ตอนที่ 11

999 Words
ลาริสา เธอช่างงดงามและเหมาะกับเขามากกว่าพริตตี้ต่ำต้อยอย่างเธอ หากทว่าหญิงสาวก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากนักเพราะตอนนี้เวลางานของเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ร่างเล็กรีบร้อนวิ่งไปยังลิฟท์และก้าวเข้าไปในข้างในซึ่งมีเธอเพียงลำพังแต่เมื่อประตูลิฟท์กำลังจะปิดมันกลับชะงักค้างเพราะถูกมือหนาแกร่งของใครคนหนึ่งดันไว้ ภิณไลย์ญาเงยหน้าขึ้นมองและต้องตกใจ “นิโคลัส!” หญิงสาวนิ่งงันเมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาและกดปุ่มให้ประตูลิฟท์ปิดลง เขาหันมายังร่างแน่งน้อยด้วยใบหน้าเครียดเข้มขณะมือข้างหนึ่งยันอยู่บนปุ่มลิฟท์เมื่อภิณไลย์ญากำลังจะเอื้อมมือไปกดมันพอดี “หลีกไปนะคะ...ฉันจะรีบไปทำงาน” “จะรีบไปไหน ในเมื่อคุณไม่ได้สังกัดเอเยนซี่ของใครอีกแล้ว” “แต่ฉันรับงานนี้แล้วต้องทำให้เสร็จลุล่วงค่ะ” “คุณทำงานให้ใครไม่ได้อีกแล้วเนเน่...ตอนนี้เจ้านายของคุณ...คือผมคนเดียว!” ภิณไลย์ญาถลึงตาใส่เขา “แต่ฉันเตรียมตัวแล้ว ฉันแต่งตัวและพร้อมจะออกไปทำงานตามคำสั่งของคุณยังไงล่ะคะ” “ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” นิโคลัสคำรามพร้อมกันนั้นเขากดปุ่มลงไปถึงชั้นใต้ดินซึ่งมันยิ่งทำให้พริตตี้สาวตกใจ “นิโคลัส...นี่คุณจะทำอะไร” “ตอนแรกผมคิดว่าจบงานจะเริ่มสัญญาที่ให้คุณชดใช้หนี้ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ต้องกลับไปที่งาน... คุณต้องไปกับผมเดี๋ยวนี้!” “นิโคลัส...อย่านะคะ!” ภิณไลย์ญาพยายามยื้อสุดเรงด้วยการดึงแขนเสื้อของเขาไว้แน่นและขืนตัวเองไม่ยอมให้เขาลากตัวออกไปจากลิฟท์เมื่อประตูเปิดออกที่ชั้นใต้ดิน แต่ก็ดูเหมือนความพยายามนั้นจะไร้ผลเพราะมือหนาหนักราวคีมเหล็กของนิโคลัสมีพลังมากเกินกว่าหญิงสาวจะต้านไหว เขาดึงข้อมือบางจนร่างเล็กเซตามออกไป ชายหนุ่มแสดงความหยาบร้ายเหมือนกำลังฉุดกระชากผู้หญิงตัวเล็กที่ไม่มีทางสู้ และเมื่อออกไปด้านนอกร่างสูงก็เหนี่ยวภิณไลย์ญาไว้ในอ้อมแขน ตรึงเธอไว้ด้วยกำลังที่มีมากกว่าแม้ว่าร่างอรชรจะพยายามขัดขืนแต่เธอก็ได้เพียงเข่นเขี้ยวใส่  “นิค...ไม่!...คนบ้า...ปล่อยฉันนะ!” “หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้เลยเนเน่” “คุณสั่งฉันไม่ได้” “เป็นลูกหนี้อย่าบังอาจมาขัดคำสั่งผม!” เสียงคำรามลั่นพร้อมกับที่เขาดันตัวเธอจนหลังชนผนังตึก นิโคลัสดันตัวเข้าหาและภิณไลย์ญามองข้ามไหล่กว้างเห็นชายร่างใหญ่สองคนยืนอยู่ที่รถสปอร์ตสีดำเป็นมันเงาห่างจากที่นั้นไม่ไกล เธอหอบหายใจขณะมือทั้งสองถูกตรึงไว้ด้วยมือหนาหนักจนแน่น เขากดข้อมือบางจนเจ็บร้าวขึ้นไปถึงหัวไหล่ หญิงสาวภาวนาให้มีใครสักคนผ่านมาหากก็ไม่เห็นเงาของใครนอกจาก คนของเขา นิโคลัสก้มหน้าลงไปจนปลายจมูกโด่งฝังลงบนแก้มซีด “ยังมีข้อตกลงระหว่างเราอีกหลายอย่างและอย่างแรกคือการที่คุณต้องทำตามคำสั่งของผม” “คุณทำเกินไปแล้ว...ทำเกินไปแล้วจริงๆ” “ไม่เลย” เขาคำรามลึกในลำคอและกดแนบริมฝีปากร้อนกับโหนกแก้มของภิณไลย์ญาที่ตอนนี้เมคอัพเลอะเลือนเพราะถูกเหงื่อกลบ ร่างน้อยสั่นเทิ้มนัยน์ตารื้นน้ำแดงก่ำ เธอได้ยินเสียงห้าวหัวเราะหยัน “นี่มันยังน้อยเกินไป ยังไม่คุ้มกับเงินของผมที่เสียไปตั้งสามล้านดอลล่าห์ คุณควรทำตัวให้สมกับราคาค่าตัวสักหน่อย” “คุณมองฉันเป็นอะไร เป็นสัตว์เลี้ยงราคาแพงที่คุณซื้อไปไว้ทรมานเล่นอย่างนั้นหรือนิโคลัส” “ก็เลือกเอา! อยากเป็นสัตว์เลี้ยงราคาแพงหรืออยากจะเป็นทาสที่รู้จักเจียมตัวกันล่ะ ถ้าไม่เลือกทั้งสองอย่างคุณก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตแต่ไร้จิตวิญญาณก็เท่านั้น” “แค่นี้ฉันก็เหมือนไม่ใช่คนแล้วนิโคลัส!” ภิณไลย์ญาออกแรงผลักร่างสูงออกห่าง ชายหนุ่มถอยหลังไปสองสามก้าว เขากระชับเสื้อสูทราคาแพงระยับและมองร่างบางตรงหน้าอย่างเหยียดแคลนแม้ว่าเธอกำลังหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บแค้น ปากบางสั่นระริก เธอไม่เคยเกลียดใครมากขนาดนี้หากก็ต้องยอมจำนนด้วยภาวะบีบคั้นเกินจะต้านไหว ถ้าหากพิทย์ไม่เจ็บเจียนตาย ถ้าหากเธอไม่เจอกับคริสต์ก็คงไม่ต้องมาพบกับผู้ชายเลือดเย็นและหยิ่งผยองอย่าง  นิโคลัส ซาเวีย เขาเลิกมุมปากขณะสันกรามนูนขึ้น “ผมคิดว่าคุณคงไม่โง่พอที่จะทิ้งโอกาสช่วยชีวิตน้องชายด้วยการปฏิเสธข้อเสนอของผมเพราะถึงยังไงคุณก็ต้องยอมก้มหน้ารับมันอยู่ดี!” ร่างสูงสง่าคว้าข้อมือบางไว้อีกครั้งก่อนกระชากร่างเล็กให้เดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตคันงามซึ่งมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่ยืนคุมอยู่ที่นั่น คนของเจ้าพ่อธุรกิจยานยนต์ทั้งสามขยับออกห่างราวกับรู้หน้าที่เมื่อนิโคลัสเข้าไปเปิดประตูและบังคับให้พริตตี้สาวเข้าไปนั่งในรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เธอนั่งเกร็งและกำหมัดแน่นกระทั่งชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก่อนบึ่งออกจากชั้นจอดรถใต้ดินด้วยความเร็ว ภิณไลย์ญานั่งนิ่ง เธอเม้มปากเข้าหากันแน่นสนิท หลายต่อหลายครั้งที่ได้ยินเสียงระบายลมหายใจของคนหลังพวงมาลัยซึ่งเหยียบคันเร่งจนตัวเลขบอกไมล์บนหน้าปัดดิจิทัลทะยานขึ้นสูงแม้อยู่บนถนนกลางกรุงที่การจราจรยังหนาแน่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD