ภายในรถนั้นชวนให้อึดอัด ปุยเมฆก็เงียบแทบไม่กล้าหายใจเสียงดัง แม้นว่าตนจะไม่เคยโดนพ่อดุ แต่หนูน้อยก็ไม่ชอบที่มารดาโดนดุบ่อย ๆ
“ทำอะไรให้เกียรติฉันด้วย ใครถามอะไรถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องตอบ”
“รับทราบค่ะ” ม่านมุกค้อมศีรษะลงเบา ๆ อย่างไรก็ตาม แม้นว่าตนจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าเมฆคินทร์นั้นเป็นเจ้านาย และเธอก็เป็นแค่คนรับใช้ในบ้านของเขาเท่านั้น
...งานเลี้ยงรับตำแหน่งของเมฆคินทร์จัดที่โรงแรมอัครวิเศษ โรงแรมหรูของเขาเอง เวลานี้แขกเหรื่อคงมาเต็มแล้ว รวมถึงบรรดานักข่าวที่คุณปู่ของเขาจงใจเชิญมาเพื่อประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า หลานชายนั้นจะบริหารโรงแรมหรูแห่งนี้ และโรงแรมอื่นในเครือ
ม่านมุกหายใจไม่ทั่วท้อง เธอไม่ชอบออกงานสังคมเลย แทบนับครั้งได้ที่เมฆคินทร์จะพาเธอไปด้วย แน่นอนว่าทุกครั้งที่ไปนั้นก็เป็นเพราะเธอถูกคุณปู่กษิดิศบังคับ หญิงสาวนั่งเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ แต่ก็ต้องทำเป็นเข้มแข็งเพื่อลูก และสง่างามเพื่อให้เกียรติคนเป็นสามี
ไม่นานรถยนต์คันหรูมูลค่ากว่ายี่สิบล้านก็จอดเทียบหน้าโรงแรมหรู ภายในอุโมงค์สำหรับลูกค้าระดับวีวีไอพี เมฆคินทร์ลงจากรถทันทีที่บานประตูถูกเปิดออก เช่นเดียวกับม่านมุกและลูกสาว ก่อนที่ผู้เป็นสามีจะเดินมารับเธอ หญิงสาวคล้องแขนเขาด้วยท่าทีสง่างาม ท่ามกลางเสียงแฟลชของบรรดานักข่าวที่กดชัตเตอร์รัว ๆ
...ปุยเมฆตกใจ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา เพราะมีมือของผู้เป็นแม่ที่กระชับแน่น ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเด็กน้อย
“คุณเมฆรู้สึกอย่างไรกับรักที่ผ่านอาถรรพ์เจ็ดปีมาได้คะ” มีไมค์สัมภาษณ์มาที่ริมฝีปากหนา หลายคนจับตาดูความรักครั้งนี้ของเขา ด้วยความที่ม่านมุกนั้นเหมือนกับเป็นเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า เป็นหนูตกถังข้าวสารที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉา
“ก็ดีครับ” ตอบเสียงเรียบ เขาก็ตอบรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง “เธอเป็นแม่ที่ดี เป็นภรรยาที่ดีครับ”
“โห ไม่แปลกเลยนะคะที่จะครองรักกันมานานขนาดนี้ แล้วคุณม่านมุกรู้สึกอย่างไรกับการเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของคุณเมฆคะ งานเยอะแล้วจะมีเวลาให้เหมือนเดิมไหมคะ”
“เอ่อ...” ม่านมุกอึกอัก เธอชำเลืองมองคนข้างกาย ก่อนที่เขาจะยื่นมือมากุมฝ่ามือของเธอ บีบแน่นให้หล่อนตอบดี ๆ
...ม่านมุกรวบรวมความกล้า ค่อย ๆ เอ่ยพูดขึ้น “ก็ไม่อะไรมากค่ะ เขาเป็นคนขยันทำงานอยู่แล้ว เชื่อว่าเขาจะทำได้ดี ส่วนเวลาให้เราสองคนแม่ลูก เขามีให้เสมอค่ะ”
“โห ถือเป็นคู่ที่น่าอิจฉามาก ๆ เลยนะคะ” เธอยิ้มตอบรับ ซึ่งคำตอบของเธอก็ทำให้คนข้างกายพึงพอใจมากเลยทีเดียว ทว่า
“แล้วคุณเมฆคิดยังไงกับข่าวลือที่บอกว่า ถ้าคุณกษิดิศจากไปแล้ว คุณจะหย่ากับคุณม่านมุก เพราะที่ผ่านมาก็แค่จัดฉากแต่งงานเอาใจคุณปู่เท่านั้น” คำถามของนักข่าวคนหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็แทรกขึ้นมานั้นทำให้ม่านมุกตกใจ เพราะเธอไม่เคยคิดว่านี่จะเป็นข่าวลือที่ออกมาจากบุคคลภายใน
“พูดอย่างนี้ก็ไม่ต่างจากแช่งคุณปู่ของผมนะครับ” ชายหนุ่มเฉไฉที่จะตอบตามความเป็นจริง ไม่รู้ว่าเรื่องนี้หลุดไปถึงหูนักข่าวได้อย่างไร เพราะคนที่รู้ก็มีแค่เพื่อนของเขา เด่นคุณและธนภพเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องจริงสินะคะ คุณเมฆเตรียมหย่ากับคุณม่านมุก...”
“ขอทางด้วยครับ” นักข่าวยังพูดไม่ทันจบ ฝ่ามือหนาก็แหวกฝูงนักข่าวทันทีเมื่อคำถามเริ่มไม่เข้าหู ซึ่งคำถามนี้หากเขาตอบด้วยความหนักแน่นมันก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ทว่าเขากลับไม่ตอบ
จริงสินะ...
ม่านมุกคิดในใจ หากวันนั้นมาถึง เขาก็คงหย่ากับเธอ ไม่รู้ว่าจะอยู่กับเธอกับลูกไปทำไม ก็ในเมื่อเขาไม่ได้รัก
ความจริงแสนเจ็บปวดนี้ทำให้ม่านมุกอยากหนีออกไปจากงานให้พ้น ๆ ทำไม ทำไมเขาถึงไม่เคยไยดีเธอเลย สงสารก็แต่ลูก...ที่จะต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าหากวันนั้นมาถึง
...ม่านมุกพาลูกหลบมุมหลังจากที่พบปะแขกคนสำคัญหลายคนไปแล้ว สามีของเธอนั้นยืนพูดคุยกับนักธุรกิจหลายคน ส่วนคุณปู่ที่มาเปิดงานนั้นกลับบ้านไปแล้ว ท่านมาแป๊บเดียวด้วยความที่อายุเยอะ ต้องกินยาและนอนให้ตรงเวลา
เจ้าของร่างบางนั่งเหม่อ ไม่ไกลจากหล่อนลูกสาวกำลังนั่งกินขนมเค้กเงียบ ๆ ส่วนเธอนั้นสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะเสียงการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ยังคงดังก้องกังวานในหู ม่านมุกรู้สึกจุกในอก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขามีความคิดนี้ในหัว แต่ก็อย่างว่า...เขาจะเก็บเธอกับลูกไว้ทำไม ก็ในเมื่อเขาไม่รัก พอคิดเช่นนี้แล้วรอบดวงตาก็ร้อนผ่าว เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานโรงแรมหรู อดกลั้นความเจ็บปวดในอกไว้ โดยไม่รู้ว่าถูกแอบมองจากคนที่อยู่ไกลออกไป
เด่นคุณมางานเลี้ยงของเพื่อนสนิทเช่นเดียวกับธนภพ เขาปลีกวิเวกด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบคลุกคลีคนเยอะ ๆ ต่างจากธนภพที่ถือโอกาสนี้ทำความรู้จักกับนักธุรกิจหมื่นล้านหลายคนที่มางานเลี้ยงของคนเป็นเพื่อน
ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาสงสารปนเสียดายในเวลาเดียวกัน เขาไม่คิดที่จะเข้าไปทักหรือพูดคุยแม้นว่าใจจะอยากทำแบบนั้นมากแค่ไหน ความรู้สึกในใจของเขาที่อยากบอกเธอถูกเก็บเงียบตั้งแต่วันที่รู้ว่าเธอจะต้องแต่งงานกับคนเป็นเพื่อน เป็นอีกหนึ่งวันที่เสียใจที่สุด กระนั้นก็ไม่รู้อยู่ดีว่าถ้าเกิดสารภาพรักไปแล้วเธอจะรับรักหรือไม่ เขารู้จักกับเธอตั้งแต่วันที่ไปบ้านของเพื่อนรักตั้งแต่เด็ก ๆ เธอเป็นลูกสาวคนใช้ที่บ้านของเมฆคินทร์ อาศัยอยู่ในเรือนคนงานในพื้นที่ของอัครวิเศษสกุล ชายหนุ่มเฝ้ามองเธอมาโดยตลอด แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว เพราะรู้...รู้ว่าเธอเองก็แอบรักเมฆคินทร์มาโดยตลอดเช่นกัน เด่นคุณยินดีที่เธอได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก ทว่าคนเป็นเพื่อนกลับไม่รักและทะนุถนอมเธอ เขาอยากรับเธอมาดูแลต่อ แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร...
“มองขนาดนี้ก็เข้าไปคุยเลยดิวะ” เด่นคุณสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงของธนภพทำลายสมาธิของเขา ชายหนุ่มหันไปมองก่อนที่คนเป็นเพื่อนจะวาดวงแขนขึ้นคล้องคอเขา
“เมาหรือไงวะ” เด่นคุณขยับออกจากวงแขนหนาของคนเป็นเพื่อน ซึ่งท่าทีของธนภพนั้นเหมือนกับคนเมา แถมเจ้าตัวยังถือแก้วไวน์อยู่ในมืออีกด้วย
“เมาเมออะไรวะ มึงก็รู้ว่ากูคอแข็งแค่ไหน ฮ่า ๆ”
“คอแข็งแค่ไหน แต่มึงดื่มไปเยอะเลยใช่ไหมล่ะ” ลิ้นม่วงขนาดนี้ เด่นคุณส่ายหน้าอย่างคนเอือมระอา ถ้าไม่ติดว่าพ่อแม่ของเขาเป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของธนภพ เด่นคุณจะเลิกคบคนนิสัยเสียแบบนี้ แน่นอนว่าเมฆคินทร์เองก็อยากเลิกคบกับธนภพเช่นกัน แต่ที่ยังฝืนคบต่อก็เพราะเขานี่แหละทำหน้าที่เป็นกาวประสานความสัมพันธ์ให้ จะเลิกคบไปเลยก็เกรงใจพ่อแม่ของคนเป็นเพื่อนที่สนิทกับพ่อแม่ของเขามาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยก็ว่าได้
“หึ ทำเป็นเบี่ยงประเด็น มึงอยากเข้าไปหาม่านมุกไหมล่ะ” ธนภพไม่หยุดเซ้าซี้เพื่อนเรื่องนี้ แดกดันให้เด่นคุณทะเลาะกับเมฆคินทร์
“ไม่ใช่ อย่าพูดมั่ว ๆ” เด่นคุณปฏิเสธ ไม่เหมาะสมที่จะทำตัวแบบนั้น ม่านมุกเป็นภรรยาของคนเป็นเพื่อน
“ฮ่า ๆ กูไม่บอกไอ้เมฆหรอกน่า” เขาไม่อยากให้ทั้งสองทะเลาะกันหรอก แค่เย้าแหย่ปั่นประสาทเอาสนุกแค่นั้น ถ้าเกิดสองคนนี้เลิกคบกัน เขาก็ต้องเลิกคบกับเมฆคินทร์ ไม่มีทางซะล่ะ...คนเป็นเพื่อนผลประโยชน์เยอะขนาดนี้
“หึ เลิกพูดซะทีเถอะ” ส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเอือมระอา ทว่าพอหันไปมองม่านมุกอีกที ก็ไม่เห็นเธอกับลูกเสียแล้ว เด่นคุณชะเง้อหา
“อ้าว หายไปแล้ววะ” ธนภพเองก็ไม่เจอ เด่นคุณตกใจมาก ยิ่งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เจอ ชายหนุ่มเป็นห่วงเพราะสีหน้าของเธอก่อนหน้านี้ก็ไม่สู้ดีนัก
...เขาไม่ลังเลที่จะเดินตามหาด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มเดินไปทั่วงาน ท่าทีของคนเป็นเพื่อนนั้นทำให้เมฆคินทร์ที่เผอิญมองเห็นมึนงง แต่พอจะเข้าไปถามไถ่ก็มีคนเข้ามาพูดคุยกับเขาอีก จนคนเป็นเพื่อนหายลับไปจากสายตา...