บทที่ 8 เสือหลอกเหยื่อ

1390 Words
“มึงแน่ใจเหรอ?” “อืม...กูสืบชัดเจนแล้ว ครั้งก่อนเป็นปูเป้นี่ล่ะที่เอาความลับของมึงไปบอกเจนนี่” น้ำเสียงกร้าวใจของมิกกี้ทำเอาแจ็คหัวเราะหึๆ “มึงดูโกรธมากเลยนะนี่?” “ไม่โกรธได้ไง? ทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าที่ผ่านมาปูเป้หลอกใช้กูน่ะสิ!” “มึงก็รู้ว่าปูเป้อาศัยสองพี่น้องนั่นทั้งเรื่องทำงานและเรื่องที่พัก บุญคุณที่เขาช่วยเหลือหากไม่ตอบแทนก็คงไม่เหมาะล่ะมั้ง?” “แล้วกูล่ะ ฮะเฮีย! นี่เขาไม่สนใจความรู้สึกของกูบ้างเลยเรอะ?” “น่า! ก็ไม่ได้เสียหายมากมายสักหน่อย” “ไม่เสียหาย! เขาทำเลียนแบบมึงแทบจะทุกอย่างเลยนะ มึงไม่โกรธบ้างหรือไง?” แจ็คหัวเราะหึๆ “มึงก็รู้ว่ากูโกรธจนหัวหมุนไม่รู้กี่รอบ แล้วกูทำอะไรได้? พอจะเรียกมาตกลงซึ่งหน้าก็หลบหนีทุกที” “กูรู้ว่ามึงเจ็บใจ ตอนนี้กูเองก็เหมือนกัน แสบนัก! ปูเป้...แอบดูรหัสปลดล็อคในมือถือของกู ตอนนี้ยังกล้ามารับงานกับมึงอีก” แจ็คหัวเราะเบาๆ “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก ก็อย่างที่มึงบอกนั่นล่ะ ยุคโซเชียลยากจะปกปิดความลับไว้ได้ กูก็แค่โวยวายไปงั้น แต่ลึกๆ ก็ดีใจที่เขาอยากจะเลียนแบบกู” “มึงกับเจนนี่ยังไงว่ะ? จะอยู่เป็นศัตรูกันแบบนี้อีกนานไหม?” “สองปีแล้ว! มันควรจะถึงเวลาที่ถูกต้องจัดการเจนนี่จริงจังซะที” มิกกี้ขบเขี้ยเคี้ยวฟัน “ได้! กูจัดให้!” ปูเป้ยิ้มแหยๆ เมื่อแพมมี่ผลักให้เธอเดินเข้าไปในคอนโดสุดหรูสถานที่นัดหมายจัดเลี้ยงของไฮโซ “ชั้นบนสุดเลยเหรอ?” ปูเป้ที่เข้าไปเห็นแค่ส่วนล่างก็ถึงกับอ้าปากค้าง ที่นี่จัดแต่งหรูหรางดงามสมกับที่เป็นคอนโดมิเนียมของเหล่ามหาเศรษฐี “อืม....เพ้นท์เฮ้าส์ที่นี่ได้ข่าวว่าแพงมาก” แพมมี่ยิ้มน้อยๆ ครอบครัวเธอก็ได้รับการเสนอขายห้องชุดที่นี่เช่นกัน เพียงแต่เจ๊เจนเห็นว่าไม่จำเป็นเพราะที่เดิมก็มีอยู่หลายห้องแล้ว ดีที่ไม่ได้ซื้อเพิ่มเพราะเศรษฐกิจในช่วงปีหลังๆ ตกต่ำซ้ำยังมีโรคระบาดเข้ามาอีก คนที่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าอาศัยล้วนได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า ในใจของหญิงสาวพยายามสวดภาวนาให้คืนนี้ไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ลางสังหรณ์ที่นานๆ เกิดครั้งราวกับจะเตือนว่าเธอไม่ควรจะเหยียบย่างมาคอนโดมิเนียมสุดหรูแห่งนี้…จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัวโดยไม่มีสาเหตุ! “แพมมี่ พวกเรากลับกันเถอะ? ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย” “มาจนถึงแล้วปอดแหกหรา? เอาน่า! เรารับงานเดียว คราวหน้าไม่มีอีกแล้ว เห็นบอกว่าดูแลแขกแค่ห้าคน ดูสิ! รายได้ขนาดนี้หาที่ไหนได้ ทำคืนเดียวค่าแรงเท่ากับทำสามคืนเชียว คุณมิกกี้กับคุณแจ็คก็มาด้วยไม่ใช่เหรอ?” แพมมี่ยิ้มกว้าง กระเป๋าแบรนด์เนมออกใหม่ที่เล็งไว้ตั้งแต่ครั้งก่อน คราวนี้ต้องได้มาสะพายแน่นอน แพมมี่ตบบ่าปูเป้ปลอบใจ เธอรู้ว่าเพื่อนสำนึกในบุญคุณที่ให้ที่พักอาศัยจึงยินยอมทำงานนี้ หญิงสาวหน้าคมเฉี่ยวเหลือบไปมองด้านหลัง พี่สาวของเธอย่องตามมาห่างๆ คอยด้อมๆ มอง แพมมี่รู้สึกขำที่เจ๊เจนยอมสวมกางเกง วอร์มรองเท้าผ้าใบใส่เสื้อมีฮู้ดคลุมศีรษะและสวมแว่นดำ เป็นครั้งแรกที่สาวผู้บ้าแฟชั่นอย่างพี่สาวเธอยอมแต่งตัวอย่างนี้ แพมมี่ยื่นหน้าไปใกล้หูของเพื่อน “เจ๊เจนอยู่ข้างหลัง แกกับฉันสบายใจได้” ปูเป้ถอนหายใจ เธอรู้ว่าปกติเจ๊เจนมักจะไปไหนมาไหนกับบอดี้การ์ด ล่ำบึกอีกสองคนซึ่งได้รับการฝึกฝนในการต่อสู้ทุกรูปแบบ ดังนั้นหากเกิดเหตุร้ายคนทั้งสองก็จะช่วยเหลือพวกเธอได้ สองหนุ่มที่ยืนดูกล้องวงจรปิดชี้ชวนให้กันดูหญิงสาวสองคนที่มาในชุด ยูนิฟอร์มของเล้าจน์เฮียแจ็คซึ่งเป็นกี่เพ้าสีดำรัดรูป “มึงเห็นคนข้างหลังหรือยัง? เหยื่อมึงมาด้วยน่ะ” แจ็คยิ้มกริ่ม “ดี! งานนี้จะได้เคลียร์กันซึ่งๆ หน้า แอบแทงกูข้างหลังหลายทีล่ะ จะจัดการทีไร หนีไปได้ทุกที มึงส่งคนไปจัดการไอ้ล่ำสองคนนั่นหน่อย ขวางหูขวางตากูมานานแล้ว” “ได้! เดี๋ยวกูให้คนพาพวกมันไปนอนพัก” เจนนี่ที่ย่องตามมาดูน้องสาวปล่อยให้หญิงสาวทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปยังห้องชั้นบน เธอตามไปติดๆ ไม่ได้เพราะห้องเพ้นท์เฮ้าส์นั้นเมื่อลิฟต์เปิดออกจะอยู่ตรงประตูหน้าห้อง ซึ่งชั้นบนของคอนโดแห่งนี้ชั้นบนสุดมีเพียงห้องเพ้นท์เฮ้าส์ห้องเดียวเท่านั้น เธอจำต้องนั่งรอที่มุมห้องรับรองด้านล่างเพื่อคอยลอบมองดูว่าแขกที่จะมางานเลี้ยงทั้งห้าคนนั้นเป็นใครบ้าง? ชายหนุ่มสามคนที่สวมสูทลำลองแบรนด์เนมทั้งตัวก้าวเท้าเข้ามาในส่วนรับรองด้านล่างของคอนโดมิเนียมที่เพื่อนนัดไว้ “ห้องบนสุดใช่ไหมมึง?” “เออ! ที่นี่มันซื้อไว้นานแล้ว แต่เพิ่งตกแต่งเรียบร้อย” “ดูดีเหมือนกันนะ เห็นว่าตอนนี้ขายไม่หมดลดราคาไปเยอะเลยนี่?” “มึงเอาสักห้องไหมล่ะ?” “พ่อกูจะได้ด่าปะไรล่ะ? มึงจะถามอะไรก็ดูเศรษฐกิจหน่อย ตอนนี้ที่บริษัทแม่งก็การเงินตึงจะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสามคนเดินเข้าไปในลิฟต์ เจนนี่เดินตามไปดูพอเห็นตัวเลขสุดท้ายที่ลิฟต์หยุดก็รู้ว่านั่นคือแขกที่จะมาในคืนนี้ เธอแอบถ่ายภาพสามหนุ่มเอาไว้แล้วจึงได้ส่งเข้าไปในกรุ๊ปแชททันที ปิ๊ง! ปิ๊ง! เสียงเตือนจากโทรศัพท์มือถือของปูเป้ดังขึ้น เธอกวาดตามองไปรอบๆ ห้องนี้ไม่อาจจะเปิดไฟแบบปกติได้เพราะคุณแจ็คบอกไว้แล้ว มีเพียงไฟประดับและไฟแสงสีและลำโพงที่เปิดเพลงดังกระหึ่ม “ดูสิ! แขกมาแล้ว!” แพมมี่เปิดดูรูปแขกทั้งสามที่คุณแจ็คส่งเข้ามาให้ “เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูรับเอง พวกเขาเป็นเพื่อนคุณแจ็คไม่ใช่เหรอ?” “เห็นว่างั้นนะ” ปูเป้จำได้ว่าคุณแจ็ครับรองเรื่องความปลอดภัยเธอจึงไปเปิดประตูต้อนรับ “สวัสดีค่ะ ปูเป้ค่ะ” ชายหนุ่มทั้งห้ายิ้มกว้าง “สวัสดีครับคนสวย! มาๆ วันนี้ช่วยดูแลพวกพี่ให้เต็มที่เลยนะ เฮียแจ็คมันบอกไว้แล้วใช่ไหม? พวกพี่เป็นเพื่อนมันตั้งแต่สมัยเรียนประถมแล้วอ่ะนะ มันชอบให้เพื่อนเรียกมันว่าเฮียน่ะ ฮ่าๆ ฮ่าๆ” “สวัสดีค่ะ แพมมี่ค่ะ” “อืม...น่ารักกันทั้งคู่ เฮียแจ็คนี่มันเลือกคนต้อนรับได้สวยถูกใจจริงๆ มาๆ พวกเราเริ่มดื่มกันเถอะ” ชายหนุ่มทั้งสามเดินไปนั่งริมกระจกใสบานใหญ่ที่มองออกไปด้านนอกเห็นวิวเมืองหลวงได้สุดลุกหูลูกตา “วิวดีซะด้วย สมกับเป็นเพ้นท์เฮ้าส์ราคาแพงลิบ” ปูเป้กับแพมมี่รีบผสมเครื่องดื่มให้ตามคำสั่งของแต่ละคน ค่าจ้างที่สูงลิบของพวกเธอสอง มิได้มาจากรูปร่างหน้าตาที่สดสวยเท่านั้น แต่ยังมาจากฝีมือการผสมเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมด้วย “บ๊ะ! รสดีซะด้วย น้องปูเป้พี่ขออีกแก้ว” เคาน์เตอร์เครื่องดื่มที่นี่มิใช่เพียงตกแต่งงดงาม หากแต่ยังมีอุปกรณ์ครบไม่ต่างจากในเล้าจน์ แม้ปูเป้จะมิได้เป็นบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ แต่เธอก็ได้รับการสอนให้ผสมเหล้าบางสูตรที่ลูกค้านิยมเพื่อรับงานนอกสถานที่ “เฮียแจ็คกับมิกกี้ยังไม่มาอีก?” *****************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD