“จะบ้าหรือเปล่า พูดมาได้ นี่ถ้าติดว่าฉันไม่ต้องรักษาสัญญากับคุณนะ ฉันจะเทเรื่องนี้ทันที”
“คุณไม่ทำแบบนั้นหรอกผมรู้”
“อย่ามารู้ดีกว่าตัวฉัน รีบไปส่งฉันเถอะ ฉันเหนื่อยอยากพักผ่อนแล้ว” ปานตะวันกล่าวพร้อมกับหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า นั่นเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้กับชายหนุ่มได้สำรวจใบหน้างามได้อย่างเต็มที่
รถยนต์หรูฝ่าการจราจรอันติดขัด กว่าจะมาส่งหญิงสาวที่คอนโดก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่ม เธอเหนื่อยมากสำหรับวันนี้ ชายหนุ่มก็ต้องชื่นชมหญิงสาวเหมือนกัน ที่ทำให้มารดาของเขารู้สึกมีความสุข เพราะท่านอยู่ที่บ้านด้วยความเงียบเหงามาตลอด จนกระทั่งวันนี้ชายหนุ่มพาหญิงสาวมาที่บ้าน มารดาของเขาจึงคลายความเหงาลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
หลังจากวันที่ปานตะวันไปพบกับมารดาของชายหนุ่ม หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหญิงสาวก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณปานเดือน มารดาของเธอ เรียกตัวปานตะวันกลับไปที่บ้านด่วน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าที่บ้านมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ จนกระทั่งหญิงสาวมาถึงที่บ้าน เธอก็ต้องตกใจเสียจนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะคนที่นั่งอยู่ในร้านขายของชำอันซอมซ่อของเธอนั่นคือคุณทิพวรรณมารดาของทัพไทนั่นเอง
“สวัสดีค่ะม๊า ม๊ามาที่นี่ได้ยังไงคะ” ปานตะวันเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ สีหน้าของหญิงสาวตอนนี้ซีดเผือดยิ่งกว่าเห็นผีก็ไม่ปาน
“ม๊ามาขอลูกสาวคุณปานเดือนกับคุณธงชัยน่ะสิจ๊ะ” คำตอบของคุณทิพวรรณทำให้ปานตะวันแทบล้มทั้งยืน มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเรื่องระหว่างเธอกับเขาเป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้นมา แล้วเธอจะกล้าอธิบายความจริงทั้งหมดต่อหน้าบิดามารดาได้อย่างไร
“เอ่อมันเร็วไปมั้ยคะม๊า ปานเพิ่งจะคบกันคุณทัพไม่นานเองนะคะ” ปานตะวันพยายามเลี่ยงที่จะบอกความจริง ตอนนี้เธออยากให้ตัวเจ้าปัญหามาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเธอเหลือเกิน เธอไม่อยากเผชิญสถานการณ์แบบนี้เพียงลำพัง
“ไม่เร็วไปหรอก บางคนดูตัวกันครั้งเดียวก็ตกลงแต่งงานกันแล้ว ว่ามั้ยคะคุณปานเดือน” คุณทิพวรรณเอ่ยเพื่อหาพวกพ้อง ซึ่งคุณปานเดือนก็พยักหน้ารับราวกับว่าทั้งสองสนิทสนมกันมานานแสนนาน
“ไม่นานไปหรอกลูก หนูอายุก็พอที่จะมีเหย้ามีเรือนได้แล้ว แถมได้แต่งกับครอบครัวคนจีนด้วยกันอีก อะไรมันจะเหมาะสมขนาดนี้” คุณปานเดือนเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม มันทำให้ปานตะวันเครียดเหลือเกิน ตอนนี้เธอแทบจะไม่มีทางออกจากเรื่องที่เกิดขึ้นเลย นี่มันอะไรกันหญิงสาวงงไปหมดแล้ว