CHAPTER 8 ร่วมชายคา
พลั่ก!
ฉันออกแรงผลักคอปเตอร์สุดพลังวังชาก่อนจะมูฟตัวเองไปยืนติดกำแพงเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา คอปเตอร์ยืนอยู่ในท่าจับนมพลางมองฉันอย่างแปลกใจ ฮือๆๆ หมดกับความเป็นผู้หญิงของฉัน อยู่ดีไม่ว่าดีเรียกผู้ชายมาจับหน้าอกถึงห้อง แง้ๆๆๆ ถ้าแม่รู้เข้าฉันโดนฆ่าหมกส้วมแน่นอน TT^TT
“เอ่อ…มายฟา ไอ้ที่หน้าอกของนายนั่นมัน…มันเหมือน…”
“เล่นกล้ามน่ะ!”
ฉันตะโกนขัดออกไป จะให้หมอนี่พูดว่ามันเหมือนหน้าอกของผู้หญิงไม่ได้เด็ดขาด ต้องชักนำไปทางอีก ณ บัดนาววว TOT
“เล่นกล้ามเหรอ?”
“ใช่ พอดีฉันรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะตัวเล็กกว่าคนรุ่นเดียวกันไปสักหน่อย เลยคิดว่าถ้าลองเล่นกล้ามดูมันคงช่วยทำให้ฉันสมชายขึ้นมาบ้าง ฮะๆๆ ความคิดฉันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ”
“งั้นเหรอ แต่ฉันว่ามันไม่เหมือนกล้ามหน้าอกเลยนะ มันหยุ่นๆเหมือนกับ…”
“เอาเป็นว่าฉันขอตัวไปเก็บของก่อนละกันนะ! ตกลงว่าฉันจะไปอยู่กับนาย รอสักสิบห้านาทีก็พอ โอเค๊?!”
ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องด้วยความเร็วยิ่งกว่าลิง ฉันปิดประตูห้องลงกลอนเสร็จสรรพกันคอปเตอร์เปิดเข้ามา เกือบไปแล้วมั้ยล่ะไอ้ซอล เรื่องนี้ต้องโทษไอ้เงาดำนั่นคนเดียวเลย โผล่มาตอนไหนไม่โผล่ดันโผล่มาตอนอาบน้ำนอนแล้ว ฉันเลยลืมตัวว่ายังไม่ได้ใส่ผ้าพันหน้าอก ดีนะที่แถสดออกไปได้สตรอเบอรี่สุดๆ หวังว่าหมอนั่นคงจะเชื่อล่ะนะ TOT
แต่ว่า…หน้าอกของฉัน หมดกัน ป่นปี้หมดแล้ววว TT^TT
“เดี๋ยวนายเอากระเป๋าวางไว้ตรงนั้นได้เลยนะ แล้วก็ถ้าจะอาบน้ำอีกรอบห้องน้ำก็อยู่ตรงนั้น ตามสบายเลย ^^”
คอปเตอร์อธิบายทุกอย่างก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง อ๊ากกก กางเกงยีนส์ของเขาปิดบังรอยสักเอาไว้อีกแล้ว! ไอ้ครั้นจะเดินไปแง้มดูก็กระไรอยู่ หมอนี่ต้องคิดว่าฉันเป็นโรคจิตหรือไม่ก็เกิดอารมณ์อย่างจะจุ๊กกรู้กับเขาแน่ๆ ให้ตายสิ ทั้งที่มันอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย ฮึ่ย!!
ห้องของคอปเตอร์เป็นแบบห้องเดี่ยว เข้ามาก็เจอเตียงนอนเลย มีตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง พื้นที่ใช้สอยพอเพียงในการอยู่คนหรือสองคน เลยไปหน่อยก็เป็นห้องน้ำ มีระเบียงห้องพอให้นั่งเล่นและตากผ้าได้ อ่า…นี่ฉันมาอยู่ในห้องของผู้ชายสองคนแล้วจริงๆเหรอเนี่ย ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน อ๊ากก พี่ฟา ฉันขอโทษ T/T
“เอ่อ…มีหมอนกับผ้าห่มอีกมั้ย”
ฉันถาม หลังจากที่มองสำรวจไปรอบๆห้องแล้วพบว่ามีหมอนและผ้าห่มอยู่แค่อย่างละอันซึ่งก็คืออันที่คอปเตอร์กำลังใช้อยู่บนเตียง =__=;;
“ไม่มีหรอก นายต้องนอนกับฉันบนนี้”
“ว่าไงนะ!!!”
“อะไรเล่า ทุกทีเวลาไปโรงแรมก็นอนด้วยกันตลอดนี่นา ที่นี่ก็แค่เล็กกว่าโรงแรมไปหน่อยเท่านั้นเอง มามะ มาให้สามีกอดเร้ว ^^”
ไอ้พี่ฟา…แกอีกแล้วนะเฟ้ยย! เที่ยวไปทำเรื่องบ้าๆชวนให้เสียเนื้อเสียตัวกับหมอนี่เป็นประจำ แล้วคนที่ต้องมารับเคราะห์แทนตอนนี้เลยกลายเป็นฉัน! ฉันซึ่งเป็นผู้หญิงแท้ๆ TOT
“มะ…ไม่ดีมั้ง ฉันว่าฉันนอนข้างล่าง…”
“ฉันว่านายแปลกๆไปนะ ทุกทีเวลาฉันเรียกให้ขึ้นมา นายแทบจะเหาะมาทับตัวฉันเลยนี่นา”
ตุ้บ!
ฉันถลาลงบนเตียงไปนอนเคียงข้างคอปเตอร์ทันที ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี่ฟา แกทำให้ฉันต้องขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับผู้ชาย แต่ที่น่าเจ็บใจคือผู้ชายคนนี้เป็นว่าที่พี่เขยไม่ใช่ผู้ชายของฉัน TOT ถ้าเขาเป็นแฟนฉันฉันจะไม่เสียใจเลย
“หอมจังเลย ตัวมายฟาเนี่ย”
คอปเตอร์ดึงฉันให้ไปนอนหนุนแขนของตัวเอง ทำให้หน้าของฉันต้องซุกลงกับแผงอกของเขาไปโดยปริยาย ปลายจมูกของคอปเตอร์พรมจูบไปทั่วเส้นผม ทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นกันนะ ทำไมถึงรู้สึกว่าคอปเตอร์ตัวใหญ่ขึ้น ใหญ่จนสามารถโอบกอดฉันไว้ได้มิด และฉันจะปลอดภัยหากอยู่กับเขา
“หลับซะนะ วันนี้นายเจออะไรมาเยอะแล้ว”
มือหนาลูบที่หัวของฉันเบาๆ ฉันซุกหน้าลงกับแผงอกของคอปเตอร์มากขึ้น ค่อยๆหลับตาลง ความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาทำให้ฉันเข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยเร็ว
ตอนเช้าฉันต้องตื่นก่อนคอปเตอร์เพื่ออาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัวของตัวเองให้เสร็จก่อนที่เขาจะตื่น เพื่อป้องกันความลับจะรั่วไหล ต้องทนอุดอู้อยู่ในห้องน้ำตั้งนานสองนานกว่าจะผันหน้าอกเสร็จ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีล่ะนะ ตอนนี้เราสองคนกำลังโหนรถเมล์เพื่อไปโรงเรียนพร้อมกัน ความจริงฉันอยากจะนั่งแท็กซี่ไปเหมือนทุกทีมากกว่า แต่เพราะอะไรถึงได้มายืนโหนรถเมล์ไปลูกลิงแบบนี้แทนน่ะเหรอ หึ…
‘วันนี้เราจะโหนรถเมล์ไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนทุกทีใช่มั้ยมายฟา ^^’
ก็เพราะไอ้กิจวัตรประจำวันของไอ้พี่ฟากับคอปเตอร์ไงล่ะ! เพื่อให้การสวมรอยเป็นพี่ฟาเป็นไปอย่างสมจริงที่สุด ฉันจำต้องทำทุกอย่างให้เหมือนพี่ฟาในแบบเมื่อก่อน ไม่ว่าจะช่วยติดกระดุมเสื้อให้คอปเตอร์ เช็ดผมให้เขาตอนอาบน้ำเสร็จ หรือแม้แต่หอมแก้มกันออกจากบ้าน! นี่พี่ฟาอยู่กับฉันตลอดเวลาไม่เคยไปค้างที่ไหน แล้วแอบไปทำอะไรบ้าๆแบบนี้กับคอปเตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ T^T
ปึก!
“เฮ้ย! ตาบอดหรือไงวะ ที่ออกจะกว้างยังจะเดินมาชนฉันอีก!”
คอปเตอร์คว้าคอเสื้อนักเรียนชายกางเกงขาสั้นใส่แว่นติ๋มๆคนหนึ่งเข้าหา คนทั้งรถเมล์พากันถอยห่างและจ้องมาด้วยความหวาดกลัว
เวรกรรม วิญญาณหมาบ้าเข้าสิงแต่เช้าเลยเรอะ!
“ผะ…ผะ…ผะ…ผะ…ผะ…”
“ผะอะไรวะ! ติดอ่างหรือไง”
“คอปเตอร์ ไม่เอาน่า”
ฉันเข้าไปห้าม พยายามแกะมือคอปเตอร์ออกจากคอเสื้อเด็กคนนี้แต่ก็ไม่เป็นผล นี่เขาชนไหล่นายไปแค่นิดเดียวเองนะเฟ้ย ไม่ได้เดินขึ้นไปเหยียบบนหัว จะโกรธอะไรขนาดนี้เนี่ย!
“ว่ายังไงวะ! ฉันถามว่าไม่มีตาเหรอ!!!”
“คอปเตอร์! ทุกคนเขากลัวนายกันหมดแล้วนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“มายฟาอยู่เฉยๆ นี่มันเรื่องของฉันกับไอ้เวรนี่! ว่าไงวะ! ลูกตาสองข้างมันทำงานไม่ดีหรือไง ถ้างั้นฉันจะควักมันออกทำลายให้เองเอามั้ย!”
คอปเตอร์ยังไม่หยุดการกระทำอันอุกอาจของตัวเอง คนขับรถเมล์เป็นอันต้องจอดรถเพื่อเกิดเหตุสุดวิสัย ( เช่น หมอนี่ตบะแตกลงมือฆาตกรรมอีตาแว่นนี่ตายคารถเมล์ =__=;; ) ทุกคนบนรถเมล์เริ่มสงเสียงซุบซิบกันระงม
“พวกเด็กเหลือขอนี่เอง มาจากโรงเรียนโอนลี่กายสคูล ลูกฉันบอกมีแต่พวกเหลือเดนล่ะ”
“ใช่ๆ ฉันก็เคยได้ยิน พวกเด็กมีปัญหา ใช้แต่ความรุนแรงตัดสิน มีข่าวลือว่าเด็กโรงเรียนนี้ชอบปล้นแล้วก็รีดไถเงินชาวบ้านด้วย น่ากลัวจังเลยนะคะ”
“ผมล่ะขยะแขยง ไม่น่ามาขึ้นรถคันเดียวกับพวกมันเลย”
และอีกหลายเสียงวิจารณ์ในด้านแย่ๆ จริงอยู่ที่เด็กของโอนลี่กายสคูลเป็นพวกนิสัยไม่ดี ชอบยกพวกตีกันแล้วก็ใช้กำลังตัดสินปัญหาทุกอย่าง แต่พวกเรื่องที่ว่าเจ้าพวกนี้ไปปล้น ไปรีดไถคนอื่นเขา ฉันไม่อยากจะเชื่อ ถึงฉันจะเพิ่งมาเรียนที่โรงเรียนนี้ได้ไม่กี่วันก็เถอะ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ดูไม่ใช่คนที่จะไปปล้นไปรีดไถใครได้ แถมแต่ละคนก็ดูเป็นพวกคนมีตังค์ไม่ใช่น้อยเลยด้วย
“ถ้าพวกแกทุกคนไม่หุบปากเน่าๆนั่น ฉันจะเลาะฟันพวกแกให้หมดปาก ไม่เชื่อก็ลองดู!”
คอปเตอร์เบนสายตามาทางพวกผู้ใหญ่ ดวงตาของเขาดูเกรี้ยวกราด แต่ก็เจือจางไปด้วยความเศร้าบางอย่าง อะไรกันแววตาแบบนี้…
คอปเตอร์มีเรื่องอะไรในใจกันแน่?
“คอปเตอร์ ปล่อยเขาไปเถอะ ดะ…เดี๋ยวพวกเราจะไปเรียนสายนะ”
เป็นการหาข้ออ้างที่เริ่ดมากไอ้ซอล =_=*
“ฉันปล่อยมันไปไม่ได้หรอกมายฟา แก…ต้องไปกับฉัน”
สิ้นคำ คอปเตอร์ก็ฉุดกระชากลากถูอีตาแว่นติ๋มลงจากรถเมล์ไปอย่างไม่ปรานี ชื่อเสียที่สะสมอยู่มันยังมีไม่มากพอหรือไง ถึงได้ขยันหาเรื่องให้คนอื่นเขาหวาดกลัวตัวเองแบบนี้
“คอปเตอร์ ปล่อยเขาไปเถอะนะ คอปเตอร์!”
ฉันพยายามห้าม สุดท้ายก็ต้องรงจากรถเมล์กลางทาง ทันทีที่พวกฉันลงจากรถเมล์ คนขับก็ออกรถแล่นไปด้วยความเร็ว คอปเตอร์เหวี่ยงอีตาแว่นติ๋มลงพื้นอย่างแรง แถวนี้ไม่มีคนซะด้วยสิ ถ้าหมอนี่ถูกคอปเตอร์ซ้อมจนตายขึ้นมาฉันจะทำยังไงล่ะ T^T
“อยู่กันแค่นี้แล้ว แกเผยธาตุแท้ของแกมาดีกว่า แกเป็นใคร”
“หือ O_o”
ฉันมองไปที่คอปเตอร์และอีตาแว่นติ๋มอย่างงุนงง ขะ…เขาพูดอะไรของเขาน่ะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย!
“หึ! ดูออกด้วยเหรอว่าฉันไม่ใช่นักเรียน”
อีตาแว่นติ๋มแสยะยิ้ม ก่อนจะถอดแว่นติ๋มๆของตัวเองออก แววตาชั่วร้ายเผยให้เห็นอย่างเด่นชัด นะ…นี่มันอะไรกัน!
“แกต้องการอะไร ตามฉัน หรือว่าตามมายฟา”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของแก ที่ฉันมาวันนี้ ก็แค่มาจับตาดู…”
ไอ้แว่นติ๋มเบนสายตามาทางฉัน
“ความเคลื่อนไหวของใครบางคน”
“หมายความว่าแกตามมายฟา! แกตามมายฟาทำไม!”
คอปเตอร์ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่มัน แต่อีตาแว่น ( เคย ) ติ๋มกลับหยิบปืนออกจากด้านหลังของตัวเอง จ่อมาที่ใบหน้าของคอปเตอร์
“อยากให้สมองกระจุยก็เข้ามาเลย”
เล่นของแข็งเลยนี่หว่า ขี้โกงชะมัด T^T!
“วันนี้ฉันได้รับคำสั่งแค่ให้ตามดูพฤติกรรม แต่ถ้ายังไม่เลิกจุ้น สืบโน่นสืบนี่ไม่เข้าท่า คำสั่งต่อไปอาจจะเป็น…ฆ่าปิดปากก็ได้!”
สายตาของไอ้แว่นติ๋มยังคงส่งมาที่ฉัน นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ฉันก็แค่หาตัวคนที่ทำร้ายพี่ฟากับเจ้าของโค้ดเนมปาปาเท่านั้นเอง ทำไมต้องมาถูกตามล่าถูกปองร้ายราวกับฉันไปรู้ไปเห็นเรื่องที่ไม่ดีระดับชาติมางั้นแหละ!
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งไปสิวะ!”
คอปเตอร์ทำท่าจะวิ่งตาม แต่ไอ้แว่นติ๋มก็กระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาจอดเทียบหนีไปได้ซะก่อน แล้วนี่ตกลง…
ฉันกำลังถูกหมายหัวจากใครก็ไม่รู้จริงๆน่ะเหรอ TOT
ไม่ตลกเลยนะเฟ้ยยย!
คอปเตอร์โทรเรียกไซไฟให้ขึ้นไปเจอกันท่าห้องส่วนตัวของเขาบนดาดฟ้า ตอนนี้เราสามคนมานั่งสุมหัวกันเพื่อคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ที่คอปเตอร์ถูกลอบยิง ฉันถูกสะกดรอยและบุกขึ้นมาขู่ถึงบนห้อง รวมถึงเรื่องเมื่อเช้าด้วย ข้อสรุปที่ได้คือตอนนี้ชีวิตฉันและคอปเตอร์ตกอยู่ในอันตรายพอกัน แต่ยังฟันธงไม่ได้ทีเดียวว่าพวกที่ปองร้ายเราสองคนเป็นพวกเดียวกันหรือไม่
“ว่าแต่เมื่อเช้านายรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าหมอนั่นน่ะ…ไม่ใช่เด็กนักเรียนธรรมดาๆ”
ฉันถามคอปเตอร์ที่กำลังโซ้ยบะหมี่ถ้วยอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากได้ข้อสรุปเรื่องราวทั้งหมดแบบคร่าวๆ
“ก็ตอนที่มันขึ้นมาบนรถเมล์ ฉันเห็นข้างหลังเสื้อมันดูตุงๆเหมือนซ่อนปืนเอาไว้ พอลอบสังเกตก็เห็นมันมองมาที่นายบ่อยๆ ฉันเลยต้องหาเรื่องพามันลงจากรถเมล์ให้ได้ ถ้าเกิดถอดหน้ากากกันบนนั้น มันอาจจะใช้ปืนทำร้ายคนบนรถได้น่ะ”
ฉันระบายยิ้มบางๆ ที่แท้การกระทำทุกอย่างของเขาก็เป็นการทำเพื่อช่วยชีวิตคนบนรถเมล์ เขายอมที่จะถูกมองว่าเป็นเด็กไม่ดีก็เพื่อคนอื่น ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อล่ะนะ
“ยิ้มอะไรคะ ยิ้มแบบนี้เดี๋ยวก็โดนกินแทนบะหมี่หรอก ^^”
“เชิญกินบะหมี่ของนายต่อไปเถอะ =_=”
ฉันใช้มือดันหน้าคอปเตอร์ที่ยื่นเข้ามาให้ออกห่าง ถึงเนื้อแท้จะเป็นคนดีกว่าที่คิด แต่ไอ้ดีกรีความหื่นก็ยังทะลุล้านไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี -_-//
“ถ้างั้นตกลงตอนนี้ท่านคอปเตอร์กับฟาก็อยู่ด้วยกันแล้วใช่มั้ยครับ”
“ใช่แล้ว ต่อจากนี้ไปฉันกับมายฟาจะได้ดื่มน้ำผึ้งพระจันทรืกันทุกคืนนน”
“พะ…พูดบ้าๆ!”
“ผมว่าคืนเว้นคืนดีกว่ามั้งครับ เดี๋ยวจะไม่มีแรงมาโรงเรียนนะ ^^”
“ไซไฟ!”
“ฮ่าๆๆๆ”
แล้วอีตาสองหนุ่มก็พร้อมใจกันหัวเราะร่วนที่ได้แกล้งฉัน ส่วนฉันก็แอบเครียดอยู่คนเดียวในใจ ถ้าคืนนี้คอปเตอร์ขอดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ขึ้นมาฉันจะเอาน้ำผึ้งที่ไหนมาให้เขาดื่มล่ะ ขืนยอมให้ดื่มมีหวังได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นกันพอดี!
“ถ้าไม่หยุดหัวเราะฉันจะลงไปเรียนแล้วนะ =^=”
“โอเคๆ หยุดแล้วคร้าบคุณภรรยา ^^”
“ฉันว่ามาคุยเรื่องเดิมต่อดีกว่า ไอ้คลิปที่นายเอาไปให้คนแกะรอยน่ะ ได้เรื่องหรือยัง”
ฉันหันไปถามไซไฟ หมอนี่ยังแอบอมยิ้มขำไม่เลิก
“ก็…น่าจะอีกสองสามวันน่ะ มันต้องใช้เวลา”
“งั้นเหรอ…”
ฉันคาบส้อมคาไว้ในปาก เรื่องมันชักจะอินุงตุงนังมากขึ้นทุกที เพื่อให้เรื่องพวกนี้คลี่คลายโดยเร็วก่อนที่จะมีใครต้องเจ็บตัว ฉันต้องรีบหาเจ้าของโค้ดเนมปาปาให้เจอ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเขาคือฝ่ายดีหรือฝ่ายร้าย และถ้าเขาเป็นฝ่ายดี เขานี่แหละ…ที่จะช่วยฉันหาตัวคนที่ทำร้ายพี่ฟาจนเจอรวมถึงไขปริศนาเรื่องคนบ้าพวกนั้นที่มาตามล่าตัวฉันเหมือนฉันเป็นสัตว์ป่าแบบนี้!
ฉันแยกตัวออกมาจากคอปเตอร์ตอนพักเที่ยง หลังจากที่นั่งคิดตลอดที่เรียนช่วงเช้า ฉันก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะล้วงเอาโค้ดเนมของยูนิคอร์นก่อนเป็นคนแรก เขาดูนิ่มๆ น่าจะหลอกง่ายอยู่บ้าง ( คิดว่างั้นนะ -*- ) วันนี้ฉันเลยกะจะไปชวนเขาโดดเรียนช่วงบ่ายเพื่อหาทางอยู่กับเขาสองต่อสอง และช่วงนั้นแหละ…ที่ฉันจะหาทางดูโค้ดเนมของเขา!
“อ๊ะ! ยูนิคอร์น เจอพอดีเลย ฉันกำลังตามหานายอยู่”
ฉันวิ่งเข้าไปทักยูนิคอร์นที่กำลังเล่นบาสอยู่กับคิงที่สนามของฝั่งแดนใต้ ทำไมไม่รู้จักถอดเสื้อเล่นกันบ้างนะสองคนนี้ ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาแผนมาเปลื้องผ้าของพวกเขาให้มันหนักสมอง
“ฟา! นายเข้ามาในเขตของแดนใต้ทำไม”
ยูนิคอร์นวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาฉัน สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ( พี่ฟา T^T ) ก็ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือฉันจะได้เจอพ่อเสือมั้ยเล่า =__=;;
“ฉันมีธุระกับนายน่ะ”
“แล้วทำไมไม่โทรมาเรียกให้ฉันไปหา นายก็รู้ว่าแดนอื่นๆที่นอกเหนือจากเหนือคือที่ที่อันตรายสำหรับนาย แล้วนายก็ยังจะ…”
“พอๆๆ เอาเป็นว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร และฉันก็ยังมีบุญมากพอที่เหยียบเข้ามาในแดนใต้ไม่ถึงสามนาทีก็ได้เจอกับนายก่อนพวกนักเรียนของแดนนี้ เพราะงั้น…จบนะ”
ฉันตัดบท ต้องรีบหาทางออกจากโรงเรียนนี้ไปพร้อมกับยูนิคอร์นก่อนที่คอปเตอร์จะตามหาฉันแล้วลากตัวไปติดกับเขาประหนึ่งตังเม
“แล้วนายมีธุระอะไรกับฉันเหรอ…”
ยูนิคอร์นเอียงคอถามพลางกระพริบตาปริบๆมองฉันเหมือนเด็กน้อย ไอ้ท่าทางเหมือนสาวน้อยแอ๊บแบ๊วนี่ก็ไม่เลิกสักทีเนอะ จะแข่งสวยกับฉันเหรอยะ เดี๋ยวมีตบนะบอกก่อน -_-+
“ฉันอยากจะชวนนายไปเที่ยวน่ะ รู้สึกว่าเราสองคนจะไม่ได้เที่ยวกันนานแล้วนะ”
“งั้นเหรอ แต่ฉันว่าก็ไม่นานเท่าไหร่นะ ล่าสุดก็ก่อนวันที่นายจะหายไปไม่กี่วันเอง”
กรรม =_=+ นี่ไอ้พี่ฟามันแอบนนอกใจคอปเตอร์มาปันใจให้ยูนิคอร์นหรือเปล่าเนี่ย มีไปเที่ยวกันสองต่อสองด้วยเหรอ โถๆๆ พี่เขยผู้น่าสงสารของฉัน
“สำหรับฉันมันถือว่านานไง ฮะๆๆ”
จงแถต่ออย่าหยุด นี่คือคติของฉันเวลาอยู่ที่นี่!
“หรือว่า…ฟายอมเปิดใจให้ฉันแล้ว…”
“จะเรียกว่างั้นได้ ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่านะ ฉันอยากไปเที่ยวกับนายม้ากมาก มากจนใจจะขาดอยู่แล้ว”
“ดีใจจัง…”
เอาไว้ไปดีใจนอกโรงเรียนได้มั้ยฟะ! เกิดอีตาคอปเตอร์นึกเฮี้ยนอยากล่วงเกินพี่ฟาในร่างฉันขึ้นมาอีกมันจะแย่เอานะเว้ย อดไปล้วง( ความ )ลับตับแตกกันพอดี T^T
“ไปกันเถอะ นะๆ”
“โอเคๆ นายคอยดูแลที่นี่นะคิง ไม่ต้องตามไปหรอก”
“แต่ว่า…”
“ฉันโอเค…”
ยูนิคอร์นแตะไหล่คิงเบาๆ ดูท่าทางนายคิงอะไรนี่จะเป็นห่วงหัวหน้าของตัวเองเหลือเกิน รอก่อนเถอะย่ะ ถ้ายูนิคอร์นไม่ใช่เจ้าของโค้ดเนมปาปา นายเองก็จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ฉันจะต้องจับแก้ผ้าเพื่อหาโค้ดเนมของนายเหมือนกัน!