“ท่านอ๋องมาเจ้าค่ะ” ชิงชิงกระซิบบอกฉัน
“ไปเจ้าค่ะคุณหนูกลับไปที่เตียงก่อน” ชิงชิงพยุงฉันให้กลับไปนั่งที่เตียง
“ชายารองเจ้าหลับอยู่หรือ” เสียงจากข้างนอกดังขึ้นอีกรอบ
“มาแล้วเจ้าค่ะๆ” ชิงชิงขานรับพลางรีบวิ่งไปเปิดประตูให้
แอ๊ดดด~ ประตูเปิดออกทันทีตรงหน้าฉันคือผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อมาก หล่อแบบวัวตายความล้ม หน้าหล่อละมุมยิ่งกว่าอปป้าเกาหลี แต่มีแววตาที่ดุดันราวกับราชสีห์ ผมสีดำขลับตัดกับผิวขาวราวหิมะ จมูกเป็นสันโด่ง ปากสีชมพูน่ามอง สูงสง่าออร่าจับสุดๆ นี่น่ะหรออ๋องตัวร้ายอ่ะ ทำไมงานดีอย่างนี้~ *0*
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ที่เตียงฉันเขาจ้องมองมาที่ฉันนิ่งๆ
“...” เขาหล่อมาก หล่อกว่าดาราที่ฉันตามกรี๊ดอีก แม่เจ้านี่สามีฉันหรอเนี่ย *0*
“ชายารอง...” ชายตรงหน้าเอ่ยเสียงเบาคิ้วขมวดกันเป็นปมเมื่อฉันเอาแต่จ้องเขา
“เอ่อ..คารวะท่านอ๋อง ชายารองเพิ่งฟื้นขึ้นมาแถมตอนนี้ยังความจำเสื่อมจำเรื่องราวอันใดมิได้อีกขอท่านได้โปรดอย่าถือสาเลยนะเจ้าคะ” ชิงชิงคุกเข่าลงกับพื้นแล้วอธิบายให้เขาฟัง
“อืม ข้าได้ยินหลี่อันบอกว่านางสูญเสียความทรงจำข้าเลยอยากมาดูด้วยตาตนเอง ดูท่าจักจริงมิเช่นนั้นนางคงมิมองข้าเยี่ยงนี้เป็นแน่ เอาล่ะพรุ่งนี้ข้าจักให้หมอหลวงมาตรวจอาการนางอีกรอบเจ้าก็ดูแลนางให้ดี” เขาหันไปสั่งชิงชิงก่อนจะปรายตามามองฉันเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป
“บ่าวรับบัญชาเจ้าค่ะ น้อมส่งท่านอ๋อง” ชิงชิงก้มคำนับเขาแล้วรีบไปปิดประตูทันทีเมื่อเขาเดินออกไปลับตา
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอย่างไรบ้างใยจึงตัวแข็งทื่อเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ?” ชิงชิงเข้ามาถามฉันใกล้ๆ
“น..นั่นอ๋องโจวตงหยางที่ว่าหรอ? เขาหล่อมากเลยนะ ทำไมจางจินเยว่ไม่ชอบอ่ะ?” ฉันถามออกไปอย่างลืมตัว
ฉันเพิ่งจะอ่านแนะนำตัวละครในเรื่องถึงแค่จางจินเยว่เองอ่ะเพราะชื่อนางขึ้นคนแรกแถมอ่านยังไม่จบด้วยซ้ำแล้วแนะนำตัวละครก็ไม่ได้บอกว่านางเป็นนางเอกมั้ยหรืออะไรบอกแค่ลักษณะนิสัยคร่าวๆ ว่าจางจินเยว่นั้นนิสัยอ่อนโยนเป็นสตรีที่เพรียบพร้อมแต่กลับมีสามีใจร้ายอย่างโจวตงหยางทำให้นางต้องทนทุกข์
ฉันยังไม่ได้อ่านถึงตัวร้ายอย่างอ๋องโจวเลยแม้แต่บรรทัดเดียว แล้วฉันจะรับมือเขาได้ยังไงล่ะทีนี้ ต้นข้าวเอ๊ยต้นข้าวตอนนั้นน่าจะอ่านแนะนำตัวละครให้หมดก่อนค่อยชาร์จแบต ฮือออออ~
“ใยท่านจึงกล่าวได้แปลกเช่นนี้ล่ะเจ้าคะ เรื่องรูปงามทั้งท่านอ๋องโจวตงหยางและองค์รัชทายาทต่างก็เป็นที่เลื่องลือไปถึงต่างแคว้นเพียงแต่ท่านนั้นปักใจรักองค์รัชทายาทเพียงเท่านั้นเจ้าค่ะ...” ชิงชิงตอบ
“ความสามารถของทั้งสองมิเป็นรองกันเลยเจ้าค่ะทั้งด้านบุ๋นและบู๊ แถมวรยุทธ์ก็เก่งกาจพอๆ กันเพียงแต่..” ชิงชิงหยุดเล่าแล้วหันมามองฉัน
“แต่อะไรหรอ? เล่าต่อสิ” ฉันนั่งฟังชิงชิงอย่างตั้งใจ
“เพียงแต่ท่านอ๋องนั้นเกิดจากฮองเฮาองค์ก่อนเดิมทีถูกวางตัวให้เป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ แต่พอฮองเฮาชิ้นพระชนม์ฮ่องเต้ก็ทรงแต่งตั้งกุ้ยเฟยขึ้นมาเป็นฮองเฮาแทนหลังจากนั้นมินานนักก็แต่งตั้งโอรสองค์รองที่เป็นโอรสของฮองเฮาองค์ปัจจุบันเป็นรัชทายาท ส่วนท่านอ๋องโจวก็รับตำแหน่งอ๋องเพราะคือพี่ชายของฮ่องเต้ในอนาคตแทนเจ้าค่ะ” ชิงชิงร่ายยาวถึงเหตุการณ์ในวังที่เคยเกิดขึ้นของอ๋องโจว
“ชีวิตเขาก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย” ฉันพูดขึ้นเมื่อชิงชิงพูดจบ
“แต่ท่านอ๋องเองก็มีนิสัยโหดเหี้ยมนักนะเจ้าคะ เล่าลือกันว่าครั้งหนึ่งท่านอ๋องนำทหารออกจับโจรป่าเมื่อไปถึงหมู่บ้านของโจรป่าท่านอ๋องสั่งให้ลงมือสังหารทุกคนที่อยู่ที่นั่นโดยมิสนอะไรแม้กระทั่งเด็กน้อยตัวเล็กๆ ก็มิละเว้นเลยเจ้าค่ะ ว่ากันว่าภายในคืนเดียวหมู่บ้านแห่งนั้นก็นองไปด้วยเลือด ศพคนตายเกลื่อนลานหมู่บ้านไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน” ชิงชิงพูดต่อ
“โหดร้ายเกินไปแล้ว!! เด็กจะไปเป็นโจรได้ยังไงเล่าเขาอาจจะโตมาเป็นคนดีหรือเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านไม่ให้เป็นหมู่บ้านโจรก็ได้” ฉันหน้าบึ้งทันทีที่ได้ยินชิงชิงพูดถึงความโหดร้ายของเขา
“แล้วก็เรื่องที่ท่านแต่งเข้ามาในจวนจากเหตุที่ท่านอ๋องลอบเข้าห้องท่านก็ด้วยเจ้าค่ะ แม้ว่าท่านจักยืนกรานหนักแน่นว่าท่านอ๋องมิได้ล่วงเกินท่านแม้แต่น้อยแต่กลับพบว่าบนเตียงของท่านมีรอยเลือดอยู่ เรื่องนี้ทำให้ท่านอ๋องจางหลิงบิดาท่านจำใจต้องยกท่านให้แต่งเข้าจวนเป็นชายารองอย่างหลีกเลี่ยงมิได้เพื่อรักษาชื่อเสียงของท่าน ทั้งยังมีราชโองการพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้แคว้นโจวอีก ตัวท่านเองก็จำใจที่จะแต่งเข้ามาเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นตระกูลจางและแคว้นจื่ออาจจักต้องโทษอาญา” ชิงชิงเล่า
“อีตานี่!...เอ่อ..ท่านอ๋องผู้นี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก!” ให้ตายเถอะฉันไม่ชินเลยที่ต้องมาใช้คำพวกนี้เนี่ย แค่เวลาพูดในที่ทำงานก็กระดากปากจะแย่ แต่นี่คือต้องพูดตลอดเวลาจนกว่าจะได้กลับเลยใช่มั้ยเนี่ย - -*
“นี่ชิงชิง ข้าอยากเล่าความฝันของข้อให้เจ้าฟังเหลือเกินความฝันที่เหมือนไม่ใช่ฝันก่อนที่ข้าจะตื่นขึ้นมา...” ฉันพูดขึ้นพลางทอดสายตาออกไปทางประตู
“ท่านฝันถึงเรื่องใดหรือเจ้าคะคุณหนู” ชิงชิงนั่งลงข้างๆ ฉันอย่างใจจดใจจ่อ
“ข้าฝันว่าข้าอยู่ในโลกอีกใบ ที่มีข้า ท่านแม่แล้วก็พี่ชาย ที่นั่นเราใช้ชีวิตกันเพียงสามคนข้าเรียนจบแล้วแต่ยังหางานทำไม่ได้ส่วนพี่ชายเป็นตำร...เอ่อผู้ตรวจการพวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ในโลกนั้นข้าชื่อว่าต้นข้าว มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องมียศใดๆ ไม่ต้องมีบ่าวรับใช้หรือใครคอยดูแลที่นั่นข้ามีความสุขมากเลยล่ะ...” ฉันเล่าออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อนึกถึงครอบครัวที่ฉันจากมา
“แต่พอข้าตื่นมา...กลับกลายเป็นว่าข้าจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับที่นี่ ในหัวข้ามีแต่ความทรงจำในฝันเท่านั้น ข้าจำได้แค่ว่าข้าคือต้นข้าวแต่ข้าจำไม่ได้ว่าข้าคือจางจินเยว่...” ฉันเล่าออกไป
“คุณหนู...” ชิงชิงเรียกชื่อฉันเสียงเบาพลางกุมมือฉันไว้แน่น
“ข้าแค่จะบอกเจ้าว่าถึงแม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้สักอย่างแต่เจ้าอย่าได้ถือสาข้าเลยนะ อะไรที่ข้าไม่รู้ข้าขอรบกวนเจ้าให้คอยบอกข้าด้วยข้าจะได้ไม่ดูแปลกแยกไปมากกว่านี้” ฉันหันไปยิ้มให้กับชิงชิง
“เจ้าค่ะคุณหนู...” ชิงชิงพยักหน้ายิ้มรับปากฉันด้วยใบหน้าที่น้ำตาคลอ
“จริงสิชิงชิงเล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ”ฉันหันหน้าไปมองชิงชิง นางมีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมเล่าออกมา
"ข้าเป็นเด็กที่ท่านอ๋องจางหลิงบิดาของท่านรับมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นทารกเจ้าค่ะ พ่อแม่ของข้าถูกกลุ่มโจรปล้น ยามนั้นเหลือเพียงข้าที่มีชีวิตรอดเพราะข้าถูกซ่อนไว้ใต้เตียงตัวข้านอนหลับจึงมิได้ร้องส่งเสียงให้โจรพวกนั้นได้ยินพอถึงยามที่ท่านอ๋องนำทหารมาพวกโจรก็ฆ่าล้างบางบ้านข้าหมดสิ้นแล้วท่านอ๋องเมตตาจึงรับข้ามาเลี้ยงไว้ในจวนเจ้าค่ะ แม่บ้านกู้เล่าให้ข้าฟังเช่นนี้เจ้าค่ะ" ชิงชิงเล่าที่มาของตนอย่างปลงตกในเรื่องอดีต ที่แท้นางก็มีชะตากรรมที่น่าสงสารขนาดนี้
"ข้ากับคุณหนูอายุไล่เลี่ยกันข้าจึงเป็นเพื่อนเล่นและสาวใช้ของท่านมาตั้งแต่จำความได้เจ้าค่ะ"ชิงชิงหันมายิ้มให้ฉัน
"นับจากนี้ไปขอให้เจ้าถือซะว่าข้าเป็นเหมือนพี่สาวเจ้าคนนึงก็แล้วกันนะชิงชิง ข้ามาอยู่ที่นี่ข้าไม่รู้จะเชื่อใจใคร แต่ตอนนี้ข้ามีเพียงแต่เจ้าเท่านั้นที่พอจะพูดคุยและสามารถเข้าใจข้าได้" ฉันพูดจบชิงชิงก็มองฉันน้ำตาคลอทันที
"คุณหนูช่างดีกับข้าเหลือเกินชาตินี้ข้าเสี่ยวชิงชิงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีและปกป้องท่านด้วยชีวิตเจ้าค่ะ"ชิงชิงพูดขึ้นก่อนจะก้มหมอบคำนับให้ฉันจนฉันต้องรีบพยุงนางขึ้นมานั่ง
"วันนี้เจ้าสาบานเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วนะ ข้ารับรู้แล้วๆ"ฉันพูดแล้วส่งยิ้มให้กับชิงชิง