ขณะที่ยี่หวากำลังมองราชันย์ประคบเท้าให้ตัวเองอยู่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเธอดังขึ้น ยี่หวาจึงหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา ส่วนราชันย์เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของยี่หวาก็เงยหน้ามองเล็กน้อยแต่ก็หันไปประคบเท้าให้ต่อโดยไม่พูดอะไร
“รับสายสักทีฉันหนวกหูเสียงโทรศัพท์ เปิดอะไรดังนักหนา”
ราชันย์บ่นให้ยี่หวาทันทีเมื่อเธอไม่ยอมรับโทรศัพท์เอาแต่มองจอนิ่ง
“ไม่อยากรับ”
พูดจบยี่หวาก็กดปิดเสียงแล้ววางโทรศัพท์ไว้ยังโต๊ะกระจกตรงหน้าทันที ทางด้านราชันย์เมื่อได้ยินคำพูดของยี่หวาก็ไม่พูดอะไรต่อ จนมีข้อความเตือนหน้าจอโทรศัพท์ของยี่หวา ราชันย์จึงเหลือบตามองก็เห็นเป็นรูปโปรไฟล์ผู้ชายพร้อมกับข้อความ ‘ทำอะไรอยู่ครับน้องยี่หวา’
“โอ๊ย! อะไรของนายเนี่ย จะปล่อยขาฉันลงก็บอกฉันก่อนหน่อยสิ มันเจ็บนะ”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ทันทีเมื่ออยู่ดีๆ คนที่ประคบเท้าให้เธออย่างอ่อนโยนเมื่อกี๊กลับปล่อยขาเธอลงพื้นอย่างแรงแล้วลุกขึ้นเดินไปทันที
“นี่นาย! อะไรของเค้าเนี่ย คิดจะไปก็ไปดื้อๆ แบบนี้เลยหรอ เป็นไบโพล่ารึไงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเนี่ย เป็นอะไรของเค้าเมื่อกี๊ยังดีๆ อยู่เลย ทำไมถึงทำหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรอย่างนั้นล่ะ”
ยี่หวาบ่นให้ราชันย์ทันทีเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็หยุดประคบเท้าให้เธอแล้วลุกเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรทิ้งให้ยี่หวานั่งงงอยู่คนเดียว เมื่อเห็นราชันย์ออกจากห้องไปแล้วยี่หวาจึงละความสนใจจากราชันย์แล้วค่อยๆ ลุกเดินเข้าห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำ ทางด้านราชันย์หลังจากเดินออกจากห้องของยี่หวาแล้วก็เดินขึ้นไปยังห้องตัวเองอย่างอารมณ์ไม่ดีเพราะเขาคิดว่าคนที่ส่งข้อความมาหายี่หวาคือแฟนของเธอจึงเป็นสาเหตุให้ราชันย์เดินออกมาอย่างอารมณ์ไม่ดี เมื่อมาถึงห้องแล้วราชันย์ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาทันที
“นอกจากจะจำฉันไม่ได้แล้ว ยังไปมีแฟนอีก หึ”
ราชันย์พูดพึมพัมคนเดียวใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยความหงุดหงิด สาเหตุที่ทำให้ราชันย์สนใจแหวนถักที่ยี่หวาใส่สร้อยห้อยคอตัวเองไว้เพราะแหวนวงนั้นเขาเป็นคนถักให้เธอเองกับมือตอนที่เรียนอยู่มอหนึ่งซึ่งทั้งสองนั้นพึ่งมาเรียนห้องเดียวกัน และที่สำคัญยี่หวาคือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักความรักแบบชู้สาว แต่ด้วยวัยที่ยังเด็กราชันย์จึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกตัวเองไว้และอยู่ข้างเธอในฐานะเพื่อน แต่พอเรียนได้ไม่ถึงเดือนอยู่ดีๆ ยี่หวาก็ย้ายโรงเรียนกะทันหันและขาดการติดต่อไปจนราชันย์ให้พ่อตัวเองตามหาเธอให้ถึงได้รู้ว่ายี่หวาย้ายไปต่างประเทศแล้ว ราชันย์จึงได้แต่เก็บความรู้สึกตัวเองไว้มาตลอดจนเรียนมหาลัยปีสามมีคนมาจีบเขา ราชันย์จึงลองเปิดใจคบกับเธอสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็หักหลังเขาไปคบคนอื่นแต่ราชันย์กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเสียใจเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นสิ่งยืนยันว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้น แต่วันนี้ที่เขารู้ว่าผู้หญิงที่ทำให้เขาเจ็บตัวถึงสองครั้งคือยี่หวาผู้ที่เป็นรักแรกของเขาทำเอาราชันย์ถึงกับใจเต้นแรงรู้สึกดีใจไม่น้อย แต่เขารู้สึกแปลกใจที่เธอจำเขาไม่ได้แต่กลับเก็บแหวนที่เขาให้ไว้ติดตัวตลอด เมื่อเธอจำเขาไม่ได้ราชันย์จึงไม่พูดอะไรเพราะเขาอยากให้เธอจำเขาได้ด้วยตัวเอง แต่พอรู้ว่าเธอมีแฟนแล้วเขาจึงเลือกที่จะไม่เข้าใกล้เธออีก ราชันย์นั่งคิดเรื่องของยี่หวาสักพักก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปดื่มที่ผับทันที
“ไปกัดกับใครมาถึงได้ดูอารมณ์ไม่ดีแบบนี้พี่ใหญ่”
เจด้าลูกสาวของเจไดและมิรินที่เป็นน้องเล็กของห้าพี่น้องเอ่ยถามพี่ใหญ่ตัวเองด้วยความสงสัย
“สงสัยจะหงุดกับหมาน้อยที่ฟัดจนเป็นรอยมารึเปล่า อิอิ”
ดารินพูดแซวขึ้นทันทีจนราชันย์หันไปมองค้อนใส่ดาริน
“หมาน้อยอะไร คนอย่างราชันย์เลี้ยงหมาเป็นด้วยหรอ เอ๊ะ! หรือว่าหมาน้อยที่ว่าคือผู้หญิงหรอ ใครอะราชันย์ นี่นายมีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพี่บอกน้องหรอ”
เอวาลูกสาวของอคินและแพรวาพูดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของดาริน สาเหตุที่ทุกคนมารวมตัวกันที่ผับเพราะวันนี้เจด้าชวนพี่ๆ มาดื่มพอดีและเมื่อเห็นราชันย์มาเจด้าก็ลากราชันย์มานั่งดื่มด้วยกันทันที เอวาจึงไปตามเจเดนมานั่งร่วมวงด้วยกันที่ห้องวีไอพีซึ่งเป็นที่ไว้สำหรับพวกเขาห้าคนเท่านั้น
“หยุดถามกันได้แล้ว ฉันแค่อยากมาดื่มไม่ได้อารมณ์เสียอะไร อีกอย่างฉันยังไม่มีแฟน”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับยกแก้วเหล้ากระดกดื่มจนหมดแล้ว
“หึ ปิดคนอื่นน่ะปิดได้นะพี่ราชันย์ แต่ปิดสามสาวนี้ไม่มิดหรอก อาการพี่ออกชัดเจนขนาดนี้”
เจเดนพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มเพราะรู้ว่าราชันย์กำลังหงุดหงิดเพราะใครบางคนอยู่ ซึ่งทั้งสามสาวก็ดูออกตั้งแต่แรกจึงเอ่ยถามเขา
“ใช่ มีอะไรก็ระบายมาราชันย์ ลืมแล้วหรอว่าเราห้าคนสัญญากันไว้ว่าจะไม่มีเรื่องปิดบังกัน ใครมีเรื่องไม่สบายใจต้องมาระบายให้ทุกคนฟัง จะได้ช่วยกันหาทางแก้ไขประโยคนี้นายเป็นคนพร่ำบอกพวกเราตลอดนะ”
ดารินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงพวกเธอจะชอบพูดแซวพูดเล่นกันแต่ถึงเวลาที่พี่น้องคนไหนมีเรื่องไม่สบายใจอีกสี่คนก็จะทิ้งทุกอย่างแล้วมาหาทันทีเพราะพวกเขาโดนพ่อกับแม่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้ทั้งห้ารักกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ ห้ามทิ้งใครไว้ข้างหลังเด็ดขาดต่อให้อนาคตข้างหน้าจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ซึ่งทั้งห้าคนก็ทำตามคำสั่งสอนของครอบครัวมาตลอด เมื่อเห็นทุกคนเริ่มปรับสีหน้าทำหน้าเป็นห่วงราชันย์จึงตัดสินใจเล่าสาเหตุที่เขาอารมณ์ไม่ดีมา
“ฉันเจอยี่หวาโดยบังเอิญ”
ทุกคนเบิกตากว้างตกใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของราชันย์ เพราะรู้ว่ายี่หวาคือผู้หญิงที่อยู่ในใจของราชันย์มาตลอด
“จริงหรอพี่ราชันย์ พี่ไปเจอพี่ยี่หวาที่ไหน เป็นไงตอนนี้พี่ยี่หวาสวยมั้ยพี่”
เจด้ารีบถามขึ้นเป็นคนแรกด้วยความตื่นเต้นเพราะเธอไม่เคยเห็นยี่หวามาก่อน
“สวย”
ราชันย์ตอบเจด้าไปตามตรงโดยไม่ปิดบังเพราะยี่หวานั้นสวยมากจริงๆ แต่เพราะบุคลิกที่นิ่งของเขา ราชันย์จึงพูดสวนทางกับความคิดตัวเองตลอด
“อร๊ายย! อยากเห็น พี่จีบพี่ยี่หวายัง”
เจด้าพูดขึ้นมาจนทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับเจด้า ยกเว้นแต่เจเดนที่ทำหน้านิ่งเฉยเพราะนิสัยของเขาก็นิ่งขรึมไม่ค่อยสนใจใครเหมือนกับราชันย์
“เธอมีแฟนแล้ว”
สามสาวถึงกับหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของราชันย์ จึงทำให้ทุกคนรู้ถึงสาเหตุของการอารมณ์ไม่ดีของราชันย์ทันที
“เอาน่า ถือว่านายไม่ใช่คู่แท้ของเธอแล้วกัน เลิกคิดมากแล้วมาดื่มดีกว่า วันนี้ไม่เมาไม่กลับจ้า”
เอวาที่นั่งใกล้ราชันย์ยื่นมือไปกอดคอราชันย์อย่างปลอบใจ ซึ่งปกติราชันย์จะไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนมากอดคอจับหัวเขาเว้นแต่เอวาที่ไม่ยอมฟังเขาเลยตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ตบหัวเขาตั้งแต่เด็กเลยด้วยเพราะนิสัยของเอวานั้นแทบไม่มีความเป็นกุลสตรีในสายตาราชันย์เลยสักนิด พอโตมาเอวาก็เว้นระยะห่างเพราะให้เกียรติราชันย์เหมือนพี่คนโตอาจจะมีบางครั้งที่มากอดแขนกอดคอเขาบ้าง
“พรุ่งนี้มีเรียนพี่เอวา”
เจเดนพูดเสียงดุใส่เอวาทันที ครอบครัวอื่นอาจจะเป็นลูกสาวคอยเตือนลูกชาย แต่ไม่ใช่กับห้าพี่น้องนี้เพราะส่วนมากมีแต่ราชันย์กับเจเดนที่คอยเตือนสามสาวมาตลอด บอกเลยว่าในบรรดาห้าพี่น้องเอวาและเจด้านั้นแสบสุดแล้ว ส่วนดารินถึงจะดูเรียบร้อยกว่าเพื่อนแต่ก็ปนความดื้อมาเช่นกัน เมื่อไหร่ที่สามสาวรวมตัวกันทำอะไรไม่เคยห้ามกันเลยสักเรื่อง จนสองหนุ่มได้แต่ส่ายหัวยอมทุกครั้งแต่ถามว่าห้ามมั้ยพอถึงเวลาก็สปอยสามสาวเหมือนเดิมอยู่ดี
“จะมาทำเสียงดุทำไมเจเดน เสียบรรยากาศ กินได้ก็เรียนได้เถอะ”
เจด้าพูดบ่นให้แฝดตัวเองทันทีเมื่อเห็นเจเดนทำเสียงดุใส่เอวา
“ไม่ต้องมาพูดเลยเจด้า เธอนั่นล่ะตัวดีเลย กินที่ไรชอบไปนั่งเรียนเหมือนร่างไร้วิญญาณตลอด มันจะได้ความรู้อะไร”
เจเดนพูดสอนเจด้าอย่างไม่ยอม จนเจด้าตั้งท่าจะอ้าปากเถียงเจเดนก็ต้องเงียบเมื่อดารินพูดห้ามก่อน
“หยุดเถียงกันเลยสองแฝด เจอกันไม่ได้เลยนะ ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กยันโตเลยจริงๆ เอาเป็นว่าวันนี้ถือว่าเป็นวันรวมแก๊งพี่น้องเราดีกว่าเนาะ มาๆ ชนแก้วกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของดารินทุกคนก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนด้วยกันทันที จากนั้นก็นั่งดื่มสังสรรค์กันไปเรื่อยๆ ถึงราชันย์จะยังคิดเรื่องของยี่หวาอยู่แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยเพราะเหล่าพี่น้องของเขานั้นคือเซฟโซนที่ดีของเขามาตลอด เมื่อดื่มสังสรรค์กันเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับคอนโดตัวเองทันที