“เบลล่า…มาหลบอยู่นี่เอง ผมตามหาซะทั่ว” วูล์ฟกระซิบริมหูน้อยน่ารัก กลิ่นกายหอมยั่วใจที่ลอยมาปะทะจมูกตั้งแต่เดินมาถึงทำให้เขาอดไม่ไหว จนต้องปรี่เข้าจู่โจมสาวเจ้าทันควัน ทั้งที่เขาไม่เคยออกอาการคลั่งเพราะอิซาเบลล่าแบบนี้มาก่อน…ไม่เคยเลยจริงๆ ให้ตายสิ!
มะลิร้อยรู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงทุ้มเจือหวานละมุนน่าฟังคือใคร ด้วยแอบหลงรักอีกฝ่ายเสียงของเขาจึงเขย่าหัวใจเจ้ากรรมให้เต้นไม่เป็นส่ำ ดวงหน้าแฉล้มแดงซ่าน
“เอ่อ…ฉันไม่ใช่…” เธอกำลังจะบอกว่าตนไม่ใช่อิซาเบลล่า ทว่าพ่อเจ้าประคุณกลับสวนขึ้นเสียก่อน
“ชู่ว์…อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยทูนหัว ขอผมชื่นใจก่อน” คนที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นว่าที่เจ้าสาวของตนเอ่ยเสียงห้าวเจือแหบ ขาดคำเขาก็ลดใบหน้าหล่อลากไส้ลงมาหา ลมหายใจผ่าวระอุที่ราดรดต้นคอส่งผลให้เธอขนลุกซู่ และเผลอกลั้นใจ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อ เมื่อชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างอุกอาจ การจู่โจมแบบถึงเนื้อถึงตัวในชั่วเสี้ยวนาทีทำให้มะลิร้อยแทบช็อก เพราะไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมือไวถึงเพียงนี้ สาวน้อยมัวแต่ตกตะลึงจนลืมปัดป้องและห้ามปรามไปเสียสิ้น ทว่าที่สุดมะลิร้อยก็ควานหาเสียงตัวเองเจอ
“อย่าค่ะ อย่า…” เธอห้ามปรามได้เพียงเท่านั้นก็ต้องอ่อนระทวย เพราะมือกระด้างที่ลนลานลูบไล้ไปทั้งสรรพางค์กายส่วนบนอย่างกระหายจัด ประกายพิศวาสแล่นปราดไปทั่วทุกอณูขุมขน ความอ่อนเดียงสาและไม่เคยต้องมือชายทำให้สาวน้อยหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านสัมผัสจาบจ้วงหยาบคายทว่าวาบหวามเกินห้ามใจ หนำซ้ำยังเผลอครางกระเส่าออกมาอย่างน่าละอาย
“อ๊าซ์…คุณวูล์ฟ”
ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนมากอบกุมเต้าทรวงนุ่มหยุ่น เเล้วเคล้นคลึงหนักๆ ขณะตวัดปลายลิ้นสากระคายเล่นงานติ่งหูบอบบางไวต่อสัมผัส ทำเอาคนไม่ประสาครวญคร่ำด้วยความเสียวซ่านสุดขีด ดวงหน้าหวานใสเห่อแดงส่ายสะบัดอย่างทรมานแทบขาดใจ ขณะเอนกายทิ้งน้ำหนักมาพิงแผ่นอกกว้าง แล้ววาดแขนเรียวโอบรั้งลำคอแกร่งของพ่อตัวโตที่ยืนประกบอยู่ทางเบื้องหลังอย่างใช้เป็นหลักยึด
“คุณวูล์ฟ อื้อ…อา”
เสียงครางหวานซ่านทรวงปนหอบพร่าทำให้วูล์ฟเกิดความย่ามใจ ลากไล้เรียวลิ้นร้ายกาจจากใบหูน้อยลงมายังลำคอเรียวระหง ก่อนจะดูดเม้มหนักๆ จนเกิดเป็นรอยประทับตีตรา จากนั้นก็ฟอนเฟ้นหน้าอกอวบสล้างอย่างเมามัน บ้างก็บดขยี้ปลายถันชูชันที่ยังคงมีอาภรณ์ห่อหุ้ม เรียกเสียงหวีดร้องด้วยความรัญจวนใจให้เล็ดลอดออกมาจากเรียวปากสีระเรื่อ คนตัวเล็กแอ่นกายสู้ฝ่ามือมากพิษสงอย่างขาดสติ ทำเอาชายหนุ่มคำรามกระหึ่มกลั้วลำคอหนาด้วยความพึงพอใจกับการตอบสนองในแบบไร้เดียงสา
ลมหายใจของนางซินตัวน้อยพลันสะดุดขาดเป็นห้วงๆ ทันทีที่เขาล้วงเข้าไปในเสื้อยืดสีซีดตัวเก่า แล้วรุกรานเรือนร่างเนียนละมุนตามอำเภอใจ ครั้นอีกฝ่ายเคลื่อนฝ่ามือผ่าวระอุมาโจมตีเต้าทรวงอวบอิ่มภายใต้บราเซียร์ตัวจิ๋วอย่างเร่าร้อนระคนดิบเถื่อน มะลิร้อยก็สูดปากครางระงม รู้สึกทุรนทุรายเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้
“อูยยยย…ซี้ดดดด”
อารมณ์พิศวาสอันแสนวาบหวามเข้าครอบงำจนสาวน้อยมิอาจควบคุมตัวเองได้ เธอบิดกายส่ายไหวดั่งใบไม้ต้องลม ท้องน้อยปั่นป่วนระคนร้อนวูบวาบ ซอกสาวเริ่มชุ่มฉ่ำอย่างน่าประหลาดพอๆ กับน่ากระดากอาย ขาทั้งสองข้างแทบทรงตัวไม่อยู่ และคงจะทรุดลงไปกองกับพื้นหากวงแขนทรงพลังไม่เหนี่ยวรั้งเอาไว้เสียก่อน จากนั้นวูล์ฟก็ทำท่าว่าจะเลิกชายกระโปรงทรงสุ่มขึ้น แต่แล้วจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจหันมากระชากมันออกจากร่างอรชรแทน และอาการกระแทกกระทั้นใจร้อนยิ่งกว่าไฟของพ่อยอดชายก็ทำให้เธอได้สติอีกครา
“ยะ..อย่าค่ะ” มะลิร้อยละล่ำละลักห้ามปรามเสียงหวิวไหวราวกับกระซิบ ขณะพยายามขืนกายให้หลุดพ้นจากพันธนาการร้อนร้าย ทว่าไม่เป็นผล
วูล์ฟชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่คิดจะหยุดการกระทำวาบหวามลง เพราะเขายังคงล็อกเอวบอบบางเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนฝ่ามือกระด้างก็ยังคงกำที่ชายกระโปรงของอีกฝ่ายไม่ปล่อย ก่อนที่จะกระซิบออดอ้อนชวนใจสะท้าน
“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้
อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด
“เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกมาประหนึ่งโดนของร้อน ประจวบเหมาะกับไฟที่บริเวณนั้นสว่างพรึ่บขึ้นพอดี เขาจึงมีโอกาสได้มองเธอจากทางเบื้องหลัง แวบหนึ่งวูล์ฟนึกอยากจะหมุนร่างอรชรให้หันมาเผชิญหน้า ทว่าครั้นนัยน์ตาคมกริบได้เพ่งพิศสารรูปของอีกฝ่าย จอมยโสก็รีบผลักไสความคิดบ้าๆ ออกไปจากสมอง พร้อมสบถลั่นในอก
ฉิบหาย! เมื่อกี้เขาทำตัวเหมือนพวกโรคจิตบ้ากามที่ไม่ได้ฟัดผู้หญิงมาเป็นชาติ กับแม่สาวร่างเล็กเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว!
ส่วนคนที่เพิ่งถูกจู่โจมชนิดไม่ทันตั้งตัวไปหมาดๆ ก็ถึงกับระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก แล้วด่าทอตัวเองในใจที่เผลอไผลไปกับสัมผัสวาบหวามซึ่งเขาประเคนเข้าใส่อย่างหน้าไม่อาย เดชะบุญที่พ่อเจ้าประคุณยังไม่ได้ทำอะไรเลยเถิดมากไปกว่านั้น และที่สำคัญคือกระโปรงของเธอก็ยังอยู่ในสภาพที่ถือว่าโอเค เพราะมันไม่ได้ขาดวิ่นหลุดติดมือใหญ่ให้อับอายขายขี้หน้าหนักเข้าไปอีก ก่อนที่มะลิร้อยจะอ้าปากค้างกับวาจาร้ายกาจซึ่งหลุดออกมาจากปากหยัก
“ก็ยังว่าอยู่…เนื้อตัวเหม็นเน่าเเบบนี้ไม่ใช่เบลล่าเเน่ เเถมตัวเตี้ยขนาดนี้เวลาจะ ‘ร่วมรัก’ ด้วยคงใช้ท่ายืนไม่ได้ ถ้า ‘อยาก’ จริงๆ ก็คงต้องอุ้มกระเตง แต่กว่าจะ ‘เสร็จ’ คงเมื่อยตายชัก”
ทั้งที่รู้สึกผิดและละอายใจที่เผลอไปทำอะไรบ้าๆ กับเธอเข้า หากแต่แทนที่จะกล่าวคำขอโทษพ่อเจ้าประคุณกลับเลือกพ่นวาจาร้ายๆ ออกมาทิ่มแทงใจคนฟัง เพราะคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน จองหองเกินกว่าที่จะกล่าวขอโทษใครง่ายๆ อีกอย่างเขาก็นึกหงุดหงิดใจ เพราะจำได้ว่าตนไม่เคยกระทำการหยาบคายและดิบเถื่อนเเบบนั้นกับอิซาเบลล่าเลยสักครั้ง ทว่าเมื่อครู่นี้แม่สาวน้อยตรงหน้ากลับเหมือนมีแรงดึงดูด ที่สามารถกระตุ้นให้เขาอยากทำมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ เธอทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะ
มันน่าประหลาดตั้งแต่ที่ในคราแรกเขาเห็นว่าสาวเจ้าน่าปรารถนาจนแทบคลั่ง แถมยังเดินลิ่วเข้ามาสวมกอดและลวนลามอีกฝ่ายแบบหน้ามืดตามัว ทั้งที่สัดส่วนของเธอกับอิซาเบลล่าไม่ใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย และที่น่าโมโหไปกว่านั้นก็คือ วูล์ฟไม่สนด้วยซ้ำว่าสไตล์การแต่งกายของหญิงสาวทั้งคู่จะต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะแม่คุณเล่นครางกระเส่าเรียกชื่อเขาซะเต็มปากเต็มคำ ส่อแววไปในทางคนที่คุ้นเคยกันนักหนา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาเข้าใจผิดได้อย่างไรไหว
จะว่าไปแล้วอีกฝ่ายไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจเลยสักนิด สกปรกก็เท่านั้น ทว่าเขากลับนึกอยากกระโจนเข้าใส่เพียงแค่มองเห็นแผ่นหลังบอบบาง และได้กลิ่นหอมหวานยวนใจจากกายสาวสะพรั่งชวนลิ้มลอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนั้นมันคือกลิ่นอาหาร ซึ่งโชยออกมาจากเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกของเธอ เหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้งให้ประสาทรับกลิ่นของเขาเพี้ยนไปชั่วขณะ แต่สรุปแล้วความผิดพลาดทั้งหมดมันเกิดจากความมืด…ความมืดทำให้เขาทำเรื่องน่าบัดซบ! มันไม่ได้เกิดจากความ ‘บ้าตัณหา’ ของเขาแต่อย่างใด หากไฟที่บริเวณสวนหลังบ้านพอร์ตแมนถูกเปิดให้สว่างเร็วกว่านี้ สาบานได้ว่าเขาจะไม่แตะต้องยัยเด็กนี่แม้แต่ปลายเล็บ
“คุณลวนลามฉัน แล้วยังจะมาพูดจาแบบนี้กับฉันอีกเหรอคะ” มะลิร้อยเอ่ยเสียงเครืออย่างเสียความรู้สึก อยากจะหันไปมองหน้าคนหยาบคายและใจร้ายให้เต็มๆ ตาแต่ก็ไม่กล้าพอ
“ฉันพูดแทงใจดำเธองั้นสิ คราวหลังจะอ่อยใครก็ควรจะดูสารรูปตัวเองหน่อยนะ ว่ามันชวนดึงดูดใจหรือว่าน่าสะอิดสะเอียนกันแน่” คนโอหังใส่เป็นชุดโดยที่เธอได้แต่ยืนอึ้ง แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน และวาจาหยามหมิ่นซึ่งลอยมากระแทกโสตประสาทก็ทำให้สาวน้อยเกือบจะน้ำตาร่วง
“ฉันไม่ได้อ่อยคุณนะคะ และไม่เคยคิดที่จะอ่อย” คนโดนดูถูกปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองน้ำเสียงสั่นระริก การไม่ตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงไม่ได้หมายความว่ามะลิร้อยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพียงแต่ไม่อยากให้เขามองว่าเป็นเด็กก้าวร้าว และเอาพฤติกรรมที่เธอแสดงออกไปเล่าให้ป้าของเธอฟัง เพราะนั่นอาจจะเป็นเหตุให้เธอถูกทำโทษยกใหญ่
“ไม่อ่อย…แต่มายืนอยู่ในที่มืดๆ เพียงลำพังแบบนี้เนี่ยนะ จะบอกให้นะแม่คุณ ว่าถึงฉันจะโปรดปรานเรื่องเซ็กส์แต่ฉันก็เลือก และเนื้อตัวโสโครกแบบนี้ต่อให้เธอแก้ผ้าอ่อยฉันก็ไม่เกิดอารมณ์ บอกตรงๆ ว่า ‘เอา’ ไม่ลง” น้ำคำกักขฬะที่คนหลงตัวเองพ่นออกมาทำให้เธอหน้าตึง ก่อนจะสวนกลับเสียงกระด้าง
“ถ้าการพูดจาดูถูกฉันมันทำให้คุณมีความสุข…ก็เชิญเลยค่ะ เอาที่สบายใจ” กล่าวจบมะลิร้อยก็ทำตาโต เพราะเพิ่งฉุกคิดได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป พร้อมกันนั้นก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจดวงน้อยเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
เนื่องจากเคยโดนผู้เป็นป้าตบคว่ำในตอนที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียใหม่ๆ เพราะเผลอไปเถียงอีกฝ่ายเข้า มะลิร้อยจำได้ไม่เคยลืมว่าตอนนั้นตนกุมแก้มร้องไห้น้ำตานอง และนั่นก็พลอยทำให้หญิงสาวแทบจะไม่กล้าหือกล้าอือกับคนในครอบครัวพอรต์แมน รวมถึงไม่กล้าต่อปากต่อคำกับคนอื่นเท่าที่ควร เพราะเธอนึกขลาดกลัวพอๆ กับรู้สึกฝังใจว่าจะไม่ทำมันอีก ด้วยไม่อยากเจ็บตัว ไม่ว่าจากน้ำมือของใครก็ตาม จะมีบ้างก็แค่เวลาที่โดนพวกเด็กหัวโจกในหมู่บ้านรุมรังแกจนทนไม่ไหว เพราะยิ่งเธอไม่ตอบโต้ไอ้เด็กนรกพวกนั้นก็ยิ่งได้ใจ ฉะนั้นเธอจึงต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความกล้า แล้วกัดฟันสู้ยิบตา กับเด็กวัยไล่เลี่ยกันมะลิร้อยกล้าที่จะต่อกร
ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต
“นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง
“ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด