่างขะมักเขม้น จักรยานขับผ่านถนนที่เต็มไปด้วยต้นพญาเสือโคร่ง ที่ออกดอกสีชมพูสะพรั่งเต็มสองข้างทาง จนมาถึงจุดชมวิว ที่มองเห็นไร่ของเราได้ทั่ว
“ อารมณ์ดีขึ้นไหม “
“ อื้อ ที่นี่พ่อกับแม่ฉันรักกัน ถ้าฉันสารภาพความในใจของฉันกับลุงซันบ้าง มันจะได้ผลเหมือนพ่อกับแม่ฉันไหมนะ “
“ พี่ว่าไม่อะ “ พี่ต้นกล้าตอบด้วยหน้าเซ็งๆ
“ ชิ๊!! ฉันอะคือผู้โชคดี ที่ไม่เคยดีพอ ฉันอยู่ใกล้ลุงซันมากกว่าผู้หญิงคนไหน แต่ลุงซันไม่เคยหันมามองเลย “
“ ทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับคุณซันนัก “
“ ไม่รู้สิ “
“ ทะ...เธอมั่นใจได้ยังไง ว่าชอบคุณซัน “
“ เค้าเป็นผู้ชายในอุดมคติ ใจดี เป็นผู้ใหญ่ เก่งไปซะทุกเรื่อง แล้วก็รักเดียว ฉันไม่รู้หรอกผู้หญิงในใจของลุงซันเป็นใคร สวยแค่ไหน ดีแค่ไหน ลุงซันถึงไม่ยอมแต่งงานใหม่ แต่เค้าเลิกกันมา 20 ปีแล้ว ความรักคงจางหายไปหมดแล้วล่ะ มันจะโอกาสของฉันบ้างละ “
“ เคยอยู่ใกล้เค้าแล้วหัวใจเต้นรึเปล่า “
คำถามที่เอาฉันถึงกับอึ้งเหมือนกัน เพราะมันไม่เคยเลยสักครั้ง ลุงซันมีผลต่อความรู้สึก แต่ไม่เคยมีผลต่อหัวใจของฉันเลย แต่ใครจะไปสนกัน ก็ความรู้สึกของฉันมันบอกว่าใช่อะ
“ กลับดีกว่าพี่กล้า ฉันจะขับเอง “
“ ไหวหรอ “
“ ทางลงเขาไง ฉันขับได้ เพราะขึ้นเขาพี่ขับมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ “
ฉันปั่นจักรยานคันเก่าของพ่อ แล้วปล่อยมันไหลตามทางลาดลงมาเรื่อยๆ วู้วววว ที่นี่มันอากาศดีกว่ากรุงเทพจริงๆแหละ
“ เดี๋ยวๆๆๆ ระวัง คุณหนูข้างหน้า “ เสียงตะโกนของพี่ต้นกล้าทำเอาฉัน ทำอะไรไม่ถูกเพราะมันกำลังจะเข้าข้างทาง อ้อมแขนใหญ่ๆ ของใครคนนึงรวบเอวของฉันเอาไว้ให้ดีดตัวลงจากรถก่อนที่มันจะพุ่งชนต้นไม้ จนเราล้มไถลไปกับพื้น
“ โอ้ย!!! “ ด้วยแรงกระแทกทำเอาฉันถึงกับร้องโอดครวญออกมา
“ เจ็บรึเปล่า “ พี่ต้นกล้ารีบสำรวจความเสียหายของรร่างกายฉันอย่างร้อนรน
“ เรียกคุณหนูอีกแล้วนะคะ โกรธจริงๆแล้วนะ “
“ พี่เรียกแบบนี้มา 20 ปีแล้วนะ จะให้เปลี่ยนยังไงได้ทันที “
“ ฮ่ะๆ ล้มจนได้ รู้งี้ให้พี่ขับดีกว่า “
แล้วฉันก็ต้องตกใจเพราะพี่ต้นกล้ามีแผลใหญ่ที่แขน แต่ไม่ร้องสักแอะ ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย
“ พี่กล้า แผลใหญ่มากเลยนะคะ “
“ อ่อ นี่หรอ ไม่เป็นไร เธอไม่เป็นไรก็พอแล้ว “ ถึงจะชะงั้กทุกครั้งที่พูดคำว่าเธอ แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี ฉันลากคนเจ็บเดินกลับบ้าน เพื่อไปทำแผล เบื่อจริงเลยนะ พวกเจ็บแล้วบอกไม่เจ็บเนี่ย
พอกลับมาถึงบ้าน แม่ฉันเห็นแผลก็ตกใจเป็นอย่างมาก ฉันเลยเล่าให้แม่ฟัง ว่ามันเป็นเพราะฉันขับจักรยานพุ่งเข้าข้างทาง
“ งั้นก็รับผิดชอบ ทำแผลให้พี่เค้าเลย “
“ คุณซี ผมทำเองดีกว่าครับ “
“ ไม่ได้ยินที่แม่สั่งหรอคะ “
“ นึกถึงวันนั้นที่แม่ทำแผลให้พ่อก็แบบเนี้ยะ ถ้าวันนั้นแม่ไม่ได้พ่อนะเจ็บหนักเลย ได้พ่อเค้าคว้าเอาไว้ก่อนมันจะชน “
ฉันเงยหน้ามองพี่กล้า เหมือนเป๊ะเลย ถ้าพี่กล้าไม่คว้าฉันเอาไว้ คงจะเจ็บหนักจริงๆ
“ ขอบคุณค่ะ “ ฉันพูดขอบคุณพร้อมมือที่ทำแผลให้คนที่เจ็บแทน อย่างตั้งใจ น่าสงสาร แผลเบ่อเร่อเลย
“ ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่อะ “
ทำตามหน้าที่งั้นหรอ นั่นสินะ ฉันยิ้มให้คนที่เจ็บตรงหน้า
พอทำแผลเสร็จเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง ฉันเดินกลับมาที่เรือนเล็ก เพราะพี่ต้นกล้าแท้ๆฉันถึงไม่มีแผลเลย
Sun Say........
เธอยังคงกันผมออกทุกทาง เมื่อไหร่เธอจะลืมสามีเธอได้สักที ผมไม่ได้อยู่ในวัยมาจีบหญิงอีกแล้วนะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!!
ผมรีบออกไปเปิดประตูให้คนที่มาเคาะประตูห้องผมดึกขนาดนี้
“ ซี “
เธอมายืนหน้าห้องของผมในชุดนอนกระโปรงยาวจนถึงหัวเข่า การเวลาไม่เคยทำลายเธอเลย เธอยังดูเป็นเด็กสาวตาโต ตัวเล็กในสายตาของผมอยู่ตลอด
“ ขอเข้าไปนะคะ “
ขอเข้าห้องเลยหรอ ผมอึ้งนิดๆก่อนจะหลบทางเพื่อให้เธอเข้ามาในห้อง
“ ล็อกประตูด้วยค่ะ “