“ลงกันเถอะ ถ้าเซ้นส์มันมาเดี๋ยวมันก็โทรมาเองน่ะแหละ” เจ๊ซินว่าหน้านิ่งๆ ก่อนจะเปิดประตูรถลงมา เธอยังดูเป็นผู้หญิงที่นิ่งสงบและมีรังสีเย็นๆ ออกมาอยู่ตลอด “เซ้นส์จะเหนื่อยมั้ย ไปเรียนแล้ววิ่งไปนั่นมานี่อีก” คุณย่ายังบ่นไม่ขาดปากแถมยังมองหน้าฉันอีกรอบเป็นเชิงตำหนิเหมือนฉันเป็นคนที่ทำให้พี่เซ้นส์ต้องลำบาก ฉันได้แต่อดกลั้น ท่องนะโมตัสสะอยู่ในใจวนไปร้อยรอบเพื่อให้ใจสงบ ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยนัก จนเจ๊ซินถอนหายใจแล้วทำหน้าเซ็งจัด “เหนื่อยแค่นี้มันไม่ตายหรอก ย่าจะห่วงอะไรมันนักหนา ถึกยังกะควาย” “แกนี่ก็ไปว่าน้องมัน เซ้นส์มันบอบบางจะตาย” “ย่า เซ้นส์มันเป็นผู้ชายนะ มันโตแล้ว โตจนทำลูกสาวคนอื่นเขาท้องแล้วเนี่ย จะสปอยอะไรนักหนา” เจ๊ซินดุแล้วย่นคิ้วไม่พอใจนิดๆ ก่อนจะมองหน้าฉันเล็กน้อย ฉันแอบกราบขอบคุณเจ๊แกอยู่ในใจที่ช่วยออกโรงให้ “นี่ หลิน! ดูลูกแกสิ๊ มาว่าหลานชายฉันเนี่ย” “โอ๊ย แม่คะ เซ้นส์มันไม่ใช่