ดนัทธ์คอตก และก็ยอมแพ้ในที่สุด
“พี่ยอมรับว่าพี่เสียใจมาก แต่พี่ก็มีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยิ้มและยินดีกับความสุขช่วงสั้นๆ ของน้องปราง”
“พี่นัท...”
“พี่จะรอจนกว่าน้องปรางจะเป็นอิสระ และเมื่อวันนั้นมาถึง พี่หวังว่าน้องปรางจะให้โอกาสพี่สักครั้ง”
เฌอปรางร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“พี่ขอตัวนะน้องปราง ลาก่อน”
“พี่นัท... พี่พูดเหมือนจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
ดนัทธ์ไม่ตอบหล่อน แต่เลือกที่จะเดินจากไปเงียบๆ
เฌอปรางมองตามร่างสูงโปร่งของดนัทธ์ไปทั้งน้ำตา หล่อนรู้ดีว่าหากเลือกใช้ชีวิตอยู่กับดนัทธ์หล่อนก็จะมีแต่ความสุข ไม่ต้องทนอยู่กับความทุกข์ใจเหมือนอยู่กับเคลวิน แต่หล่อนกลับรักผู้ชายคนนี้ไม่ได้
“พี่นัท... ปรางขอโทษค่ะ…
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าน้องปรางจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นคุณนายของไร่ชา”
แจ่มที่มาช่วยหล่อนเก็บข้าวของเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ ซึ่งจิตก็เอ่ยสนับสนุนเช่นกัน
“นั่นสิ ไม่รู้น้องปรางกับพ่อเลี้ยงไปสปาร์คกันตอนไหน”
เฌอปรางทำได้แค่ยิ้มบางๆ และก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของใส่กระเป๋าใบตรงหน้า
จิตกับแจ่มสบตากัน ก่อนที่จิตที่ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นจะขยับมานั่งใกล้ๆ กับเฌอปราง และถามขึ้นอีกครั้ง
“ถามจริงๆ เถอะน้องปราง มันใช่อย่างที่คนงานในไร่เล่าลือกันหรือเปล่า”
“เอ่อ... เล่าลืออะไรเหรอคะพี่จิต”
จิตวางมือบนท่อนแขนกลมกลึงที่ขาวสะอาดจนน่าอิจฉาของเฌอปราง
“ก็เขาว่ากันว่า ที่พ่อเลี้ยงขยับฐานะให้กับน้องปราง ก็เพราะว่าพ่อเลี้ยงต้องการประชดคนรักเก่าอย่างคุณณิชาน่ะ”
“เอ่อ...”
มันลำบากและทรมานมากที่จะต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ภายในไม่ให้ไหลทะลักออกมาเปื้อนสองแก้ม
“จริงไหมน้องปราง”
“นั่นสิ จริงหรือเปล่า”
“ไม่... ไม่น่าใช่หรอกค่ะ พ่อเลี้ยงคง... ไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
เฌอปรางต้องใช้ความพยายามมากมายที่จะบังคับน้ำเสียงให้ราบเรียบไม่สั่นเทา เมื่อโกหกคำโตออกไป
“นี่น้องปรางจะบอกว่าที่พ่อเลี้ยงทำแบบนี้ก็เพราะว่ารักน้องปรางอย่างนั้นเหรอ”
จิตคาดคั้นต่อ เพราะอยากรู้มาก และก็ต้องการจะเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังต่อด้วยนั่นเอง
“ปราง... ก็ไม่แน่ใจค่ะ คือปรางเป็นแค่เด็กในอุปการะของพ่อเลี้ยงเท่านั้น ปรางไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรหรอกค่ะ”
หล่อนพยายามตัดบท แต่ดูเหมือนจิตกับแจ่มจะไม่ยอมให้หล่อนได้หายใจหายคอง่ายๆ
“แต่ถ้าให้พี่สองคนเดานะ พ่อเลี้ยงไม่มีทางรักน้องปรางได้หรอก ที่ยกขึ้นเป็นเมียก็คงเพราะว่าต้องการเอาคืนคุณณิชาอย่างที่ทุกคนที่นี่ว่ากันนั่นแหละ พี่น่ะสงสารน้องปรางจังเลย ที่เป็นได้แค่ตัวแทนของคุณณิชาเท่านั้น”
ก่อนที่น้ำตาของเฌอปรางจะรินไหลออกมาอาบแก้ม เสียงกระด้างและทรงอำนาจของเคลวินก็ดังขึ้นที่ปากประตูห้องที่เปิดกว้างเอาไว้เสียก่อน
“แต่ฉันว่าคนที่น่าสงสารน่าจะเป็นพวกเธอมากกว่านะ จิต แจ่ม”
จิตกับแจ่มหน้าซีดเผือด เมื่อหันไปด้านหลังแล้วพบว่าเคลวินยืนตระหง่านอยู่ปากประตูห้องพักของเฌอปราง
“พ่อ... เลี้ยง”
“อยากตกงานกันใช่ไหม”
“ไม่... ไม่อยากค่ะพ่อเลี้ยง พวกเราสองคน... ไม่อยากตกงานค่ะ” จิตกับแจ่มประสานเสียงสั่นๆ ปฏิเสธออกไปพร้อมๆ กัน
เคลวินเดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะมาหยุดข้างๆ ร่างบอบบางของเฌอปราง และวางมือลงบ่าเล็กของเด็กสาว
“ที่ฉันยกย่องเฌอปรางขึ้นเป็นเมีย ก็เพราะว่าฉัน... รักเฌอปราง”
เฌอปรางสะท้านไปทั้งตัว หัวใจอ่อนไหว ก่อนจะก้มหน้าลงมองมือของตัวเองด้วยหัวใจที่เหี่ยวเฉาเพราะรู้ว่าคำพูดของเคลวินมันไม่ใช่ความจริง เขาคงแค่ต้องการแสดงฉากรักให้แนบเนียนที่สุดเท่านั้นแหละ
“และหากฉันได้ยินไอ้อีหน้าไหนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ฉันจะไล่มันออกไปจากไร่ ไปกระจายข่าวบอกทุกคนด้วย”
“ค่ะ... พ่อเลี้ยง”
จิตกับแจ่มก้มหน้าซีดเผือดลงมองพื้น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นกลัวจะตกงาน
“ขนของพวกนี้เอาไปไว้ที่ห้องฉัน”
เคลวินชี้ไปที่ข้าวของของเฌอปรางที่ถูกนำมาวางกองรวมกันเพื่อขนย้าย
“ค่ะ พ่อเลี้ยง”
จิตกับแจ่มรีบทำตามคำสั่งของเคลวินอย่างลนลาน และไม่ช้าสองคนจอมสอดรู้สอดเห็นก็หายวับออกไป ครั้นเมื่ออยู่กันตามลำพังสองคนภายในห้อง เคลวินก็ขยับออกห่าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเย็นชาจ้องมองมา
“ความจริงฉันไม่อยากจะพูดอะไรซ้ำซากนักหรอกนะ แต่มันจำเป็น”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการตำหนิของเคลวินทำให้เด็กสาวที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ต้องช้อนตาขึ้นมองด้วยความหวาดหวั่น
“ตอนนี้ทุกคนในไร่รู้กันหมดแล้วว่าฉันยกย่องเธอให้ขึ้นมาเป็นเมีย”
“เอ่อ... ค่ะ”
“แต่เธอก็ยังขัดคำสั่งของฉันด้วยการไปพลอดรักกับดนัทธ์”
“เอ่อ... ไม่ใช่อย่างที่พ่อเลี้ยงเข้าใจนะคะ” หล่อนเบิกตาโพลง ดวงหน้าขาวใสส่ายปฏิเสธเพราะเกรงว่าเขาจะเข้าใจผิดไปยกใหญ่
“เธอไม่ต้องกลัวฉันโมโหหรือว่าโกรธอะไรหรอก เพราะฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนอกจากไม่สบายใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
หล่อนควรดีใจใช่ไหมกับสิ่งที่ได้ยิน
“ก็อย่างที่เคยเตือน เรื่องความสัมพันธ์ของเราจะต้องแนบเนียนที่สุด ณิชาจะต้องเชื่อ แต่ก่อนที่จะทำให้ณิชาเชื่อ ทุกคนในไร่ต้องเชื่ออย่างสนิทใจเสียก่อน”
หล่อนทำได้แค่ตอบรับด้วยกันผงกศีรษะขึ้นลง กระบอกตาร้อนผ่าวจนต้องก้มหน้าหลบตา
“เอาเป็นว่าภายในหกเดือนต่อจากนี้ เธอกับดนัทธ์ห้ามอยู่กันตามลำพังอีก ทำได้ไหม”
“ค่ะ”
“โอเค ฉันได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ อ้อ แล้วก็อย่าไปสนใจคำพูดของคนในไร่ให้มากนักล่ะ สนใจแค่เงินเก้าล้านที่เธอกำลังจะได้เป็นเจ้าของมันก็พอ”
หล่อนไม่อาจจะห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลรินออกมาจากสองเบ้าตาได้อีกต่อไป แผ่นหลังบอบบางสะอื้นไหว แต่เคลวินไม่ได้ใส่ใจที่จะสังเกตเห็นมัน
“เดี๋ยวรีบย้ายของขึ้นไปเก็บที่ห้องของฉันนะ แล้วเย็นนี้เราจะต้องไปงานแต่งของณิชาด้วยกัน”
“เอ่อ... หนู... ต้องไปด้วยเหรอคะ”
หล่อนจำต้องช้อนตาขึ้นมองเขา สีหน้าของเคลวินเย็นชา ดวงตาของเขาเลือดเย็นไม่เปลี่ยนแปลง
“ฉันต้องพาเธอไปเปิดตัว”
“เอ่อ...”
“เดี๋ยวตอนบ่ายสองจะมีช่างแต่งหน้าช่างทำผมมาช่วยเนรมิตลุคใหม่ให้กับเธอ”
หล่อนนั่งนิ่งอึ้ง คาดไม่ถึงว่าเคลวินจะลงทุนทำถึงเพียงนี้ ความแค้นของเขายิ่งใหญ่เหลือเกิน
“แต่หลังจากที่เธอเก็บข้าวเก็บของเสร็จแล้ว จะมีคนของฉันที่จ้างมาโดยเฉพาะพาเธอไปขัดตัว”
“หนู... ขัดเองก็ได้ค่ะ”
เขาส่ายหน้าไปปฏิเสธ สายตาที่มองมาไร้ความรู้สึกจนสะท้อนไปทั้งหัวใจ
“ฉันต้องการให้เปลี่ยนกาอย่างเธอให้เป็นนางหงส์ ณิชาจะต้องกระอักเลือด”
“ค่ะ
ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้แย้งความต้องการของเคลวิน เพราะเขาได้ตัดสินใจทั้งหมดเอาไว้แล้ว
“โอเค ฉันมาแจ้งแค่นี้แหละ เธอก็รีบๆ เก็บของล่ะ”
“ค่ะ พ่อเลี้ยง”
แล้วคนตัวโตก็หมุนตัวเดินออกไปโดยไม่พูดคำใดออกมาอีก หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงใหญ่ผ่านม่านน้ำตาแห่งความเสียใจ กลีบปากอิ่มสั่นเทาเพราะแรงสะอื้น
แม้จะพยายามบอกตัวเองว่านี่คือการตอบแทนบุญคุณของเคลวิน แต่หัวใจไม่รักดีกลับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเสียทุกครั้งที่สบตากับสายตาเย็นชาคู่นั้น
ห้องนอนของเคลวินหรูหรา และกว้างใหญ่กว่าที่คาดคิดเอาไว้มาก ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น โดยแต่ละชิ้นคุมโทนด้วยสีเข้ม ซึ่งก็ไม่แปลกนัก เพราะมันเข้ากับบุคลิกของผู้ชายเย็นชาอย่างเคลวิน
กระเป๋าใบย่อมที่ภายในมีเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ ราคาถูกที่ซื้อหามาตามตลาดนัดวางลงกับพื้น ขณะดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ ห้องกว้างอย่างต้องการสำรวจตรวจตรา
ที่ริมหน้าต่างมีโซฟาสีเข้มตัวยาววางอยู่ ด้านหน้าเป็นโต๊ะกระจกเตี้ย ขณะที่ด้านซ้ายของหน้าต่าง ซึ่งห่างออกมาประมาณครึ่งเมตรมีประตูกระจก ซึ่งด้านนอกคือระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปนอกตัวบ้าน หล่อนก้าวออกไปยืนที่ริมระเบียง สายลมจากขุนเขาเบื้องหน้าพัดพาเอาความเย็นฉ่ำมาปะทะผิวสาว ด้านล่างต่ำลงไปคือสระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่พักผ่อนสุดโปรดของเคลวินนั่นเอง