ตอนที่1 ภรรยามือใหม่
ไป๋ซือซือหญิงสาววัยละอ่อนอยู่ในเสื้อผ้าสีซีดที่มีรอยปะชุนอยู่สองสามแห่งของบริเวณแขนเสื้อ สีของชุดของนางนั้นก็ซีดจืดจางจนไม่เห็นเค้าสีเดิมของชุดว่าแต่ก่อนนั้นเคยมีสีอะไร หญิงสาวนั้นมีหุ่นที่ผอมบางสภาพผิวนั้นก็กร้านตามฉบับสาวบ้านป่า
ผมของนางนั้นก็ถูกมัดลวกๆ ด้วยเชือกหยาบๆ มือเล็กกำลังจับตะหลิวไม้ทำอาหารให้สามีหมาดๆ ของตนเองทานอย่างคล่องแคล่ว ถึงจะเจ็บหว่างขาขนาดไหนร่างบางก็สู้อดทนทำเพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มนั้นมีพื้นเพนิสัยอย่างไร เพราะตนเองก็เพิ่งแต่งงานมาได้เพียงคืนเดียวเท่านั้น
"ซือซือเจ้าไปอาบน้ำในบ้านเถิดข้าตักน้ำมาให้เจ้าจนเต็มถังแล้ววันนี้ข้าจะเข้าป่าเพื่อตัดไม้มาทำห้องอาบน้ำให้เจ้า" ถังซานเอ่ยพลางจ้องมองภรรยาสาวอย่างพิจารณาอย่างเงียบๆ
" เอ่อ ขอบคุณนะเจ้าคะท่านพี่ ท่านไปนั่งรอเถอะข้าจะยกอาหารไปที่โต๊ะแล้ว " ไป๋ซือซือรู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกดีมากๆ เช่นกันที่สามีนั่นใส่ใจเรื่องของนาง
"เดี๋ยวข้าช่วย" ถังซานเดินเข้าหาคนตัวเล็กและแย่งจานชามจากมือของหญิงสาว
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เรื่องพวกนี้เป็นหน้าที่ภรรยาอยู่แล้ว" ไป๋ซือซือกล่าว
"ข้าอยากช่วยปกติข้าก็ทำเองประจำอยู่แล้ว" ถังซานเอ่ยตามความคิดไยต้องมาแบ่งแยกชายหญิงด้วย
"ก็ได้เจ้าค่ะ" ไป๋ซือซือยิ้มตอบสามีที่เขาไม่ใจร้ายแถมยังจิตใจดีไม่ข่มเหงนาง เหมือนครอบครัวของนาง
ข้าวสวยร้อนๆ ถูกตักใส่ถ้วยไม้เก่าๆ ผัดผักใส่น้ำมันหมูร้อนๆ หอมๆ ยั่วน้ำลาย เนื้อหมูแห้งหลายชิ้นที่ชายหนุ่มล่าและตากแห้งไว้ทาน ก็ถูกนำมาทอดจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วกระท่อมหลังน้อยแห่งนี้ สองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันนั่งทานอาหารกันเงียบๆ ร่างบางคีบผักทานคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย ชายหนุ่มที่ปกติทานเนื้ออยู่ตลอดก็เอะใจ ทำไมภรรยาไม่ทานเนื้อเลยก่อนจะหวังดีคีบเนื้อชิ้นโตให้หญิงสาวในถ้วย
"กินเนื้อสิเยอะขนาดนี้ข้าทานคนเดียวไม่หมด"
"ข้ามะ..ไม่ชอบทานเนื้อ"
"ข้าบอกให้กินก็กินสิ"
"จะ..เจ้าค่ะ"
ไป๋ซือซือมองเนื้อตรงหน้าอย่างดีใจมือก็ค่อยๆ คีบเนื้อเข้าปากรสสัมผัสของเนื้อทำให้นางนั้นแอบยิ้มก่อนจะคีบข้าวคำใหญ่ๆ ตามไปชายหนุ่มมองภรรยาตรงหน้าอย่างสงสารก่อนตนเองจะคีบผัดผักจืดๆ คำใหญ่ๆ กินจนหมดถ้วยแทน
หญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็มองร่างหนาตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะมองหญิงสาวทำท่าทางน่ากลัวใส่ ซือซือไม่กล้าสบตานานก่อนจะรีบกินข้าวกับเนื้อทอดตรงหน้าทันที ด้วยความลืมตัวหญิงสาวที่ไม่เคยทานเนื้อมาหลายปี ใบหน้าของหญิงสาวจึงมีความสุขตลอดเวลาการทานข้าว ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็หมายมั่นในใจจะล่าเนื้อให้ภรรยากินทุกวันทั้งสามมื้อไม่ให้ขาด
"กินอิ่มแล้วหรือ"
"เจ้าค่ะท่านพี่"
"งั้นเจ้าไปอาบน้ำเถอะข้าจะเก็บถ้วยชามเอง"
"เอ่อ งั้นก็ได้เจ้าค่ะ"
ไป๋ซือซือลุกขึ้นจากโต๊ะอย่าง งงๆ ปกติเรื่องแบบนี้ต้องให้ภรรยาทำไม่ใช่เหรอ หรือที่ผ่านมานางได้รับความรู้มาผิดๆ กัน ซือซือไม่รอช้ารีบหยิบผ้าก่อนจะไปอาบน้ำในถังน้ำที่สามีตักมาให้ หญิงสาวอาบน้ำไม่นานก็เสร็จ ซือซืออยู่ในชุดสีเลือดหมูชุดที่ดีที่สุดของตนเองที่มีแล้ว ก่อนจะเดินไปหาสามีที่นั่งอยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้าน
"ท่านพี่"
"อืมมานั่งสิ"
หญิงสาวในชุดสีเลือดหมูเดินเอื่อยๆ ไปนั่งข้างๆ ผู้เป็นสามีก่อนที่เหม่อมองรอบๆ บริเวณกระท่อมหลังน้อยที่ทรุดโทรม ซือซือหวนคิดถึงวันวานที่ก่อนจะแต่งงานนางร้องไห้เอาเป็นเอาตายยังไงก็ไม่ยอมแต่งกับบุรุษที่ชื่อถังซานคนนี้ ชื่อเสียงของชายหนุ่มนั้นก็เป็นที่หวาดกลัวสำหรับสาวๆ ในหมู่บ้านเพราะใครๆ ก็พูดว่าชายหนุ่มนั้นร่างใหญ่โตแถมยังมีแผลเป็นอัปลักษณ์ตรงคิ้วอีก ทำให้นางนั้นไม่อยากจะแต่งเข้ามา แต่เสียงของตนเองไหนเลยจะดังพอ…แม่เลี้ยงของนางนั้นแลกนางกับหมูป่าตัวใหญ่เพื่อให้เป็นภรรยากับผู้ชายแซ่ถังคนนี้
'เตรียมเก็บข้าวของเจ้าแต่งให้บุรุษแซ่ถังซะ'
'ไม่นะท่านแม่ข้าไม่อยากแต่ง'
'ยังไงก็ต้องแต่งข้าแลกเจ้ากับหมูป่าไปแล้ว'
'ซือซือเจ้ามีสามีอัปลักษณ์หน้าผีท้ายหมู่บ้าน
'
'ไม่ ฮือๆ '
ร่างบางถอนหายใจทันทีที่หวนคิดถึงเรื่องก่อนๆ นางมองหน้าผู้เป็นสามีที่ใครว่าอัปลักษณ์นักหนา ก็แค่มีรอยแผลตรงคิ้วนิดเดียวไม่เห็นจะอัปลักษณ์ตรงไหน แค่ตัวโตไปสักหน่อยแต่เท่าที่ดูบุรุษตรงหน้าปฏิบัติตัวต่อนางก็ดีไม่น้อยไม่ได้ถูกโขกสับดังเช่นที่บ้านเดิมของตนเอง
"มองข้าแล้วถอนหายใจเสียงดังมีอะไรหรือ"
"เปล่าเจ้าค่ะ"
"ก็ดีเจ้าจะเข้าป่ากับข้าไหมหรืออยู่บ้าน"
"ไปกับท่านก็ดีเจ้าค่ะ" ซือซือมองรอบๆ บริเวณบ้านก็นึกกลัวเพราะที่นี่ห่างไกลจากผู้คน บ้านแต่ละหลังก็อยู่ห่างไกลกันมากไม่สู้เข้าป่าไปกับสามีดีกว่าอย่างน้อยๆ ก็ไปเก็บผักป่ามาทำกินเป็นมื้อเย็น
ถังซานและภรรยาเดินเคียงข้างกันเข้าป่าโดยมีร่างสูงเดินนำบนหลังของเขายังสะพายดาบและธนูไม้ ส่วนไป๋ซือซือร่างเล็กนางสะพายตะกร้าไม้ไผ่ด้านในยังมีน้ำดื่มและห่อข้าวไปทานตอนเที่ยงเล็กน้อย ทั้งสองเดินเข้าป่ากันอย่างไม่รีบร้อน ภายในป่าเงียบสงัดสองสามีภรรยาเดินไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เจอเข้ากับป่าไผ่ชายหนุ่มบอกหญิงสาวให้หาหน่อไม้รอตนเอง เพราะเขาจะตัดต้นไผ่เพื่อไปกั้นทำห้องอาบน้ำให้หญิงสาว
"เจ้าขุดหน่อไม้รอตรงนี้เถอะ เดี๋ยวพี่จะไปตัดต้นไผ่ทางด้านโน้น" ถังซานเอ่ยสั่งภรรยาสาว
"เจ้าค่ะท่านพี่"
"ระวังตัวด้วยล่ะ" เขากำชับนางอีกรอบอย่างเป็นห่วง
"ข้าจะระวังตัวไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ"
"อืม"
ร่างหนายกจากไปอีกฝั่งของป่าไผ่ ไป๋ซือซือวางตะกร้าลงก่อนจะหาที่เหมาะๆ วางของไว้ หน่อไม้อวบๆ ขึ้นเต็มบริเวณป่าไผ่แต่แปลกไม่มีผู้ใดนิยมมาเก็บของในป่าแห่งนี้ นางลงมือขุดหน่อไม้มาห้าหน่อ ก่อนจะยกมากองไว้ใกล้ๆ ตะกร้า นางมองหาที่นั่งเหมาะๆ ก่อนจะรีบนั่งลงกับพื้นแล้วปอกเปลือกหน่อไม้ให้เรียบร้อย แล้วตั้งใจไปขุดหน่อไม้อีกห้าหน่อไว้อีกครั้งแต่รอบนี้ไม่ได้ทำการปอกเปลือกเพราะนางจะเก็บไว้ทานวันอื่นๆ แทน
แค่หน่อไม้ไม่กี่ชิ้นก็เต็มครึ่งตะกร้าไม้ไผ่ของนางแล้ว ร่างบางยืนสำรวจมองรอบๆ ป่าเพื่อดูว่ามีผักป่าหรือไม่ ก่อนจะเจอเข้ากับผักกาดป่า ไป๋ซือซือไม่รอช้ารีบไปหักผักป่าต้นอวบๆ ทันทีด้วยความตื่นเต้นเสียงหักของลำต้นผักกาดป่าส่งเสียงดังดี นางหักมาแต่พอทานเท่านั้นพอได้จำนวนที่มากพอดีกับตนเองและสามีแล้วนางก็เลิกเก็บแล้วไปนั่งรอสามีที่เดิม
"ซือซือ" ถังซานเอ่ยเรียกภรรยาสาวที่นั่งอยู่เงียบๆ ข้างๆ ยังมีผักป่ามากมายกองอยู่
"เจ้าคะท่านพี่" ไป๋ซือซือหันไปตามเสียงเรียกของสามี
"นี่ข้าเจอผิงกั่วป่า (แอปเปิล) สี่ห้าลูกเก็บมาฝากเจ้า"เขายื่นผลไม้ให้นางด้วยความใจดี
"ขอบคุณมากเจ้าค่ะท่านพี่ พักดื่มน้ำก่อนนะเจ้าคะ" ไป๋ซือซือยิ้มตอบมือก็ยื่นกระบอกน้ำให้สามีอย่างเอาใจ
"ขอบใจกำลังกระหายพอดี"
"ผิงกั่วป่านี่ต้นมันเป็นยังไงหรือเจ้าคะ? ท่านพี่"
"ก็เหมือนต้นกลางหมู่บ้านแหละแค่มันเกิดเองในป่า"
"ข้าอยากเอาไปปลูกในบ้านของเราจังเจ้าค่ะ"
"เอาสิข้าเห็น…ต้นกล้าเล็กๆ อยู่หลายต้นพอดีเดี๋ยวจะพาเจ้าไปขุด"
เมื่อดื่มน้ำเสร็จ ร่างหนาของถังซานเดินนำร่างภรรยาไปตามทางเล็กๆ จนพ้นเขตป่าไผ่ไปเล็กน้อยรอบ ๆ บริเวณมีน้ำตกด้านล่างน้ำตกนั้นมีต้นผิงกั่วต้นใหญ่โตอยู่ข้างๆ แถมยังมีต้นกล้าเล็กๆ สองสามต้นประปราย ซือซือยิ้มตาหยีอย่างดีใจทันที
'ต่อไปก็มีผิงกั่วให้ทานเองไม่ต้องรอทานต่อจากคนอื่นแล้ว'
ปัก ปัก ปัก
ร่างใหญ่ลงมือขุดต้นกล้าผิงกั่วให้ภรรยาสาวของตนเองมาสามต้น ก่อนจะยื่นต้นไม้ให้หญิงสาว นางหยิบกล้าต้นไม้มาถืออยู่ข้างๆ ผู้เป็นสามี ก่อนสามีจะส่งสัญญาณให้เดินไปก่อน ร่างหนาแบกต้นไผ่ห้าต้นยาวๆ เดินตามร่างบางซือซือมองดูแล้วก็สงสารสามีนัก แต่ถ้าให้นางไปแบกเองก็คงไม่ไหว นางได้แต่รีบเดินให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงของสามี
"ไปหยิบตะกร้าเถอะ เราจะกลับบ้านกัน"
"เจ้าค่ะท่านพี่" ร่างหนาเห็นตะกร้าที่เต็มไปด้วยหน่อไม้และผักป่าแล้ว ก็สงสารภรรยา ตัวก็เล็กแค่นั้นแบบนี้ใครจะกล้าให้นางทำงานหนัก ก่อนจะดึงตะกร้ามือเดียวแล้วนำมาแขวนบ่าใส่หลังของตนเองทันทีโดยที่ภรรยาสาวไม่ต้องร้องขอ
"ท่านพี่ให้ข้ายกเถอะ"
"ยกต้นไม้ก็พอแล้วตัวเจ้าเล็กขนาดนี้ไปๆ รีบเดิน"
"ก็ได้เจ้าค่ะ"