EP03.1 ll ก็มันขี้เกียจอ่ะ [1]

1648 Words
พูดจบ อีพี่เซ้นส์ก็กระเด้งตัวออกจากฉันทันที ฉันยังคงหอบพร้อมทำหน้าเหมือนหมาใกล้ตาย นึกงงกับไอ้พี่เซ้นส์ว่าได้กับฉันมันฉิบหายขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนสบถ เจ็บก็เจ็บ คนตัวสูงทำหน้าเลิ่กลั่ก แล้วเสยผมขึ้นไปเล็กน้อยเปล่งประกายรังสีความหล่อออร่าให้โดดเด้งออกมาจากหนังหน้าของนาง ก่อนจะจัดการรูดซิปของตัวเองให้เรียบร้อย พลางปิดกระโปรงฉันลง และเลื่อนบราเซียกับเสื้อที่ยับยู่ยี่ให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น เขาเลื่อนสายตามาสบฉันนิดหน่อยก่อนจะ... “หนู” “ฮะ?” ฉันทำหน้างง เมื่อพี่เซ้นส์ดึงฉันให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับปลดปล่อยพันธนาการให้ฉันเป็นอิสระ เขาเกาหัวนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ “พี่ขอโทษนะ” “ขอโทษ?” “พี่ลืม...” “ลืม?” ฉันงงเมื่ออีพี่เซ้นส์นางเบี่ยงสายตาไปทางอื่นแล้วค่อยๆ ขยับมาเกาะแกะและสางเรือนผมฉันเบาๆ เป็นท่าที่นางชอบทำเวลานางกำลังสำนึกผิดอะไรบางอย่าง “วันนี้วันอันตรายของหนูมั้ยอ่ะ?” “วันอันตรายคืออะไรอ่ะ?” “หนูเคยนับ หน้า 7 หลัง 7 มั้ยอ่ะ ที่มันจะมีวันสุ่มเสี่ยงจะท้องอ่ะ” พี่เซ้นส์ว่าก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาโฟกัสที่เบ้าหน้าฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันเก็ตในทันทีว่าอีพี่เซ้นส์ลืมอะไร... ลืมใส่ถุงยางไง! ฉันช็อกนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ตีโพยตีพายอะไรนัก ฉันคงไม่ดวงตกขนาดจะครั้งเดียวแล้วป่องมั้งงงง อีพี่เซ้นส์คงไม่ได้เชื้อแรงขนาดนั้นหรอก ฉันถอนหายใจยาวก่อนจะมองพี่เซ้นส์อย่างเซ็งจัด “พี่เซ้นส์ ก่อนถามอะ ดูหน้าแฟนพี่ด้วยนะ พี่คิดว่าหน้าหนูดูฉลาดมากอ๋อ?” “เออ พี่ลืมไปว่าหนูโง่” “ก็ใช่อ่ะดิ ถ้าหนูฉลาด หนูจะพลาดมาเป็นแฟนพี่ได้ไงอ่ะ” “หนูกวนตีนอีกละนะ” พี่เซ้นส์จิ๊จ๊ะก่อนที่ฉันจะทำหน้ามุ้งมิ้งแล้วพุ่งเข้าไปกอดเอวคนตัวสูงกว่า เอาหน้าไปถูซิกแพ็กให้หนำใจ พร้อมรอยยิ้มสดใส “ร๊ากกกกกก” ฉันลากเสียงยาว หวังว่าพี่เซ้นส์จะซึมซับรักอันมากล้นจนจะท่วมท้นออกจากอกของฉันได้เป็นอย่างดี คนตัวสูงจากที่กำลังซีเรียสก็เริ่มหัวเราะเพราะความสตอเบอรี่ของฉัน นางลูบหัวแล้วขยำเบาๆ “หมั่นไส้ ไอ้อ้วน ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยไป๊” “ได้หนูแล้วก็จุ๊บๆ เหมือนในหนังหน่อยดิ นี่ไรอ่ะ ได้เสร็จก็ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา หนูเสียใจนะ พี่เห็นหนูเป็นแค่เครื่องมือรองรับอารมณ์พิศวาส เป็นแค่ทาสแห่งความใครพี่ใช่มั้ยอ่ะ” “อันนั้นหนังไงมิว อันนี้เรื่องจริง ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยไป๊” ฮ่วย อีพี่เซ้นส์ ได้แล้วเทกันอย่างนี้เหรอ! ฉันคว่ำปากเป็นสระอิ แล้วตีหน้าอกคนตัวสูงด้วยความหมั่นไส้ ฉันอุตส่าห์ยอมอดทนเจ็บปานจะขาดใจ จำไว้เถอะ คิดว่าเป็นผู้ชายแล้วจะฟันแล้วทิ้งได้คนเดียวเหรอ ฉันบอกเลยนะ พี่เซ้นส์ก็แอ๊คไปอย่างนั้นแหละ พอฉันจะลาลับ เขาก็กลับมาง้อเหมือนที่พวกเราเป็นกันตลอด แต่ฉันไม่ป๊อดอย่างนางหรอก ฉันอ่ะคนจริง ฟันจริง ทิ้งจริงโว้ย 30% แต่เอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันยังไม่เบื่อ ฉันยังอยากเสพติดหนังรักอีโรติคไปอีกสักพัก ฉันจิ๊จ๊ะก่อนจะยันตัวลุกขึ้นทำหน้าเจ็บมากให้พี่เซ้นส์สำนึกบาปที่นางเพิ่งกระทำ เอื้อมมือไปสะกิดคนตัวสูงพร้อมส่งสายตาอ่อยระดับสิบ “พี่จ๋า แต่งตัวให้หนูหน่อยจิ” “เป็นง่อยเหรอมิว” “โห พี่อ่ะ ต่อมโรแมนติคตายด้านอ๋อวะ เซ็งว่ะ” ฉันเบ้หน้ากระเง้ากระงอดเมื่ออีพี่เซ้นส์ไม่สนใจลูกอ้อนของฉัน แถมยังหันมาแขวะอีกต่างหาก เมื่อก่อนนิดๆ หน่อยๆ ก็ชมฉันน่ารักอย่างนั้น อย่างนี้ ตอนนี้เหรอ ขอแค่ไม่บ่น ไม่ว่าก็ดีใจแล้วอ่ะ “ไอ้ลัคกี้ไปไหนละเนี่ย” พอเสร็จกิจ อีพี่เซ้นส์ก็เปิดโหมดเรดาห์สอดสายตาหาไอ้เหมียวแสนรักของเขา ทั้งที่ฉันยังจัดการกับเสื้อผ้าหน้าผมยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ ฉันบ่นอุบอิบมองคนตัวสูงด้วยความไม่พอใจนัก “วันๆ พี่ทำไรมั่งนอกจากตามหาแมวอ่ะ” “อยู่กับหนูไง” “โม้อีกละ” ฉันหมั่นไส้ในความตอแหลเพื่อเอาตัวรอดของเขา ก่อนที่จะลุกหยัดยืนตามคนตัวสูง พี่เซ้นส์จัดแจงตัวเองเรียบร้อยมาสักพักแล้ว พอเห็นฉันเคืองๆ นางก็เอาตัวมากระแซะนิดๆ แล้วเอียงคอลงมามองพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพื่อหลอกล่อให้ฉันอารมณ์ดีขึ้น “หูย น่ารักจัง หูย แฟนใครอ่ะ” พี่เซ้นส์ทำหน้าสะพรึงพร้อมยกมือทาบอกตกใจในความงดงามอลังการของฉันซะเต็มประดา แต่ฉันรู้ว่านางก็แค่อยากจะกวนประสาทฉันเล่นๆ ฉันเลยค้อนขวับพลางยกมือเตรียมจะแจกมะเหงกให้คนตัวสูง “โหย ไอ้พี่เซ้นส์ อย่ามากวนตีน เดี๋ยวเหอะ” ฉันโวยก่อนที่ไอ้พี่เซ้นส์จะไม่สำเหนียก ไม่ใส่ใจในประโยคที่ฉันบ่นจนเมื่อยปาก พลางเดินไปเปิดประตูเตรียมจะออกจากห้อง อีลัคกี้ยังคงนั่งเป็นเจ้าที่อยู่บริเวณขอบประตู มันหาวหวอดๆ แล้วหันขวับมามองพวกฉันพร้อมสายตางอนๆ เล็กน้อย “อุ๊ย ลัคกี้” ฉันทำทีเป็นมิตร พยายามยึดหลัก Love me Love my cat กับอี่พี่เซ้นส์ แม้ฉันจะหมั่นไส้ไอ้แมวตัวนี้เข้ากระดูกดำ แต่ฉันก็แกล้งทำเป็นยิ้มเริงร่า หน้าตาสดใส วิ่งเข้าไปใกล้มันด้วยหัวใจระริก หากแต่ไอ้แมวหยิ่งมันหันขวับพร้อมกับจ้องฉันตาขวางแล้วแยกเขี้ยวฟ่อๆ ประหนึ่งจะบอกว่า อย่ามายุ่งกับกูนะ ไอ้มนุษย์ ฉันเลยชะลอฝีเท้าและหยุด แต่พอพี่เซ้นส์เดินไปหา มันกลับดี๊ด๊าแล้วชูหางหน้าระรื่น ถุย อีแมวใจทราม! ขณะที่ฉันยืนกอดอกอย่างหงุดหงิดที่อีพี่เซ้นส์ไม่แม้แต่จะใส่ใจฉันอีก มัวแต่ไปเกลือกกลั้วกับไอ้แมวบาป จู่ๆ ก็มีน้ำเสียงนิ่งและเย็นดังขึ้นจนฉันสะดุ้งโหยง “เซ้นส์” “ฮะ?” พี่เซ้นส์ชะงักในท่าที่กำลังนั่งคุดคู้แล้วใช้มือทั้งสองข้างขยำไอ้เหมียว พลางเลื่อนสายตาไปยังคนมาใหม่ที่อยู่ในชุดนิสิตหญิง ผมยาวสีดำสนิทเลยบ่ามานิดนึง สูงเกินร้อยเจ็ดสิบอัพ ขาเรียว หุ่นเพรียว แถมหน้าโคตรนิ่ง มือข้างนึงถือไอศกรีมที่หยดแหมะลงกับพื้น “อ้าว เจ๊” อีพี่เซ้นส์ทำหน้าตะลึงนิดนึง “ไหนวันนี้จะนอนหอเพื่อนอ่ะ” “ถ้านอนหอเพื่อน จะกลับมาเจอแกพาผู้หญิงเข้าบ้านเหรอ?” คนตัวสูงกวาดสายตามามองฉันด้วยท่าทีคาดเดายาก ฉันแอบเกร็งนิดหน่อย อยากจะขยับขาไปหลบหลังพี่เซ้นส์ แต่ด้วยความสตรองจึงมองเธอกลับแล้วโปรยยิ้มหวานสุดเสน่ห์ให้เจ๊แกด้วยความเป็นมิตร “พี่สาวพี่เซ้นส์เหรอคะ?” ฉันมองแล้วส่งสายตาวิ้งๆ “หนูเป็นแฟนพี่เซ้นส์ค่ะ ชื่อมิว อยู่ปีหนึ่ง คณะอุตสาหกรรมเกษตร เกรดเอทุกเทอมค่ะ” ฉันแนะนำชื่อ คณะและเกรดทันที เพื่อที่เจ๊แกจะได้วางใจว่าน้องชายคบกับผู้หญิงมีอนาคต มีความฉลาดพาชาติเจริญมากๆ “ค่ะ” เจ๊แกตอบสั้นๆ จนฉันไปไม่เป็น ตอนแรกนึกว่าเจ๊ไม่พอใจอะไรฉันรึเปล่า แต่เพราะนางยิ้มให้ ฉันเลยเบาใจขึ้นมานิดนึง ฉันแอบพิจารณาคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าก็พบว่าเจ๊แกกับพี่เซ้นส์มีความคล้ายคลึงทั้งส่วนสูงและรูปลักษณ์ที่แอทแท็คคนมองแต่แรกเห็น เธอไม่ใช่คนสวยมาก แต่บุคลิกนิ่งและเย็นทำให้ละสายตาไม่ได้ “เจ๊อย่าบอกป๊ากับพี่หลินนะ” “ไม่บอกละได้ไร แกจะเป็นเวรล้างจานทั้งอาทิตย์เลยมั้ย?” “เออ” “กรอกน้ำด้วย” เจ๊แกหรี่สายตาแล้วยกยิ้มชั่วก่อนจะค่อยๆ ยกไอศกรีมขึ้นมางับราวกับจะฟ้องให้พ่อนางงับหัวอีพี่เซ้นส์ให้หลุดเหมือนดั่งไอศกรีมที่นางกิน ถ้าไม่ทำตามที่นางพูด อีพี่เซ้นส์เบ้ปากจิ๊จ๊ะแล้วพูดจาเหมือนจะขัดขืน “เอาใหญ่ละนะ” “งั้นบอก” “น้องจะกรอกให้ครบทุกขวด” ถุยยยย อีพี่เซ้นส์ ฉันนึกว่าแน่ ที่แท้ก็ป๊อด ฉันยืนหัวเราะอยู่หลังฉาก นึกสมน้ำหน้านางอยู่เบาๆ เจ๊ตัวสูงยิ้มรับเหมือนมีชัยก่อนจะปรายสายตามามองฉัน “พี่ชื่อซินนะ เป็นพี่สาวไอ้เซ้นส์” เจ๊แกแนะนำตัวแล้วยิ้มให้ก่อนจะรูดไอศกรีมออกจากปากพลางชี้มาที่หน้าฉัน เธอพูดเสียงราบเรียบเป็นโมโนโทน มองฉันที พี่เซ้นส์ที เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีมั้ย “ก่อนจะเข้าเรื่องอื่น พี่มีอะไรจะแนะนำหนูหน่อย” “ขา?” “ร้านขายยาอยู่หน้าปากซอย” “?” ฉันกับพี่เซ้นส์ย่นคิ้วงง ว่าจู่ๆ เจ๊แกพูดถึงร้านขายยาทำไม ไม่ได้มีใครเป็นไข้สักหน่อย จนกระทั่งเจ๊แกพูดประโยคต่อมา ฉันก็รู้เลยว่านางคงยืนอยู่ตรงนี้ฟังอะไรต่อมิอะไรนานมากแล้ว... “ถ้าไอ้เซ้นส์มันได้หนูแล้วไม่ใส่ถุงยางอ่ะ ก็รีบไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินซะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD