บทที่ 1 ปุยเมฆ

1784 Words
เช้าวันต่อมา... ร่องรอยความเจ็บปวดเมื่อคืนยังไม่จางหาย ยิ่งรอยเลือดตามเรียวขาก็ยิ่งยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น ม่านมุกรู้สึกเหมือนกับตัวเองฝันไป เป็นฝันร้ายที่แสนทรมาน เธอไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงอยู่บนเตียงนอน ภาพสุดท้ายที่เห็นตอนยังมีสติคือใบหน้าหื่น ๆ ของเขา เมื่อคืนเธอหมดสติไปอย่างนั้นหรือ “โอ๊ย~” เธอยกมือขึ้นกุมขมับขวา ความรู้สึกปวดหัวมันจี๊ดขึ้นสมองจนต้องเบ้หน้า ก่อนที่เธอจะเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงสายน้ำภายในห้องน้ำ เขากำลังอาบน้ำ ดวงตาแดงก่ำนั้นวูบไหว เธอกลัวว่าเขาจะออกมาแล้วทำร้ายเธออีก มือไม้ของเธอสั่นเทาด้วยความตระหนก แต่พอจะลุกหนีก็รู้สึกเจ็บเกินกว่าจะขยับร่างกาย แกร๊ก! พอเสียงบิดลูกบิดประตูดังขึ้น เธอก็เอนตัวลงข่มตาหลับทันที การขยับกายเพียงนิดของหล่อนไม่พ้นสายตาคมของคนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ เมฆคินทร์กดหัวคิ้วเล็กน้อย สงสัยว่าเธอแค่ขยับตัวแต่ยังไม่ตื่น เขาไม่อยากปลุกหล่อน หากเห็นแววตาของเธอคงต้องมีปากเสียง แล้ววันนี้ก็จะเป็นวันที่แย่ของเขาทั้งวัน ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดผมที่เปียกหมาด ๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก หยดน้ำเกาะพราวตามกายแกร่ง เมฆคินทร์มองดูตัวเองผ่านกระจกเงาด้วยความภูมิใจในมัดกล้ามที่ตนตั้งใจปลุกปั้นมันขึ้นมาในวัยสามสิบปี เขาเห็นความแตกต่างของตัวเองในแต่ละช่วงวัย หล่อขึ้น ดูดีขึ้นเป็นเท่าตัว กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ หน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อจัดเรียงเป็นลอนสวยงาม ไม่ง่ายเท่าไรนัก ไม่ง่ายที่จะกลับมารักตัวเองหลังจากชีวิตพังเพราะแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก กลายเป็นคุณพ่อในวัยเพียงยี่สิบสองปี เขาสูญเสียหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือแฟนสาวที่รักสุดหัวใจ ที่เธอต้องกลายเป็นอดีต ที่เขาฝากบาดแผลไว้ในใจของเธอ “เฮ้อ...” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบา ๆ นึกถึงทีไรหัวใจของเขาก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา พิมรภัส...ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง ครืดด ครืดด~ ไหล่หนาไหวเล็กน้อยเมื่ออยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คงเป็นเลขาฯ ของเขาที่โทรมา ชายหนุ่มเดินไปที่หัวเตียงนอน โทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนหัวเตียง ติ๊ด! เขาคว้ามากดรับ พร้อมกับยกขึ้นแนบหู ทว่าสายตากลับพินิจมองใบหน้าของภรรยาสาว ม่านมุกเองก็โตขึ้นมากจากแต่ก่อน เธอเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักเหมือนกับตุ๊กตา ผิวขาวตาโต ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ทว่าตอนนี้เธอหน้าตาไม่ค่อยน่าดูเท่าไร มีคราบน้ำตาแห้งเกรอะบนใบหน้า ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง [คุณเมฆได้ยินผมหรือเปล่าครับ] [คุณเมฆครับ!!] “ก็พูดมาสิ” เขาได้ยิน แต่ว่าสายตามันยังคงมองที่หน้าของม่านมุกอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเอาแต่มอง ทว่ายิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่าหล่อนนั้น แกล้งหลับ หน้าท้องของเธอพองขึ้นลงเร็ว เกินกว่าจะบอกว่าเธอนอนหลับสนิท มันไม่สม่ำเสมอเหมือนคนนอนหลับ [เช้านี้มีประชุมนะครับ] “โอเค” เขาตอบรับแล้วกดตัดสายทันที เพราะตอนนี้อยากที่จะทำโทษคนที่คิดว่าเขาโง่ ติ๊ด! “ม่านมุก...ฉันนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่ลุกขึ้น” เขาเว้นไว้เสียก่อน เพราะรู้ว่าม่านมุกไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของเขา พรึ่บ! ร่างบางยันตัวเองลุกขึ้นนั่งทันที ฝ่ามือน้อย ๆ ยกขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมออกมาบนกรอบหน้า เธอกลัวเขาที่สุด ทว่า หมับ! “อ๊ะ!​” ม่านมุกส่งเสียงร้องออกมาดังลั่นเมื่อฝ่ามือหน้ายื่นมาจับคางมนของเธอ เขาบีบแรงจนริมฝีปากบางนั้นยู่เข้าหากัน “เธอคิดว่าฉันโง่หรือไง!” ตะคอกเสียงดังลั่นด้วยความโกรธ เธอทำอะไรเพียงเล็กน้อยมันก็ไปสะกิดต่อมโกรธของเขาแล้ว เรื่องแค่นี้ก็ทำให้เขาไม่พอใจได้ “อื้อ~” ม่านมุกส่ายหน้า เธอยกมือน้อย ๆ ขึ้นมาจับฝ่ามือหนา พลางร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “แล้วแกล้งหลับทำไมฮะ!” “อึก อื้ออ~” เขาบีบคางเธอแน่นขนาดนี้แล้วจะให้เธอตอบเขาอย่างไรได้ ม่านมุกได้แต่ส่ายหน้าเป็นพัลวัน “หึ กลัวใช่ไหม นี่แหละสิ่งที่เธอต้องเจอ ให้มันสาสมกับการที่เธอทำชีวิตของฉันพัง” เมฆคินทร์แสยะยิ้มมุมปากอย่างคนสะใจ แปดปีแล้วที่เขาต้องติดอยู่กับพันธะนี้ สิ่งที่ม่านมุกทำมันเหมาะแล้วที่จะโดนเขาทรมาน ...ชายหนุ่มสะบัดฝ่ามือออกจากกรามเล็กของเธอ ทำให้ใบหน้ามนหันขวับทันที เธอเจ็บมาก ความรู้สึกนี้ไม่ต่างจากถูกตบแรง ๆ เสียด้วยซ้ำ “ฮือ~ ฉันไม่ได้ทำนะคะ” “_” “ฮึก ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน อึก ฉันก็ขอบอกคุณตรงนี้ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” เธอยืนกรานว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อแปดปีที่แล้วนั้น เธอไม่ได้เป็นคนทำ “หึ แล้วเธอคิดว่าฉันจะพิศวาสเธอ จนทำเธอท้องงั้นเหรอ” เขาส่ายหน้าอย่างคนดูแคลนสิ่งที่ม่านมุกคิด “ฮึก ฮือ~” พูดไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะเขาเลือกที่จะไม่เชื่อเธอ หญิงสาวชันเข่าขึ้นมาร้องไห้ ท่าทีของหล่อนนั้นทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาเป็นเท่าตัว “ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวก็ติดเชื้ออีกหรอก” ว่าแล้วก็ผลักไหล่ของเธอแรง ๆ คำพูดของเขานั้นทำให้ม่านมุกได้สติ เพราะตอนนี้ช่วงล่างของเธอนั้นได้รับบาดเจ็บ มีรอยแผลแน่ ๆ หญิงสาวรู้สึกแสบไม่น้อย หากไม่รีบทำความสะอาดอาจจะติดเชื้อได้ ...ม่านมุกลุกขึ้นยืนด้วยสภาพที่ไม่น่าดูเท่าไรนัก ร่างบางนั้นมีรอยแดงเถือกจากการสัมผัสแรง ๆ จากเขา ผู้เป็นสามี ด้านเมฆคินทร์...เขาแต่งตัวด้วยชุดทำงานที่เธอเป็นคนเตรียมให้ ร่างหนานั้นไม่หันมามองม่านมุกอีกเลย เขารีบแต่งตัวแล้วจะได้ออกจากบ้านที่ไม่ต่างจากขุมนรกนี้ ทว่าพอแต่งตัวเสร็จเปิดประตูออกไปกลับต้องตกใจให้กับร่างเล็กของลูกสาว “คุณพ่อ...” ชายหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อ เวลานี้ยังเช้ามาก ไม่คิดว่าเด็กน้อยจะตื่นเร็ว เขากะพริบเปลือกตาถี่ ๆ รัว ๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ “แม่อยู่ข้างใน” “คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หนูได้ยินเสียง” เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบนี้ไม่ได้เป็นผ้าขาวแล้ว เมฆคินทร์เองก็พยายามที่จะไม่ยุ่งเกี่ยว เขาไม่ได้เกลียดเด็กคนนี้ แต่เด็กคนนี้เป็นลูกของคนที่เขาเกลียด และเขาก็ไม่ได้อยากมีลูกด้วย “เปล่า” ชายหนุ่มว่าเสียงเรียบ เขากำลังจะออกไปแล้วแท้ ๆ แต่พอจะทิ้งไว้ก็คงไม่ได้ “ไปนอนต่อสิ” “หนู...” เด็กน้อยกลัวผู้เป็นพ่อ แม้นว่ามารดาจะให้เรียกพ่อ ทว่าปุยเมฆก็ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากผู้ชายตัวใหญ่คนนี้ “ทำไม” พอบิดาเอ่ยเสียงเข้ม หนูน้อยก็มีแววตาไหวหวั่น ก้มหน้าหลบสายตา กำมือเข้าหากันแน่น “ถ้างั้นก็ไปรอแม่ข้างในห้อง” ว่าพร้อมกับหลีกทางให้หนูน้อยเดินเข้าไปข้างใน แต่เพราะความรู้สึกกังวล รู้สึกเหมือนกับถูกกดดัน โดนดุผ่านสายตาทำให้ปุยเมฆค่อย ๆ เบ้หน้า “ฮึก ฮือ~” ร้องไห้ออกมาในที่สุด เด็กน้อยเดินเข้าไปในห้องของผู้เป็นพ่อพร้อมกับเสียงร้องไห้ฮือ ๆ แน่นอนว่าเมฆคินทร์นั้นถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองเพดานด้วยความหัวเสีย เขากำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ทว่า แกร๊ก~ บานประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ม่านมุกวิ่งตาลีตาเหลือกออกมาในสภาพมีผ้าขนหนูพันรอบอก “ปุยเมฆ!!” “คุณแม่ ฮึก ฮือ~” เสียงร้องไห้ของบุตรสาวดังหนักกว่าเดิม ทำให้ม่านมุกหันไปมองคนตัวโตทางด้านหลังของคนเป็นลูก “ฉันไม่ได้ทำอะไร” เขารีบพูดขึ้นมา เพราะตนไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ “ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าถ้าไม่รักหนูปุยเมฆ ก็ขอให้ใจดีกับแกหน่อย” “ฉันยังไม่ได้ทำไร!” เขาขึ้นเสียงมาเล็กน้อย แม้นจะไม่ได้รักไม่ได้อยากมีลูก แต่เขาก็เข้าใจว่าเด็กน้อยไม่ผิดอะไร “ไม่ได้ทำไรทำไมลูกร้องไห้คะ” ว่าแล้วก็เลื่อนสายตามามองคนเป็นลูกที่กำลังสะอื้นไห้อยู่ “ใครจะไปรู้ล่ะ” ว่าเสียงเข้ม ก่อนจะเดินหนีลงไปข้างล่างด้วยความหัวเสียสุด ๆ เขาไม่ได้ทำอะไร ไม่เคยต่อว่าลูกด้วยถ้อยคำรุนแรง แอบเอ็นดูความน่ารักห่าง ๆ เสียด้วยซ้ำ แต่เธอกลับคิดว่าเขาเลวขนาดทำร้ายลูกตัวเองได้ พอร่างหนาของผู้เป็นสามีเดินหายไป ม่านมุกก็สวมกอดลูกสาวเข้าแนบอกทันที “ไม่เป็นไรนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว” ลูบศีรษะเล็กของคนเป็นลูกป้อย ๆ อย่างคนปลอบประโลม หนูน้อยน่าสงสารมาก ยิ่งแววตาหวาดกลัวแบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสารเป็นเท่าตัว เสียงของลูกน้อยเบาลงแล้ว ม่านมุกค่อย ๆ ผละอ้อมกอดออก “เป็นอะไรหืม คุณพ่อทำอะไรหนูเหรอ” คนเป็นแม่ค่อย ๆ เช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าเล็ก หนูน้อยเพิ่งตื่นนอนผมเผ้ากระเซอะกระเซิง “ปะ เปล่าค่ะ” “หืม พ่อไม่ได้ทำอะไรหนูเหรอ” ม่านมุกตกใจ เธอคิดว่าเขาตีลูกไปแล้วเสียด้วยซ้ำ “อึก ปะ เปล่าค่ะ หนูกลัว” “อ้าว แม่ก็นึกว่าพ่อตี” ปุยเมฆส่ายหน้าเบา ๆ ผู้เป็นพ่อไม่เคยตี แทบจะไม่เคยสัมผัสตัวเธอเสียด้วยซ้ำ แต่แววตาของเขานั้นน่ากลัว เด็กน้อยรู้สึกตื่นตระหนกเลยร้องไห้ตามประสาเด็ก “โธ่ ลูกแม่” ม่านมุกลูบศีรษะของคนเป็นลูกเบา ๆ รู้สึกสงสารลูกที่กลัวพ่อตัวเอง แต่ก็เชื่อว่าสักวันเมฆคินทร์จะรักลูกของเธอ แม้นแต่ชื่อปุยเมฆเขาก็เป็นคนตั้งให้ ม่านมุกเชื่อว่าลึก ๆ แล้วผู้เป็นสามีก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ตนมีลูก แถมยังน่ารักมากขนาดนี้...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD