:ณ โบสถ์ แห่งหนึ่ง.....
"อามิตตาพุทธ~ขอให้โยมมีเเต่ความสุขความทุกจนหมดไป " : เสียงบาทหลวง
" ขอบพระคุณมากค่ะบาทหลวง " : เสียงผู้หญิงพูดพร้อมกันรอยยิ้มและสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
***คุณอาจจะงงว่าทำไมผมถึงได้พูดกับพวกคุณได้ ใช่ครับผมเป็นนักบุญของโบสถ์แห่งนี่ที่บวชแสวงบุญมาได้ 1 เดือนเเล้วครับและนี่คือวันที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นวายทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวผมต่อจากนี้
กร๊อบแกร๊บ~ กร๊อบแกร๊บ~ เสียงคนลื้อของ " นี่ไงบะหมี่ที่เราแอบซุกเอาไว้กินยามฉุกเฉิน "
หลังจากที่ต้มบะหมี่เสร็จ~
ซูด!!!ซาดดด!! เสียงซดบะหมี่เสียงดัง
"ให้ตายสิบวชมา 1 เดือนเเล้วเเต่ทำไมเราไม่สามารถห้ามตัวเองกินอาหารตอนกลางดึกได้นะ อึกๆๆ"
อักกๆๆ ( แย่เเล้วหายใจไม่ออก หรือว่านี่มันจะเป็น!!เส้นบะหมี่พันหลอดลม ) : เสียงในใจของบาทหลวง
" น้ำ! น้ำ! น้ำ! อยู่ไหนนน" (เพราะกลางคืนมีกฎไม่ให้ทานอาหารขบเคี้ยวตอนกลางคืนบาทหลวงด้วยความเป็นคนดีจึงกลืนเส้นบะหมี่่มาโดยตลอดโดยไม่ได้เคี้ยวเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว)
อึก~ อึก~ อึก~ : บาทหลวงคนรีบกระดกน้ำบะหมี่เพื่อทำให้หายติดคอ
ร้อนนนอ๊ากกก!!! " ลืมไปว่าน้ำในต้มบะหมี่มันร้อนมากเเค่ไหน "
: บาทหลวงรีบกระดกน้ำต้มจนหมดภายในอึกเดียว เเต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเเถมยังร้อนจนลวกปากสะอีก
( เราต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นเส้นติดตายเเน่ ) : เขาได้เเต่คิดในใจ พร้อมกับลุกขึ้นมาเพื่อรีบวิ่งออกไปเอาน้ำนอกห้องก่อนที่เส้นบะหมี่จะติดคอตาย
- ทันใดนั้น -
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก " ท่านบาทหลวง!!! " : เสียงพระลูกวัดตะโกนไล่หลังพร้อมรีบวิ่งไปหาบาทหลวง
" บาทหลวงตกบันได!!! ช่วยด้วยบาทหลวงตกบันได!! " :เสียงพระลูกวัดตะโกนสุดเสียง
สภาพของบาทหลวงในตอนนี้ : คือคอหักลิ้นจุกปากพร้อมกับเศษเส้นบะหมี่ที่ไหลออกจากปาก
'' ไม่นะหลวงพ่อตกบันไดตาย!!หรือว่านี่จะเป็นบทลงโทษของสวรรค์ที่หลวงพ่อแอบกินอาหารตอนกลางคืน ไม่นะบาทหลวงงง!!! อามิตตาพุทธ~ '' พระลูกวัดพูดในขณะที่มองหน้าบาทหลวง
- ณ ป่าแห่งหนึ่ง -
[เกิดเเสงสว่างจ้าจนแสบตา]
" หนะๆๆนี่มันอะไรหนะ แสงสว่างนั้นมันอะไรกัน เเล้วที่นี่คือที่ไหนนน " เขาได้พูดออกมาหลังจากที่เขาได้มาโผ่ลยังที่ที่น่าพิศวง
" ท่านตอบรับคำอธิษฐาน ท่านช่วยชีวิตข้าไว้เจ้าค่ะ " : เด็กผู้หญิงพูดพร้อมคุกเข่าด้วยใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้มด้วยความดีใจ
บาทหลวง เขาได้เเต่ทำหน้าเหว่อนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรด้วยความอึ้งตะลึงที่ได้เห็นเด็กผู้หญิงผมสีชมพูอ่อนดวงตาสีแดงประกาย พร้อมเขาสองข้างที่หัก1ข้างบนหัว
- 10นาทีก่อนหน้านี่ -
ตึบๆๆ เสียงฝีเท้าของคนวิ่งพร้อมกับความสั่นสะเทือนของป่าไม้และพื้นดินที่ไล่ตามหลังมา เด็กหญิงตัวน้อยกำลังวิ้งหนีมอนเตอร์ตัวใหญ่มหึมา
( ไม่ทันแน่เราขืนเป็นแบบนี้เราตายเเน่นอน ) : เด็กหญิงตัวเล็กได้เเต่คิดในใจพร้อมกับทันใดนั้นได้มีอุ้มมือของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่กำลังจะปบเธอ
" ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยยยยเจ้าค่าาา!!!! " : เสียงเด็กน้อยตะโกนขึ้นอย่างสุดเสียง!!!!
เปรี้ยง!!!! พึ้มม!! ฟ้าผ่าเสียงดังปรากฏเป็นสายฟ้าสีดำฟาดผ่าลงมาใส่กลางตัวมอนเตอร์ตัวใหญ่ทำให้ร่างเเหลกสลายลงไปในพริบตา ปรากฏร่างของผู้ชายนอนสลบอยู่ท่ามกลางหลุมที่เกิดจากสายฟ้าที่ผ่าลงมาในขณะนั้นพร้อมกับวงจรเวทย์มนต์ขนาดใหญ่
" ท่านมาช่วยขีวิตของข้าเอาไว้ ต่อจากนี้ชีวิตของข้าเป็นของท่าน "
เด็กชาย : " อะๆๆๆ เดี๋ยวก่อน!! ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยเเล้วอีกอย่างที่นี่ที่ไหนฉันจำได้ว่าวิ่งตกบันไดเเล้วรู้ตัวอีกทีก็มาโผล่มาที่เเล้ว "
: หลังจากพูดเสร็จเด็กชายได้หันหน้าไปทางหนองน้ำพร้อมเห็นภาพของตัวเองที่สะท้อนผิวน้ำพบวัยรุ่นชายอายุ 18-19 ปี
เด็กชาย : " แอ๊ะนี่เราถูกกย้อนอายุไขกลายเป็นวัยรุ่นอย่างงั้นหรอเนี่ยยย "
เด็กหญิง : " ย้อน อายุไข คืออะไรหรือเจ้าค่ะ " เด็กหญิงพูดด้วยความสงสัย
" ป่าวๆ ไม่มีอะไร สรุปที่นี่คือที่ไหน ทำไมเธอมาเจอฉันได้ " : เด็กหนุ่มพูดพร้อมเอามือจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของเด็กหญิงตัวเล็ก
เด็กหญิง : " คือแบบนี้นะเจ้าคะ....."
- 30 นาทีผ่านไป -
เด็กหญิง : ''เหตุการณ์ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี่แหละเจ้าค่ะ''
เด็กชาย : "เอ๋อเป็นแบบนี้นิเอง คือว่าฉันไม่ได้เป็นคนช่วยชีวิตของเธอหรอกนะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องบังเอิญหนะ"
เด็กหญิง : " ไม่จริงเจ้าค่ะ ท่านอย่าถ่อมตัวไปเลยเจ้าค่ะในโลกแห่งนี้ไม่มีใครที่ไม่มีพลังเวทมนต์หรอกนะเจ้าคะทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของนายท่านอย่างไม่ต้องสงสัย
เด็กชาย : " ห้ะ!!!ใครเป็นนายท่านของเทอ "
เด็กหญิง : " นายท่านเป็นผู้มอบชีวิตใหม่ให้แก่ข้าเป็นผู้ช่วยชีวิตข้าจากบอสแมพเมื่อสักครู่นี่ "
เด็กชาย : "บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ฝีมือของฉันนนน แล้วเธอคือใครกันเเน่"
เด็กหญิง : "แบบนี้สินะเจ้าคะที่เขาเรียกกันว่าคนเก่งมักถ่อมตนนายท่านข้ามีนามว่า "ชิออน" เป็นมนุษย์เผ่าปีศาจนายท่านมีนามว่าอะไรหรอเจ้าคะ "
เด็กชาย : " ฉันหนะหรอ เอ่อ ฉันชื่อ "เบล" หนะ "
" อ่ะอ่ะเอ๋หรือว่า.....นายท่านจะเป็น เบลเซบับอดีตราชันเทพปีศาจที่หายตัวไปก่อนราชาปีศาจคนปัจจุบันขึ้นครองราชที่เเล้วเมื่อ 1000 ปีที่เเล้วกะไว้เเล้วเชียวว่าท่านต้องเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งระดับที่เเค่เปิดเกดวาปก็สามารถฆ่าบอสเเมพได้อย่างง่ายดายสมเเล้วที่เป็นอดีตราชันเทพปีศาจ "
เบล : " เอ๋!!!ไปกันใหญ่เเล้วฆ่าจะไปเป็นอดีตราชาปีศาจที่เจ้าได้รู้จักได้ยังไงเล่าคิดไปถึงขนาดนั้นได้ยังไงเนี่ย "
ชิออน : " นายท่านกำลังปิดบังตัวจนสินะเจ้าคะ "
เบล : "บอกเเล้วไงว่า ฉันไม่ใช่ราชาปีศาจอะไรนั้นที่เธอรู้จักเเล้วไม่ต้องมาเรียกฉันว่านายท่านฉันไม่ได้ช่วยชีวิตเธอเรื่องพวกนี้มันคือเรื่องบังเอิญทั้งนั้นแหละ "
ชิออน : " ได้โปรดดดรับข้าเป็นทาสรับใช้ด้วยข้าตัดสินใจตั้งเเต่ท่านได้ช่วยชีวิตข้าไปแล้วว่าข้าจะใช้ชีวิตที่เหลือรับใช้ท่าน มอบชีวิตที่2 ให้แก่ท่านรับใช้ท่านเป็นทาสตลอดชีวิตหากท่านไม่ยอมรับในตัวข้าข้าขอตายไปเลยดีกว่า " : เด็กหญิงพูดไปพลางเอามีดเล่มเล็กจี้คือตัวเองไปพราง
(ไม่ได้การแหละถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างละก็เด็กผู้หญิงคนนี้ต้องฆ่าตัวตายเเน่ๆ)
เบล : " ช้าก่อนนน!! "
ชิออน : ข้าไม่มีครอบครัวเจ้าค่ะข้าตั้งเเต่จำความได้ข้าก็ถูกทิ้งมาไว้ที่แห่งนี้เเล้วเจ้าค่ะ
แบบนี้เองสินะที่นี่คงจะไม่ใช่โลกที่เรารู้จักสินะที่นี่มันคือที่ไหนกันเเน่โลกเเห่งความตายงั้นหรอ หรือว่าที่นี่มันเปนเเค่ฝันอย่างเเน่นอนเพราะดูเหมือนว่าที่นี่คือโลกอีกใบดูจากสัญลักษณ์ประหลาดตรงใต้เท้าของเราเเล้วคงจะมีใครสักคนที่ส่งเรามาอย่างเเน่นอน ใครกันนะที่ส่งตัวเรามานังโลกแห่งนี้แล้วเขาต้องการอะไรจากเรากันเเน่ นั้นสินะในสถานะการแบบนี้เราควรทำอย่างไรดีนะ ที่นี้มันคือต่างโลกดีดีนี้เองหรือว่า คนที่ส่งเรามาที่นี้เพื่อที่จะให้เราได้มาเพยเเพร่หลักธรรมให้แก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้งั้นสินะบางทีถ้าเราถ่ายทอดหลักธรรมให้แก่ผู้คนบนโลกจนหมดเราอาจจะได้กลับโลกเดิมของเราก็ได้
เบล : " เอาแบบนี้นะเธอไม่จำเป็นต้องมาเป็นทาสของฉันหรอกนะเธอมาเป็นผู้ชายของฉันดีกว่านะเพราะว่าบางทีการที่ฉันได้มาโผล่ยังโลกใบนี้เผื่อมาเป็นผู้นำพาศาสนาก็เป็นได้นะเพราะงั้นฉันถึงต้องการผู้ช่วยยังไงละ "
ชิออน : " จะดีหรอเจ้าค่ะให้ข้าผู้นี้ได้เป็นผู้ติดตามของอดีตราชันปีศาจข้าเป็นเเค่ปีศาจอสูรที่พลังเวทย์ต่ำเท่านั้นเองเจ้าค่ะ "
เบล : " ไม่มีใครที่ไม่มีค่าพอหรอกนะทุกคนมีค่าในแบบของตัวเอง เข้ามานี่สิเข้ามาใกล้ๆฉัน "
(เเล้วเบลก็ได้เอามือไปจับที่หัวของชิออนทำให้เกิดเเสงสีฟ้าสว่างจ้าออกจากตัวของชิออน)
เบล : " หนะๆๆนี่มันอะไรกันเรากำลังจะทำพิธีทางศาสนาอยู่แล้วจู่ๆมันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย "
ทันใดนั้นก็เกิดเเสงสีฟ้าก็ได้โพยพุ่งออกจากตัวเองชิออนขึ้นตรงไปบนท้องฟ้าทำแหวกเมฆแยกออกจากฟ้าเป็นรู
เบลรีบกระโดดออกห่างจากตัวของชิออนด้วยความตกใจพลันคิดในใจว่า : " นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย "
ชิออน : " พลังเวทย์ของข้ามันเอ่อล้นออกมานี่คงเป็นเพราะการเเบ่งพลังของท่านเบลเซบับที่มอบให้แก่ข้าาา "
เบล : " เดี๋ยวก่อนฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเธอเลยนะชิออน "
ชิออน : " ท่านได้มอบเศษเสี้ยวพลังให้แก่ข้าเพื่อให้ข้าคู่ควรที่จะเป็นผู้ติดตามของนายท่านสืนะเจ้าค่ะ "
ทันใดนั้นก็ได้มีหมาป่าตัวสีฟ้ามี6ตาสูงประมาณ2เมตรปรากฎตัวออกมาจากป่า
เบล : " นี่มันตัวอะไรกันเนี่ยยตัวโคตรใหญ่เเถมไม่ได้มาเเค่ตัวเดียวมันมาเป็นฝูงเข้ามารายร่อมรอบตัวของพวกเราเต็มไปหมด "
เบลร้องเสียงดังด้วยความตกใจกลัว
ชิออน : " บังอาจมากนะเจ้าพวกปีศาจชั้นต่ำกล้าหันคมเคี้ยวใส่ท่านจอมเทพปีศาจงั้นหรอไอ้พวกหนอนแมลง "
ชิออนพูดพร้อมกับน้ำเสียงอันเเข็งกร้าวพร้อมกันสีหน้าโมโห
เบล : " เดี๋ยวก่อนชิออนนน "
ชิออน : " นายท่านพวกปีศาจอสูรชั้นต่ำพวกนี้ไม่คู่ควรพอที่จะให้ท่านเสียเเรงจัดการพวกมันหรอกเจ้าค่ะเดี๋ยวข้าจะเด็ดหัวของพวกมันมาเป็นเครื่องเส้นสังเวยให้แก่นายท่านเองเจ้าค่ะ "
" จงแหลกสลายไปด้วยเศษเสี่ยวของพลังแห่งราชันที่ข้าได้รับไปสะเถอะ " เฮลเบลม "
สิ้นเสียงพูดก็ได้ปรากฎไฟสีฟ้าโพยพุ่งออกมาจากพื้นดินเป็นเเนวกว้างรอบๆร่างกายของชิออนหลังจากนั้น แปลวไฟก็ได้เเผดเฝาทุกสิ้งที่ไฟได้พัดผ่าน ไม่เเม้เเต่ฝูงหมาป่าที่แหลกสลายกลายเป็นผุยผงเพราะไฟสีฟ้าที่พัดผ่านพื้นที่โดยรอบก็ถูกละลายด้วยความร้อนไม่เหลือแม้เเต่ก้อนหินทุกอย่างกรายเป็นพื้นทรายด้วยความร้อนเกิดเป็นพื้นที่โล่งกว่างกว่า 500 เมตรโดยรอบขอบเขตของพลัง
เบล : " นี่มันพลังอะไรกันเนี่ยตะกี้เธอทำอะไรหนะ "
เบลพูดพร้อมกับเขย่าเเขนของชิออนไปพูดไป
ชิออน : " นี่สินะเศษเสี้ยวพลังแห่งราชัน "
สิ้นเสียงชิออนได้สลบเหมือดล้มลงกับพื้นเพราะใช้พลังเวทย์ตะกี้ไปจนเกือบหมดในตะกี้
เบลรีบวิ้งไปรับตัวของชิออนเเล้วพูดว่า "เธอเป็นอะไรหรือป่าว"
ชิออนได้ยกนิ้วโบ้งขึ้นมาเเล้วก็สลบคามือของเบล
- โปรดติดตามตอนต่อไป -