กาลเวลาเปลี่ยนแปลงไปเข้าสู่ช่วงเข้าวัยสาว หนูพุดซ้อน ก็ยังคงมีรักเดียวและรักแรกอยู่เสมอและทุกๆปี หญิงสาวก็จะรอคุณอาของเธอมางานวันเกิดของเธอเสมอมา คำที่เธอเอ่ยออกมาตอนช่วงอายุ4ขวบ เธอย้ำเสมอว่าเธออยากเป็นเจ้าสาวของคุณอานั้นเธอพูดจริงๆนะ เธอจะทำให้เห็นว่าเธอนั้นจริงจังแค่ไหน เธอมักที่จะไปบ้านคุณป้ามณีหรือบ้านคุณแม่ของคุณอาค่อยไปเที่ยวเล่นคลายเหงาให้คุณป้า เธอมักจะค่อยสอบถามทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคุณอา ชอบอะไรไม่ชอบอะไร เธอยอมไปลงคอร์สทำอาหารไม่ก็ให้คุณป้ามณีสอน เธอยอมไปเรียนโทคอนโด ลงคอร์สการเป็นแม่ศรีเรือน ทั้งๆที่เธอยังอายุแค่8ขวบ เธอทั้ง เรียนไปด้วยลงคอร์สต่างๆที่เกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงที่ถูกอกถูกใจอย่างคุณอา แต่ถว่าคุณอานั่นไม่ได้คิดอะไรที่เกินเลยคำว่า อาหลาน ได้เลยเพราะว่าเขานั้นเป็นแค่รุ่นน้องที่คณะมหาลัยของรุ่นพี่เท่านั่น
ณ วันที่17 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดของคุณอาหนุ่ม
ณ ที่บ้านคุณป้า
พุดซ้อน : สวัสดีค่ะคุณป้า หนูมาช้าไปหรือป่าวคะ
คุณป้า : หวัดดีจ้ะหนูพุด ไม่ช้าไปหรอกลูกกินอะไรมาหรือยังหิวมั้ยลูกหื้ม.
พุดซ้อน : หนูยังไม่หิวเลยค่ะ ให้หนูช่วยงานอะไรมั้ยคะ เอ่อหนูทำเค้กมาให้คุณอาด้วยนะคะ
แต่ไม่รู้จะถูกใจคุณอามั้ยคะ555
คุณป้า : ไม่มีอะไรให้ทำหรอกลูก หนูทำอะไรมาตาวุฒิก็กินทุกอย่างละจ้า5555
พุดซ้อน : ถ้าอย่างงั้นก็ค่อยยังชั่วค่ะ555 แล้วเมื่อไหร่คุณอาจะมาหาคะ
คุณป้า : เดียวก็คงมาแล้วละจ้ะ ป้าพึ่งวางสายจากตาวุฒิไปเอง
พุดซ้อน : โอเคค่ะ
..... จนเวลาเลยผ่าน.....
17:50 นาที
ปรี้ด ปรี้ด ... เสียงรถยนต์ดังมาจอดรถอยู่หน้าบ้าน
อัครวุฒิ : แม่ครับผมมาถึงแล้วนะ
คุณป้า : อ้าวมาแล้วหรอ ช้ามากเลยนะตาวุฒิ
อัครวุฒิ : ขอโทษครับแม่ พอดีลูกค้ามีปัญญากับงานนิดหน่อย พอเสร็จออกมารถก็ดันมาติดอีก
คุณป้า : ไม่เป็นไรๆ มาถึงก็ดีแล้ว นู้น หนูพุดมานั่งรอแกตั้งนมนานแล้ว รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
พอคุณหญิงมณีพูดเสร็จก็ได้เดินไปหาพุดซ้อนละบอกกล่าวเกี่ยวกับอัครวุฒิ เธอนั้นได้หันมามองทางเขาก่อนจะพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับคุณป้าต่อ..
ส่วนอัครวุฒิก็ได้เดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ
งานวันเกิดของเขาก็ไม่ต้องอะไรมากมาย มีแต่คนสนิท อัครวุฒิไม่ชอบพื้นที่ที่คนเยอะๆ ซึ่งงานนั้นไม่ต้องจัดก็ได้ แต่ถว่ามีหลานตัวน้อยอยากจะจัดให้ เขาก็ได้แต่ยอมรับเพราะขัดคุณแม่ไม่ได้
ณที่โต๊ะกินข้าว
พุดซ้อน : สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณอา หนูขอให้คุณอามีความสุขมากๆนะคะ
อัครวุฒิ : อาขอบใจหนูมากๆนะสำหรับของขวัญกับเค้ก
พุดซ้อน : ไม่เป็นไรค่ะคุณอาหนูเต็มใจมากๆ555
คุณป้า : ป่าขอบใจหนูมากนะลูก มากินข้าวกินเค้กกันนะลูกนะ..
เวลาก็ได้ล่วงโรยไปหลังเลิกงานเลี้ยง...
คุณป้า : ตาวุฒิไปส่งน้องหน่อยไปนี่ก็ดึกมากแล้วมันอันตรายทางก็เปลี่ยว
อัครวุฒิ : เอ่อ...ก็ได้ครับ
คุณป้า : หนูพุดไว้มาหาป้าอีกนะ มีหนูแล้วป้าไม่เหงาเลยมีความสุขมาก ดีกว่าคนแถวนี้อีกบ้าแต่งาน
พุดซ้อน : 55555ได้สิคะคุณป้าเดี๋ยวหนูจะมาหาบ่อยๆนะคะ งั้นหนูไปก่อนนะคะคุณป้าสวัสดีค่ะ
อัครวุฒิ : เดี๋ยวผมไปส่งน้องก่อนนะครับแม่
คุณป้า : ค่อยๆขับนะลูกมันเด็กแล้วขับดีละ
อัครวุฒิ : ครับ...
พูดกับอัครวุฒิก็ได้เดินไปขึ้นรถกลับหนูพุดซ้อนแล้วขับออกไป....
ณ บนรถ
พุดซ้อน : เอ่อ..คุณอานี่เงียบจังเลยนะคะ
คุณอา : อาไม่รู้จะพูดอะไรน่ะ
พอคุณอาหนุ่มพูดจบบนรถก็มีแต่ความเงียบงันผ่านไปสักพักก็ได้ขับมาถึงบ้านของเธอ...
พุดซ้อน : คุณอาคะ ที่หนูเคยบอกว่าอยากเป็นเจ้าสาวของคุณอาหนูพูดจริงๆนะคะ หนูรักคุณอามาตั้งนานแล้วค่ะ
คุณอาหนุ่มนั้นได้แต่ฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรทำได้แค่ทำหน้านิ่งๆแล้วพยักหน้าขึ้นลงเบาๆก่อนที่จะพูดประโยคนึงขึ้นมา
คุณอา : ฝันดีนะครับ
พุดซ้อนได้แต่พยักหน้าแล้วหันหลังกลับพร้อมกับคราบน้ำตาที่คลอเบ้า...แล้วเดินกลับหันหลังเข้าบ้านแล้วขึ้นห้องนอนทันที ....
จนเวลาล่วงโรยผ่านมาเป็น 10 ปีทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยเกี่ยวกันอีก แต่หนูพุดก็ยังคงไปๆมาๆกับคุณป้ามณีอยู่เสมอๆ ส่วนคุณอานั้นก็ได้แต่หลบหน้า หายหน้าหายตาจนเธอมารู้ทีหลังว่า คุณอานั้นได้ไปอยู่คอนโดส่วนตัว นานๆทีจะกลับมาเยี่ยมคุณป้าเธอก็ได้แต่ทำใจนะยอมรับ แล้วก็ทำทุกอย่างที่เคยทำมาเหมือนเดิม....