“แต่ม๊า..หนูยังไม่พร้อมค่ะ” ปานตะวันหันไปส่งสายตาเว้าวอนมารดา แต่สิ่งที่หญิงสาวพยายามสื่อมันกลับไม่ได้ผลแต่อย่างใด
“ไม่พร้อมวันนี้ ชาตินี้ม๊าคงไม่ได้อุ้มหลาน ไม่รู้แหล่ะม๊าตกลงกับคุณทิพวรรณไว้แล้ว พรุ่งนี้เราจะไปหาฤกษ์แต่งงานด้วยกัน” คุณปานเดือนบทจะเผด็จการขึ้นมาก็ทำให้ปานตะวันถึงกับปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว แล้วคราวนี้หญิงสาวจะทำยังไง เธอต้องรีบติดต่อเจ้าตัวต้นเหตุให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
“แล้วแต่ม๊าเลยค่ะ” ปานตะวันสุดที่จะยื้อ เธอต้องปล่อยพวกท่านไปก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ทีหลัง
“ดีมากเลยหนูปาน ในที่สุดม๊าก็จะมีลูกสาวกับเขาเสียที” คุณทิพวรรณกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนมาให้หญิงสาว
“ขอบคุณม๊าที่เมตตาหนูนะคะ ถ้าต่อไปหนูทำอะไรให้ม๊าต้องเสียใจ ม๊าอย่าโกรธหนูนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” ปานตะวันขอโทษผู้สูงวัยล่วงหน้า เพราะท่านเมตตาเธอเหลือเกิน เธอไม่อยากทำให้ท่านผิดหวังเพราะเธอโกหกท่านเรื่องนี้
“ม๊าไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นหรอกลูก” คุณทิพวรรณยังยิ้มให้หญิงสาว รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเมตตาอย่างที่หญิงสาวสามารถรับรู้ถึงมันได้
“พรุ่งนี้เราไปหาฤกษ์แต่งงานด้วยกันนะคะคุณทิพวรรณ” คุณปานเดือนกล่าวกับคุณทิพวรรณด้วยความสนิทชิดเชื้อที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้
“ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันมารับ งั้นวันนี้ดิฉันกลับก่อนนะคะ ม๊ากลับก่อนนะจ๊ะหนูปาน” คุณทิพวรรณกล่าวลา หญิงสาวจึงทำหน้าที่เดินไปส่งท่านที่หน้าบ้าน และเมื่อเดินกลับมาจากส่งคุณทิพวรรณแล้ว ปานตะวันจึงหันมาสนทนากับมารดาอีกรอบ
“ม๊า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของหนูนะ ทำไมม๊าตกลงง่ายๆ แบบนี้” ปานตะวันเอ่ยออกมาด้วยความเครียดอย่างที่สุด เธอหวังว่ามารดาจะเปลี่ยนใจไม่ยกเธอให้ทัพไท
“ไม่ได้ ครอบครัวเขามีเงินมีทอง แกแต่งกับเขาไปก็สบายไปทั้งชาติ ม๊าไม่อยากให้แกมานั่งทำงานงกๆ เหมือนม๊า ม๊าเลือกทางที่ดีที่สุดกับแกแล้ว แกจะกลับไปนอนที่คอนโดแกก็ไป ถ้าได้ฤกษ์แต่งงานแล้วเดี๋ยวม๊าโทรบอกอีกที” คุณปานเดือนกล่าวจบก็ไล่ปานตะวันทันที เพราะท่านไม่อยากตอบคำถามเรื่องนี้ โอกาสดีในชีวิตมีไม่มาก บุตรสาวของท่านควรจะคว้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้นปานตะวันก็ต้องทำงานจนแก่เหมือนกับคุณปานเดือน
“หนูทำงานหาเงินเองได้ ทำไมม๊าต้องคิดแบบนั้น” ปานตะวันอุทธรณ์อย่างหมดหวัง เธอไม่คิดว่ามารดาของเธอจะทำเช่นนี้
“เลิกถามได้แล้ว ที่ม๊าทำทั้งหมดก็เพราะความหวังดี ถ้าแกไม่แต่งก็ไม่ต้องมาเรียกม๊าว่าม๊า” คุณปานเดือนยื่นคำขาดกับปานตะวัน เมื่อได้ยินไม้นี้ของผู้เป็นมารดา ทำให้ปานตะวันต้องถอยหลังกลับออกมาด้วยความหนักใจ เธอควรจะทำอย่างไรดี ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ เธอคงต้องแต่งงานกับทัพไทจริงๆ
หญิงสาวเดินออกมาจากบ้านอย่างหมดอาลัยตายอยาก ทำไมเรื่องมันถึงกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้ แล้วคราวนี้จะแก้กันยังไง และสิ่งเดียวที่ปานตะวันนึกออกตอนนี้ก็คือการไปหาชายหนุ่มต้นเรื่องอย่างทัพไพ เผื่อว่าชายหนุ่มจะมีทางออกที่ดีสำหรับเธอและเขา
เรื่องมันมาไกลเกินกว่าที่ทั้งคู่จะสามารถกลับไปเป็นเช่นเดิมได้แล้ว และปานตะวันเชื่ออย่างหนึ่งว่าหากเธอไม่ยอมแต่งงาน มารดาคงจะตัดขาดความเป็นแม่ลูกอย่างที่ท่านได้บอกเธอไว้อย่างแน่นอน ซึ่งหญิงสาวจะยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด เธอต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้