ตอนที่6 องค์รัชทายาท1

1110 Words
พระราชวังหลวงของต้าหมิงนับได้ว่าใหญ่โตมากนัก มีตำหนักขององค์จักรพรรดิที่งดงามใหญ่โตกินพื้นที่กว้างขวาง ประกอบได้ด้วยตำหนักน้อยใหญ่และเรือนอีกมากมายล้อมรอบ ทว่าที่ห่างออกมาจากพระราชวังชั้นในส่วนพระองค์ก็ใหญ่โตและกว้างขวางไม่แพ้กันก็คือทิศบูรพาของพระราชวัง ภายในตำหนักบูรพา ลึกเข้าไปยังเรือนหลักของตำหนัก หมิงเสียงกง หนึ่งในสถานที่ส่วนพระองค์ของรัชทายาทหมิงเฉิง บนที่นั่งอันโออ่าลวดลายประณีตสีทองอร่าม มีเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำสนิทแผ่บารมีของผู้สูงศักดิ์ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาเพียงนั่งนิ่งๆ ไร้การเคลื่อนไหว ทว่าท่าทางทรงพลังน่าเกรงขามกลับแผ่กลิ่นอายสังหารเป็นวงกว้างอยู่รอบด้าน สร้างความหวาดหวั่นสั่นสะพรึงให้เหล่าบริวารเกินพรรณนา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยไรหนวดเขียวครึ้ม เสริมให้เกิดความดำทะมึนหนาวเหน็บปกคลุมไปทั่วบริเวณ ดวงตาเรียวดำลึกล้ำทอประกายเฉียบคมตลอดเวลา ยามมองกราดเพียงแวบเดียวก็แผ่รังสีชั่วร้ายออกมา บ่งบอกได้ถึงอันตรายไร้ขีดจำกัด ทำเอาบ่าวไพร่พากันขนลุกเสียวสันหลังวาบ หมิงเฉิงโบกมือเบาๆ เพื่อไล่ขันทีออกไปอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากฟังคำรายงานเกี่ยวกับการส่งอนุหลายนางเข้าวังมา ในยามที่เขามิได้อยู่ประจำตำหนักบูรพา อีกทั้งยังมีราชโองการแต่งชายาเอกในอีกสามเดือนข้างหน้า ชายหนุ่มได้ฟังก็ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์อันใดออกมาเลยแม้แต่น้อย สตรีที่ถูกส่งเข้ามาให้เขาล้วนแล้วแต่เป็นเบี้ยทางการเมือง หาได้มีค่าอันใดทั้งสิ้น ไม่ต่างอันใดจากตัวประกันเพื่อคุมเชิงมิให้หลายสกุลใหญ่กล้าเหิมเกริมก็เท่านั้น แค่มดปลวก จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไม่นับเป็นอะไร! เมื่อขันทีและเหล่านางกำนัลออกไปแล้ว พลันมีหญิงสาวงดงามผู้หนึ่งย่างกรายนวยนาดเข้ามาด้วยกิริยาแช่มช้อย นางสวมอาภรณ์บางพลิ้วชวนวาบหวามหวิวใจไม่เบา เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของรัชทายาทหนุ่ม แล้วยอบกายระหงลงต่ำเผยเนินเนื้ออวบอิ่มที่โผล่พ้นสาบเสื้อกว้างอย่างจงใจล่อลวง พลางเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ “หม่อมฉันเซียงเซียง พร้อมปรนนิบัติพระองค์เพคะ” เจ้าของร่างงามสง่าเพียงปรายหางตามองนางนิ่งๆ เซียงเซียงช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ดวงตาของนางหยาดเยิ้มชวนหลงใหล ริมฝีปากแต้มชาดบนใบหน้าราวเทพธิดาคลี่ยิ้มได้งดงามจับตาละมุนละไม นางกล่าวอย่างออดอ้อนอีกคราว่า “ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญเพคะ” จบคำก็ขยับกายหอมกรุ่นเดินอ้อมมาหยุดอยู่เบื้องหลังร่างแกร่งแล้วเอื้อมมือเรียวเสลานุ่มนิ่มราวไร้กระดูกขึ้นมาตรงไหล่กว้างที่มีเนื้อตึงแน่น แล้วนวดคลึงเบาๆ อย่างยั่วเย้ายวนใจ ริมฝีปากนิ่มชื้นก็กระซิบเสียงหวานเจือกระเส่าที่ข้างหูรัชทายาทหนุ่มว่า “ทรงถอดเสื้อออกดีหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะได้...อ๊ะ!” เอ่ยยังไม่ทันหมดประโยค ร่างอ้อนแอ้นก็ถูกวงแขนล่ำสันข้างหนึ่งโอบเอวบาง ฝ่ามือหนาอีกข้างก็จับกระชับตรงหน้าอกอวบตึงหยุ่นนุ่มล้นทะลักเอาไว้มั่น จากนั้นอาภรณ์บางเบาก็ถูกฉีกดังแควก เปิดเปลือยเนื้อนวลขาวเนียนจนสิ้น เซียงเซียงผุดรอยยิ้มสมใจแล้วกัดเม้มริมฝีปากทำตาปรือหมายยั่วยวนอย่างลึกซึ้ง ทว่าเสี้ยวเวลานั้น ร่างของนางกลับลอยละลิ่วเพราะแรงเหวี่ยงอย่างไร้ปรานีไปที่หน้าประตูห้อง กระทั่งบั้นท้ายงามงอนตกกระแทกพื้นเสียงดังตุบ กลิ้งขลุกขลักอีกสองตลบ หมดสภาพสาวงาม “กรี๊ด!” หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง ตกใจอย่างมาก ผิดคาดไปหมด ทันใดนั้น ทหารก็พุ่งพรวดเข้ามา “รัชทายาท!” “ลากนางออกไป!” หมิงเฉิงคำรามเสียงต่ำ สายตาคมดำสาดประกายคมกริบราวกับจะปลิดชีพผู้คนได้ “พ่ะย่ะค่ะ!” ทหารก้มหัวรับคำ แล้วรีบลากร่างเกือบเปลือยของเซียงเซียงไปในสภาพอนาถ ยากขายได้ต่อ “ไม่นะเพคะ ...ไม่!” เซียงเซียงดิ้นรนขัดขืนด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด “หม่อมฉันถูกส่งตัวมาจากขุนนางสกุลมู่นะเพคะ” ร่างสูงยืนตระหง่านไม่ไหวติง ดวงตาสงบนิ่ง หาได้สนใจ แน่นอนว่าสกุลมู่เป็นตระกูลใหญ่ แต่ตำหนักบูรพาก็มีสาวงามจากสกุลมู่แล้วหนึ่งคนมิใช่หรือไร? จักส่งมาเพื่อการใดอีก! ล่วงเข้ายามดึก... เปลวเพลิงบนเชิงเทียนหลายเล่มเริ่มมอดดับ ภายในห้องกว้างขวางที่เงียบสงัดจนวังเวง จึงมืดสลัวจนน่ากลัวเกินพรรณนา เรือนร่างใหญ่โตของหมิงเฉิงยังคงนั่งนิ่งคล้ายแท่นศิลาหินดำทะมึนไม่ไหวติง ฝ่ามือหนายกจอกเหล้าขึ้นมาเพื่อดื่มน้ำเมาเข้าปากอึกใหญ่ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะแล้วปัดออกห่างอย่างไร้เยื่อใยอีกต่อไป ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปยังทิศทางหนึ่ง ก่อนจะผ่านม่านลูกปัดมุกเข้าห้องอาบน้ำ ที่สร้างบ่อน้ำพุร้อนเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ มีควันกรุ่นร้อนลอยวนตลอดเวลา ที่หลังฉากกั้นลายพยัคฆ์ หมิงเฉิงถอดเสื้อคลุมออกไปให้พ้นตัว เผยสัดส่วนอันงดงามน่าเกรงขาม ไหล่หนา แขนล่ำ เส้นสายลายกล้ามแลดูเย้ายวนระคนน่ากลัว รูปร่างเช่นนี้พาให้สตรีใจเต้นระรัวรุนแรง ทั้งยังเต้นระส่ำระส่ายแทบทะลุอกออกมา นักต่อนัก ชายหนุ่มพาเรือนร่างสมส่วนชวนครั่นคร้ามไปหย่อนกายกำยำลงในสระน้ำอุ่น ยามอาบน้ำ หมิงเฉิงมิใคร่นิยมให้นางกำนัลมาปรนนิบัติรับใช้ หรือแม้แต่สาวงามคนใด อนุนางใดก็ไม่เคยได้ปรนนิบัติชิดใกล้ให้รำคาญใจในห้องแห่งนี้ หากเขาต้องการปลดปล่อยก็จะให้สิทธิ์พวกนางเพียงรองรับอารมณ์ยามกระสันบนเตียงนอกห้องเท่านั้น ทุกนางล้วนไร้ซึ่งพันธะหรือพันธนาการหัวใจ เสน่ห์หานางใดล้วนไม่อาจสะกดเขาให้ลืมตนจนปลดความระแวดระวังได้ โดยเฉพาะในยามนี้ ยามที่เป็นเวลาส่วนตัวที่สุดของเขา ให้เขาได้ทอดอารมณ์บางประการจนพอใจ สายตาคมดำของเขาเหลือบมองสิ่งของบางอย่างตรงแผงอกหนาแน่นอันเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากคมดาบและเขี้ยวหมาป่า สิ่งนั้นที่ห้อยคอแกร่งของเขามาเนิ่นนาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD