แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็โน้มตัวเข้าไปใกล้ ๆ รมิตา ลมหายใจของเขาเป่ารดที่ใบหน้าของหญิงสาว ริมฝีปากหนาประกบเข้าริมฝีปากบางของเธออย่างลืมตัว และนั่นทำให้หญิงสาวกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
ตุบ!
“ทะ ทำอะไรนะบอส จะปล้ำฉันหรือไง” หลังจากที่รมิตาผลักชัชนนท์จนเขาลงไปนอนกลิ้งบนพื้น พร้อมกับนำเสื้อกั๊กของเขามาปกปิดร่างกายเอาไว้
“ปล้ำ? ใครจะปล้ำคุณกันคุณตา ฝันไปหรือเปล่า” เขาเฉไฉก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้ง
“ฉะ ฉันไม่ได้ฝันนะ แล้วไอ้ริมฝีปากอุ่น ๆ ลมหายใจที่เป่ารดใส่ฉันมันคืออะไรบอส บอสแอบแต๊ะอั๋งฉันเหรอ” เธอว่าพลางนำมือมาแตะที่ริมฝีปาก เพราะเธอยังจับความรู้สึกแบบนั้นได้
“ใช่ ผมจูบคุณ แต่ไม่ได้คิดจะปล้ำคุณหรอกนะคุณตา ว่าแต่นี้ก็ดึกแล้ว รีบทานอาหารผมจะได้ขับรถไปส่งคุณที่คอนโด” เขาว่าพลางสาวเท้าไปยังห้องครัวที่อยู่ห่างไม่ไกล
แต่หญิงสาวกลับยังคงติดอยู่ในรสริมฝีปากของเขาที่แอบแต๋ะอั๋งเธอที่เผลอ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับร่างกายออกจากโซฟาตัวนั้น พลางสาวเท้าเดินตามหลังเขาไป
“นี่บอส ฉันบอกให้บอสไปส่งฉันที่คอนโดไม่ใช่หรือไง ทำไมพาฉันมาที่ห้องของบอส” รมิตาว่าพลางหย่อนก้นลงนั่ง ที่มีอาหารจัดเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว
“คุณตานอนหลับ จะให้ผมปลุกคุณขึ้นมาถามทางหรือไง เห็นคุณเหนื่อย ๆ ผมเลยไม่อยากรบกวน จึงพามาที่ห้องผมแทน” ชัชนนท์นั่งลงตรงข้ามรมิตา ซึ่งเธอกำลังตักอาหารเข้าปาก จนลืมคำพูดที่ตนเองพูดไปเมื่อสักครู่
หลังจากนั้นคนทั้งสองก็ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขาเองก็แอบอมยิ้มที่มุมปาก มองหญิงสาวตรงหน้าไม่หวงท่าทีของตนเองเลย เธอแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมากจริง ๆ ในสายตาของเขา
“ยิ้มอะไรบอส” รมิตาเหลือบสายตามองเขาที่เธอบังเอิญเห็นเขาที่แอบอมยิ้มแล้วมองเธอเหมือนเด็ก ในขณะที่เธอกำลังตักอาหารเข้าปากเป็นคำสุดท้าย
“ปะ เปล่า ๆ ผมแค่แปลกใจว่าผู้หญิงอย่างคุณตาทานอาหารเร็วมาก เหมือนกลัวผมจะแย้งคุณทาน” เขาว่าพลางตักอาหารเข้าปากด้วยเช่นกัน
“คนมันหิว เข้าใจมั้ยบอส อีกอย่างฉัน ไม่ชอบทำอะไรชักช้า มันไม่ทันกาล เวลาของฉันมันเป็นเงินเป็นทอง” รมิตากล่าวเสร็จ พร้อมกับเอื้อมแขนหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม จากที่ชัชนนท์เตรียมไว้ให้
“ผมก็หิวเหมือนกันนะครับ รอผมก่อนซิ คุณเป็นเลขาของผม จะมาทานอาหารเร็วกว่าเจ้านายได้ยังไง” เขาว่าพลางตักอาหารเข้าปาก สายตาสอดส่องไปที่ใบหน้าของเธอ
“นั่งทานไปเถอะค่ะ ปากบอสจะได้ไม่ว่าง เดี๋ยวฉันไปนั่งรอบอสที่โซฟา ผู้ชายอย่างบอสไม่น่าจะมาเป็นเจ้าคน นายคนได้เลย” ว่าแล้วเธอก็ลุกออกจากเก้าอี้ห้องครัวไปในทันที พร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายที่แหนบแหนมเขาไปเมื่อสักครู่
แต่ทว่าสายตาของชัชนนท์มองตามร่างบางของเธออย่างไม่วางสายตา พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก
“พี่ตานะพี่ตา ถ้ารู้ว่าปากดีขนาดนี้ น่าจะจับปล้ำซะให้เข็ด หึ ๆ” เสียงพึมพำของชัชนนท์มันส่งไปไม่ถึงเธอ ไม่อย่างนั้นเธอฉีกอกเขาเป็นแน่
“คอนโดของคุณตาอยู่ที่ไหนครับ” เขาก้าวขาเดินออกมาจากคอนโด ซึ่งกำลังเดินตามหลังเลขาของตนอย่างมาดมั่น
แต่ทว่าหญิงสาวกลับยืนหันซ้าย หันขวา อยู่ตรงหน้าคอนโดด้วยสีหน้ามึนงงฉงนแปลกใจ
“นี่มันคอนโดฉันนี่” หญิงสาวยืนเท้าเอวยืนมองป้ายไฟของคอนโดที่คุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี รวมไปถึงถนนหนทางในละแวกนี้อีกด้วย
“เหรอ ผมไม่ยักจะรู้ว่าคุณตาพักอยู่คอนโดเดียวกับผม” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่สายตาของเขามองเข้าไปที่ร่างกายอันบอบบางที่ยืนเท้าเอวเหมือนจะหาเรื่องเขาก็ไม่ปาน
“นี่บอส ฉันอยู่คอนโดนี้มาหลายปี แต่บอสเองนั่นแหละที่ย้ายเข้ามาอยู่หลังฉัน มีนัยแอบแฝงหรือไง” รมิตาหรี่สายตามองไปที่เจ้านายของตน แต่เขากลับเสหน้ามองไปทางอื่น ทว่าเธอไม่อยากเอาความ เพราะร่างกายของเธอต้องการพักผ่อน จึงสาวเท้าเข้าไปในตึกคอนโดอีกครั้ง
“นี่คุณตา ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณอยู่ที่นี่ แต่ผมยอมรับก็ได้ว่าผมเพิ่งจะย้ายเข้ามาอาศัยได้ไม่นาน และอีกอย่าง ผมก็ชอบบรรยากาศของที่นี่ก็เท่านั้นเอง” เขาสาวเท้าเดินตามเลขาของตน แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าบอสอย่างเขาคิดกำลังอะไรอยู่
“ให้จริงเถอะบอส ถ้าไม่จริงฉันนี่แหละ จะสาปแช่งบอสไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลยคอยดู” หญิงสาวว่าพลางสาวเท้าเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดออกพอดิบพอดี แต่ทว่าเธอกลับปิดประตูลิฟต์ทันทีเมื่อย่างกรายเข้ามา พลางแลบลิ้นให้กับชัชนนท์อีกด้วย
ส่วนเขาก็ได้แต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ รอยยิ้มที่กว้างโดยที่ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใดของเขามันผุดขึ้นมาอย่างตั้งใจ พลางใช้แขนทั้งสองข้างเท้าเอว สายตามองไปที่ตัวเลขที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าลิฟต์ว่าเธอขึ้นไปที่ชั้นไหน
“พี่ตานะพี่ตา จะได้รู้ว่ารอบนี้ผมบุกของจริง ถ้าพี่ได้รู้ว่าผมเป็นใคร พี่คงไม่เชื่อแน่ ๆ” เขาได้แต่พึมพำกับตนเอง
มือหนากดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องพักของตน พร้อมกับสายตาและรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ของเขา ซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่า เขากำลังคิดจะทำอะไรหลังจากนี้