ตอนที่ 2

1023 Words
“วันนี้พี่เขาจะพาหนูไอไปหาลุงธงกับคุณป้าที่บ้าน เพื่อจะได้เป็นการดูตัวทั้งสองฝ่าย เพราะพี่เขาก็มาแนะนำตัวกับบ้านเราแล้ว หนูไอก็ต้องไปแนะนำตัวกับบ้านโน้นด้วย ตอนแรกป๊าว่าจะพาไปเอง แต่ตาธีร์เขาอาสามารับ ป๊าก็เลยว่า ดีเหมือนกัน ป๊าแก่แล้วขี้เกียจนั่งรถนานๆ เอาไว้เจอกันรวมญาติทีเดียวในงานแต่งเลยดีกว่า ฮ่าๆ” ไอรักนิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่าจะถูกจู่โจมรวดเร็วขนาดนี้ “แต่...แม่คะ” ไอรักพยายามหาตัวช่วย หากแต่มารดากลับนิ่งเงียบ เพราะถือว่าเมื่อเช้าได้อธิบายไปหมดทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของพ่อลูกจะต้องคุยกันเอง “ป๊าคะ” ไอรักกลืนน้ำลายลงคอ กำลังคิดว่าเหตุผลที่เธอคิดไว้ ที่จะมาใช้ปฏิเสธครั้งนี้จะรุนแรงไปหรือเปล่า เธอนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสิน ใจโพล่งออกมาว่า “ป๊าคะ แม่คะ หนูไอมีแฟนแล้วค่ะ” เสี่ยอินชะงักมือที่ถือช้อนข้าวต้มค้างไว้ แล้วมองหน้าบุตรสาวก่อนจะพูดว่า “ก็แค่แฟน มีแล้วก็เลิกได้ เอาเป็นว่าวันนี้กินข้าวเช้าเสร็จ หนูไอก็เดินทางไปกับพี่เขาเลยนะ” ไอรักอ้าปากเหวอ ไม่ได้เธอจะยอมไม่ได้ “แต่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วนะคะป๊า” ได้ผล! ทุกคนนิ่งเงียบ ไอรักยิ้มลิงโลดอยู่ในใจ คงไม่มีใครอยากได้เจ้าสาวที่เป็นของคนอื่นแล้วหรอกน่า “ไม่เป็นไรครับหนูไอ พี่ไม่ถือครับ” ผิดคาด! ชายหนุ่มที่นั่งเงียบฟังพ่อแม่ลูกถกเถียงกันมานาน พอได้เอ่ยปากพูดก็ทำเอาเธออึ้งไปเหมือนกัน “เอ่อ...” ไอรักหน้าเจื่อน หันมองบิดาและชายหนุ่มสลับกันไปมา อะไรกัน! แผนนี้ไม่ได้ผลหรือ “พี่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติครับ ไม่เป็นไรนะครับเราเริ่มต้นกันใหม่ได้...ป๊าครับ คุณแม่ครับ ผมอิ่มแล้ว หนูไอก็คงอิ่มแล้ว ผมขอตัวพาน้องออกเดินทางเลยนะครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้ลาเสี่ยอินและภรรยา แล้วก็ถือวิสาสะเดินอ้อมโต๊ะมากุมมือไอรัก คว้าตัวกึ่งโอบไปที่รถสปอร์ตคันหรูสีขาวที่จอดอยู่หน้าบ้าน ผู้ชายตัวโตสูงหกฟุตกว่าๆ กับผู้หญิงตัวเล็กสูงไม่ถึงบ่าของชายหนุ่มด้วยซ้ำ แรงเพียงน้อยนิดหรือจะขัดขืนแรงคนตัวโตกว่าได้ ไอรักอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่ไอรักจะถูกบังคับจับตัวให้ขึ้นไปนั่งบนรถ หญิงสาวขืนตัวไว้แล้วหันหน้ามามองชายหนุ่มพร้อมกับพูดเสียงดังว่า “นี่คุณ...คนเค้ามีสามีแล้วยังจะเอาไปเป็นเจ้าสาวอีกเหรอ ปล่อยนะไม่ไป” ยิ่งดิ้นรนยิ่งขัดขืน ก็ยิ่งถูกชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอรู้อยู่อย่างเดียวว่าต้องไม่ไปกับผู้ชายคนนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตเธอจะจบสิ้นความเป็นตัวของตัวเองโดยสิ้นเชิง ธีร์ภาณุกอดกระชับหญิงสาวจากด้านหลัง แล้วยกคนตัวเล็กขึ้นพาเดินตรงไปที่รถ เขาใช้มือข้างเดียวกอดไอรักไว้แน่น อีกมือหนึ่งกดรีโมทแล้วเปิดประตูรถด้านคนขับ เขาเหวี่ยงตัวหญิงสาวเบาๆ ไปวางที่เบาะอีกด้านหนึ่ง ก่อนจะรีบขึ้นนั่งประจำด้านคนขับแล้วล็อกประตูรถ ไอรักชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงล็อกรถ เธอหันขวับมามองชายหนุ่มด้วยสายตาเอาเรื่อง “นี่คุณเปิดประตูรถเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะทุบกระจกให้แตกเลย” “ถ้าหนูไอคิดว่ากระจกกันกระสุนที่สั่งทำพิเศษมันจะแตกง่ายๆ พี่คงไม่ต้องเสียเงินมากมายหรอกมั้ง” ไอรักหันมองหน้าชายหนุ่ม พูดไม่ออกได้แต่ทุบกระจกและร้องเอะอะโวยวาย “เปิดประตูรถสิ ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ บอกให้เปิดประตู” ธีร์ภาณุสตาร์ทรถ โดยไม่สนใจเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาว แล้วเหยียบคันเร่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เสี่ยอินกับภรรยา ชะเง้อมองตามจนรถออกจากประตูรั้วไป “เฮียคะ ปล่อยไปอย่างนี้จะดีหรือคะ ตาธีร์จะทำอะไรหนูไอหรือเปล่า แล้วนี่ลูกเราทำไมเป็นคนอย่างนี้ หนูไอไม่รักตัวเองเลย เรื่องที่หนูไอบอกเมื่อสักครู่ ทำร้ายจิตใจแม่กับป๊ามากแค่ไหน ลูกจะรู้ตัวบ้างไหม” เสี่ยอินไม่พูดอะไร แตะมือภรรยาเบาๆ แล้วพูดแบบมั่นใจว่า “ตาธีร์เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะดูแลหนูไอ เชื่อสิว่าเฮียเลือกคนไม่ผิดหรอก” เสี่ยอินเดินเข้าบ้านไปแล้ว ทิ้งให้ภรรยาถอนหายใจ และรู้สึกเป็นห่วงบุตรสาวของตนเหลือเกิน รถสปอร์ตคันหรูสีขาวแล่นด้วยความเร็วระดับหนึ่ง และเปิดเพลง ดังกระหึ่ม ภายในรถชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มสวมแว่นตากันแดดสีชา กำลังฮัมเพลงอย่างมีความสุขในขณะขับรถ ผิดกันกับหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งด้านข้างคนขับ ไอรักนั่งหน้ามุ่ยเชิดหน้าหันไปมองข้างทาง กำมือแน่นทั้งสองข้าง และในที่สุดเธอก็หมดความอดทน หญิงสาวเอื้อมมือไปปิดเสียงเพลงที่ดูจะกวนใจเธอเป็นที่สุด แต่ธีร์ภาณุก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายังคงตั้งใจขับรถต่อไปเรื่อยๆ ความเงียบทำให้ไอรักทนไม่ได้ “นี่คุณ เรามาจอดรถคุยกันดีๆได้ไหม” เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างๆ “นี่คุณ” “ผมมีชื่อ” “เอ่อ...คุณธีร์ภาณุ” “ไม่เอา เรียกพี่ธีร์สิ” “นี่คุณ เอ่อ...พี่ธีร์...พี่ธีร์คงรับไม่ได้หรอกที่ฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD