ตอนที่ 4 เจ้าสาวของฮาคิม 3

1858 Words
โรงแรม Burj Al Arab ชั้นที่ 27 ณ.ร้านอาหาร ร่างงามอรชรอ้อนแอ้น ในชุดกระโปรงแซกเข้ารูปยาวห้าส่วน ตัวชุดออกแบบเป็นคอเต่า แขนยาวถึงระดับข้อศอก เอวบางรัดด้วยเข็มขัดเงินแท้ห้อยระย้าความยาวกำลังพอดีอย่างมีสไตล์ รับกับช่วงขาเรียวยาวซึ่งมีรองเท้าส้นสูงขนาด 5 นิ้วบวกกับความสูง 170 เซนติเมตรของเธอด้วยแล้ว ส่งผลให้โฉมงามโดดเด่นงามระหงดั่งเช่นนางพญามากยิ่งขึ้น ลีย่า ย้ายสถานที่พักส่วนตัวจากนครวาฮิรัม มาพำนักที่โรงแรม Burj Al Arab ในนครดูไบแทน เนื่องจากชื่นชอบสไตล์การออกแบบและตกแต่งห้องพักเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวโรงแรมทอดตัวยาวลงไปในอ่าว เห็นท้องทะเลได้ทั่วทุกมุม อีกทั้งยังตั้งอยู่บนเกาะที่ถูกถมขึ้นมาห่างจากชายฝั่งจูไมราบีชประมาณ 280 เมตร มีการเชื่อมต่อด้วยสะพานในลักษณะโค้ง Burj Al Arab มีลักษณะโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของนครดูไบโดยเฉพาะ โฉมสะคราญก้าวเท้ายาวๆ ออกมาจากลิฟต์ เดินตรงไปยังร้านอาหารที่ขึ้นชื่อได้ว่า อร่อยสุดยอดทุกเมนูและนั้นคือจุดหมายของหญิงสาว เธอมีงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นก็คือ เป็นนักชิมและยังเป็นนักกินระดับชั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เธอสามารถทานอาหารซึ่งเป็นขนาดพิเศษ ยกตัวอย่างเช่นรับประทานข้าวขนาด 5 กิโลจนหมดและสามารถทานต่อเนื่องได้จนถึง 10 กิโล อภิมหาโคตรกินจุไปแข่งขันราชินีกินจุได้อย่างแน่นอน หญิงสาวชื่นชอบการทานอาหารจากนานาประเทศอย่างยิ่งยวด เป็นนักชิมตัวยงและคลิปชิมอาหารของเธอที่แนะนำอาหารอร่อยอันลือชื่อจากบรรดาร้านอาหารต่างๆ ที่เธอเดินทางไปชิม ล้วนได้รับความนิยมจากผู้ชมที่ชื่นชมการทานอาหารอย่างมีสไตล์โดดเด่นของเธออย่างยิ่งยวด ลีย่า มีรายได้จากการรีวิวอาหารจากเจ้าของร้านเป็นกอบเป็นกำ ยิ่งกำลังจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายหนุ่มขวัญใจหญิงสาวทั่วโลกนี้ด้วยแล้ว แม่เจ้าประคุณเนื้อหอมสุดๆ คิวชิมอาหารแน่นขนัดถูกเชิญไปชิมอาหารต่อวันไม่ต่ำกว่า 3-4 ร้านเลยทีเดียว “ว...ว้าว! ร้านนี้บรรยากาศดีจังวุ้ย สงสัยจะเจริญอาหารเป็นพิเศษเลยเรา อิ่มจนท้องจะแตก กินให้ตัวแตกไปเลยลีย่า”หญิงสาวพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่ ท่ามกลางสายตาของผู้คนหลากหลายสัญชาติซึ่งเป็นทั้งนักท่องเที่ยวและชาวนครดูไบที่ชื่นชอบฝีมือและอาหารของเชฟที่นี่ ต่างมองหญิงสาวแสนสวยในชุดที่ทำให้ทุกคนต้องกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอเปรียบเช่นนางพญา “สวัสดีค่ะ”เสียงของผู้จัดการร้านอาหารกล่าวทักทาย ทำให้อาการหัวเราะคนเดียวของเธอหยุดลง “สวัสดีค่ะ ดิฉันแคทลียา อัศวเมธากุล มาตามคำเชิญของร้านเพื่อมาชิมอาหารตามที่ได้นัดเอาไว้ค่ะ”หญิงสาวบอกจุดประสงค์ในการมาของเธอ ผู้จัดการสาวขมวดคิ้วหนาเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินหญิงสาวตรงหน้าบอกกับเธอเช่นนั้น “ขอประทานโทษด้วยค่ะ ทางร้านไม่ได้เรียนเชิญนักชิมท่านใดมารับประทานอาหารเลยค่ะ คุณคงจะมีการเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง อีกทั้งร้านมีการการันตีจากเชื้อพระวงศ์จากนานาประเทศและบุคคลสำคัญจากทั่วทุกมุมโลก จึงไม่มีการเชิญนักชิมมารับประทานอาหารของเราฟรีๆ แต่อย่างใด” ผู้จัดการสาวบอกพร้อมใช้สายตาสำรวจหญิงสาวใบหน้าสวยตรงหน้าอย่างละเอียด “เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ก็มาจากแบรนด์ดังราคาทั้งตัวก็คงจะหลายแสน แต่ไม่มีเครื่องเพชรสักชิ้น แบบนี้คงเป็นแค่ลูกค้าเกรด D ชอบที่จะกินของฟรีอย่างนั้นเหรอ อย่าหวังเลยนะยะแม่หน้าสวย ไม่มีทางได้กินของฟรีร้านฉันหรอก ถ้าเธอจะกินจริงๆ แล้วละก็จะต้องมีเงินจ่ายหลักล้านเลยนะยะหล่อน”แม่ผู้จัดการสาวเอ่ยถ้อยคำดูถูกอยู่ภายในใจ ลีย่า เกิดอาหารหน้าตึงเปรี๊ยะขึ้นมาทันที เมื่อสายตาของแม่ผู้จัดการร้านอาหารดังกล่าว สำรวจการแต่งกายของเธอละเอียดยิบ แววตาดูถูกแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวรีบเปิดกระเป๋าหยิบสมุดจดบันทึกส่วนตัว เพื่อเปิดดูรายชื่อร้านและเบอร์โทรติดต่อ “ร้านอัลมุนตาฮา ก็เขียนไม่ผิดนี่หว่า อ้าว!...แล้วชื่อคนเชิญกับเบอร์โทรทำไมเราไม่เขียนลงด้วย หรือว่าจะมาผิดร้านจริงๆ แต่ไม่ใช่แน่นอนก็ชื่อร้านมันก็ร้านนี้ เขียนไม่ผิดแน่ๆ” หญิงสาวบ่นพึมพำ ก่อนจะสังเกตเห็นสายตาที่บ่งบอกว่ากำลังดูถูกหญิงสาวอยู่ในขณะนี้ ลีย่าเชิดใบหน้างามขึ้นสูงพร้อมเอ่ยขึ้นทันที “ฉันคงจะเข้าใจผิด คงเป็นเพราะว่าชื่อร้านอาหารของคุณคงจะโหลมีคนใช้เยอะก็เลยจำสับสนไปหน่อย” ถ้อยคำกล่าวของหญิงสาวเช่นนั้น ทำให้แม่ผู้จัดการร้านจอมดูถูกคน ตาลุกโพลงขึ้นมาทันทีเมื่อถูกตอบโต้กลับมาเช่นนั้น ก่อนจะได้ยินหญิงสาวหน้าสวยตรงหน้าเอ่ยสั่งการ “จัดโต๊ะที่ดีที่สุดให้ด้วยและเอาเมนูที่อร่อยที่สุดของร้านมาให้ฉัน เพราะว่าจะทานอาหารที่นี่” หญิงสาวกล่าวพร้อมมองหน้าผู้จัดการร้านตรงหน้าที่ยืนนิ่งงันไปทันที เมื่อได้ยินเธอบอกออกมาเช่นนั้น แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่ยอมแพ้งัดไม้เด็ดออกมาโดยพลัน “ก่อนที่เราจะจัดเตรียมโต๊ะที่ดีที่สุด ต้องเรียนให้ทราบว่าทางร้านรับบัตรเครดิตประเภทไม่จำกัดวงเงินเท่านั้นนะคะเพราะการจัดโต๊ะที่ดีที่สุดชุดใหญ่ของเรา ราคาโดยรวมแล้วก็หลักล้านแล้วค่ะ เฉพาะไวน์ที่เราจัดให้ลูกค้าเป็นไวน์ชั้นยอดเยี่ยมบ่มมานานเป็นร้อยปี ราคาแต่ละขวดก็ประมาณ 5 แสนเข้าไปแล้ว เกรงว่าคุณผู้หญิงจะต้องทบทวนงบประมาณในก*********นสำหรับการจัดโต๊ะชุดพิเศษ”ผู้จัดการร้านอาหารกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “อ๋อเหรอ!”หญิงสาวลากเสียงกวนประสาทตอบกลับไปพร้อมเอ่ยสำทับตามติดมา “ไปจัดโต๊ะตามที่ฉันต้องการ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายให้หรอกนะ”มือเรียวสวยเปิดกระเป๋าถือยี่ห้อดังก่อนจะหยิบบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินยื่นส่งให้ “บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินเอาไปเช็คดูก่อนก็ได้นะว่ามีวงเงินในบัตรมีมากมายแค่ไหน พอจะเหมาร้านของเธอหรือแม้กระทั่งซื้อร้านนี้ได้อีกกี่สาขา” คำกล่าวของลีย่า ทำให้แม่ผู้จัดการตัวดียืนนิ่งงันไปเลยทีเดียว ก่อนจะยื่นมือรับบัตรเครดิตตรงหน้า ทันใดนั้นเอง “ไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้นครับคุณผู้หญิง ทางร้านเชิญคุณมาทานอาหารที่ร้านของเรา แขกพิเศษทุกคนที่เราเชิญมาไม่ต้องจ่ายค่าอาหารใดๆ ทั้งสิ้น เชิญด้านนี้เลยครับ"เสียงใหญ่ของชายปริศนาเอ่ยแทรกขึ้นมาทันทีท่ามกลางความแปลกใจของแม่ผู้จัดการร้าน “นี่! พวกคุณเป็นใครไม่ทราบ ถึงได้กล้าเข้ามาก้าวก่ายการให้บริการของทางร้าน”เสียงแม่ผู้จัดการตัวดีเอ่ยถามกลับไปเสียงเขียว ดวงตาดำจ้องชายตรงหน้าสายตาเอาเรื่อง “คุณถูกไล่ออกนับตั้งแต่วินาทีนี้ฟาติมะ เชิญไปที่ห้องฝ่ายบุคคลทางบริษัทจะจ่ายเงินเดือนล่วงหน้าพร้อมค่าชดเชยให้กับคุณ ทำงานอยู่ที่นี่ไม่เคยล่วงรู้เลยอย่างนั้นเหรอ ว่าร้านที่คุณกำลังรับผิดชอบ อยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัทอาเชอร์ ไปซะ!คุณพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของเราแล้ว” สิ้นเสียงของชายคนดังกล่าว บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังตรงเข้าหิ้วปีกแม่ผู้จัดการร้านปากดีออกไปจากห้องอาหารอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวสิคะ! ฉันทำอะไรผิดถึงมาไล่ออกจากงานกันง่ายๆ แบบนี้...เดี๋ยวคุณ! เดี๋ยว!!!”เสียงของแม่ผู้จัดการร้านตะโกนโวยวายอย่างไม่ลดละ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น “โอโห่...นี่ถึงกับไล่ออกจากงานกันเลยอย่างนั้นเหรอ”หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ ดวงตาคู่สวยมองตามร่างของผู้จัดการร้านปากดีจนลับสายตา “ต้องขออภัยแทนพนักงานของเราด้วยนะครับคุณลีย่า เชิญห้องด้านในเลยครับ อาหารจากทางร้านเตรียมไว้ให้กับคุณเรียบร้อยแล้วครับ”หนุ่มปริศนาคนดังกล่าว พูดพร้อมผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวพร้อมก้าวเดินนำหน้าเธอ “เออ...ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันไม่ใช่คนเรื่องมากหรือเจ้ายศเจ้าอย่าง คงเป็นเพราะบุคลิกของดิฉันและการแต่งกายอาจจะไม่สอดคล้องกับร้านอาหารชื่อดังของคุณก็อาจเป็นได้ เธอคงเกรงว่าดิฉันจะไม่มีเงินชำระค่าอาหารด้วยกระมังคะ”หญิงสาวกล่าวพร้อม ก้มลงสำรวจการแต่งกายของตัวเองอย่างละเอียด “หามิได้หรอกครับ ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทางร้านต้องให้บริการอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนจะสามารถมีงบประมาณในการชำระค่าอาหารหรือไม่ ลูกค้าแต่ละท่านย่อมจัดเตรียมงบประมาณของตัวเองมาแล้วเป็นอย่างดีว่าจะต้องชำระเท่าไร หาไม่แล้วมีหรือที่ลูกค้าจะกล้าเข้ามาใช้บริการกับทางร้านได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ที่ผ่านมา มันเป็นลักษณะนิสัยเฉพาะตัวบุคคลของพนักงานที่นำมาใช้ในการให้บริการต่างหากละครับ” หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงด้วยความเข้าใจเมื่อหนุ่มใหญ่ตรงหน้ากล่าวออกมาเช่นนั้น “เชิญห้องด้านในเลยครับคุณลีย่า อาหารทุกอย่างได้จัดเตรียมรอให้คุณชิมเรียบร้อยนานแล้ว อย่าเสียเวลาอยู่เลยครับเดี๋ยวจะไม่อร่อย”หนุ่มใหญ่บอกกับเธอ ก่อนจะก้าวเดินนำหน้าเพื่อพาเธอไปที่ห้องซึ่งได้จัดเตรียมไว้ หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเขาบางๆ พร้อมก้าวเดินตามหลังไปติดๆ แต่ก็มิวายจับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นเพราะด้านหลังของเธอนั้น ยังมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถึงสองคนเดินตามหลังมาติดๆ อยู่ในเวลานี้ “ร้านอาหารที่นี่มีบอดี้การ์ดคอยตามติดลูกค้าด้วยอย่างนั้นเหรอหรือเจ้าชายจะส่งมา”หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ ก่อนจะตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อร่างระหงก้าวเข้ามาภายในห้องที่จัดเตรียมอาหารเลิศรสไว้ให้เธอลิ้มลองมากมายจนละลานตาไปหมด “โอโห่! ท้องแตกแค่ไหน ลีย่าก็สู้ตายพ่ะย่ะค่ะงานนี้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD