REBORN 1 แกล้ง

1360 Words
(ปลานิล) มหาวิทยาลัย K กึก!!ปึก!! “เฮ้ย!!ปลานิลทำไมเดินไม่ดูเลยละดูสิพื้นถลอกแล้วมั้ง? ฮ่า ๆ ” “ไอ้เกมส์มึงควรห่วงคนไม่ใช่พื้นเว้ย!!แต่ว่าพื้นมันมีราคามากกว่ายัยปลาเน่านี่เนอะ ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะของเพื่อนในห้องทำให้ฉันอายมากไม่กล้ามองหน้าใครเลย “ฮึก!” “จะร้องไห้อีกแล้วเหรอวะปัญญาอ่อนเกินวะปลาเน่าแค่นี้ทำเป็นน้ำตาไหล!” หมับ! เกมส์กระชากแขนของฉัน “นะนิลขอโทษ ฮึก!” “ขอโทษเรื่องอะไรวะ?” “ระเรื่องที่ร้องไห้ไง นิลไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้นะแต่มันห้ามไม่ได้ ฮึก!” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาฉันทั้งกลัวและอยากร้องไห้ออกมาแต่ก็ต้องพยายามเงียบเอาไว้ไม่อย่างนั้นฉันจะโดนแกล้งมากกว่าเดิม ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยราคาแพงมากฉันไม่มีปัญญาเข้ามาเรียนหรอกแต่เพราะว่าได้ทุนการศึกษาฉันเลยได้มาเรียนและแน่นอนว่าฉันเป็นคนแรกและคนเดียวในมหาวิทยาลัยที่ได้ทุน คนอื่นเป็นเด็กที่พ่อแม่ส่งเสียมาเรียนและเป็นคนมีเงินทั้งนั้น อาจจะมองว่าเหมือนนิยายที่คนอ่อนแอโดนรังแกแต่มันเป็นเรื่องจริงฉันเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเหมือนกัน บอกให้ก็ไม่ได้ทำได้แค่อดทนและเรียนต่อให้จบเท่านั้น “งั้นฉันห้ามให้ดีไหม?” เสียงของควีนดังขึ้นและ พรึ่บ!! “อึก!!!” และเอาผ้ามาปิดจมูกของเพื่อนฉันเธอเข้ามาช่วยจับไม่ให้ฉันดิ้นและกดผ้าให้แน่นขึ้นจนฉันกำลังจะหายใจไม่ออกแล้ว “เฮ้ย!ควีนพอก่อนเดี๋ยวตายพอดี” “เฮือกก!!แฮ่ ๆ แค่ก ๆ” ฉันรีบหายใจและไอออกมาอย่างทรมาน “ซอรี่!!สงสัยเล่นแรงไปหน่อยแต่ว่านี่คือผลที่เธอไปบอกอาจารย์เรื่องที่ฉันแกล้งแก!!” เพี๊ยะ!!ควีนตบหน้าฉันอย่างแรง “ฮึก!!ขะขอโทษนะควีนตะแต่อาจารย์ถามนิลเลยต้องบอกไป...” เพี๊ยะ!! “งั้นก็รับกรรมไปเถอะ!!!” ปึก! ควีนถีบที่หน้าท้องฉันจนล้มไปกองที่พื้น เมื่อวานนี้อาจารย์ตะวันมาถามเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเขาเห็นว่าฉันโดนเพื่อนแกล้งบ่อย ๆ เขาเลยเรียกไปพบและถามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตอนแรกฉันก็ไม่กล้าเล่าหรอกเพราะกลัวว่าพวกควีนจะรู้เรื่องแต่อาจารย์บอกว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้และเขาจะพยายามหาทางช่วยเอง ฉันเลยเปิดใจและเล่าทั้งหมดให้ฟังแต่แล้ว...ควีนก็รู้จนได้ ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้ได้ยังไง “อะอาจารย์ถามนิลเลยบอกไปแค่นั้นเอง” “คิดว่าอาจารย์นั่นจะช่วยได้จริงเหรอมันก็แค่อัตราจ้างธรรดา ๆ ทั่วไปไม่ได้มีอำนาญอะไรแค่ขู่นิดหน่อยก็กลัวจนกลัวจนหัวหดแล้ว” “ฮึก!!ฮืออออ!!” “เงียบ!!อ่อ ที่ผ่านเธอก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนิแล้วทำไมถึงเล่าให้อาจารย์ตะวันฟังได้ข่าวว่าเข้าไปคุยกันลับ ๆ อย่าบอกนะว่าเธอกับอาจารย์ตะวัน...” “มะไม่ใช่นะ!!!นิลไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น?!” “ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่าทำอะไรอย่าร้อนตัวสิปลานิลเน่า หึ” ควีนเอามือมาบีบแก้มฉัน “อึก!!” “ต่อไปนี้อย่าคิดพูดอะไรกับใครอีกไม่อย่างนั้นจะจบไม่สวย!” ปึก!! ควีนผลักหัวของฉันและเดินข้ามฉันออกไป หอพักเจ๊ข้าวซอย “โอ้โห้!!!สภาพ!!นังชะนี?!” กึก!! ฉันกำลังเดินเข้าหอก็เจอเจ๊ข้าวซอยเจ้าของหอนี้พอดี ฉันก้มหน้าทันทีเพราะไม่อยากให้เธอเห็นสภาพตอนนี้ของฉัน “...” “ไม่ต้องก้มหน้าหลบเลยย่ะ!!ชะนี!!โดนแกล้งอีกแล้วบอกว่าให้สู้!!ให้สู้ทำไมไม่เชื่อ?!” เจ๊ข้าวซอยคือคนที่รู้เรื่องของฉันดีที่สุดเพราะบ่อยครั้งเธอก็มาทำแผลให้ฉัน เจ๊ข้าวซอยเป็นกะเทยที่สวยมากถ้าเป็นผู้ชายก็คงหล่อมากเหมือนกัน “ฮึก!!จะให้นิลสู้ยังไงไหวอ่าาา~ ฮือออออ!!!พะพยายามสู้พวกนั้นก็เอาคืนมากกว่าเดิมไปฟ้องอาจารย์ก็ไม่ได้ผลเพราะอาจารย์ไม่สนใจเด็กทุนอย่างนิล ฮือออ!!!เจ๊ไม่เข้าใจหรอกว่ามันทรมานแค่ไหน ฮึก ๆ เจ๊ก็พูดได้เพราะเจ๊ไม่ได้โดนเหมือนนิล ฮืออออออ!!!” ไม่ใช่ว่าไม่พยายามสู้แต่มันสู้ไม่ได้!! หมับ!! “โอ๋ ๆ นะลูกสาวเจ๊ขอโทษที่พูดไม่คิด เฮ้อออ!!!เด็กพวกนั้นนี่ก็ยังไงทำไมต้องมาแกล้งกันด้วย!!!มหาวิทยาลัยก็ไม่ทำอะไรถ้าไม่ดูแลใส่ใจจะรับนักศึกษาทุนทำไม?!” เจ๊ข้าวซอยพูดอย่างโหโม ห้องพักปลานิล พรึ่บ! “จ๊ะพ่อ...นิลสบายมากเลยอีกไม่กี่ปีก็จบแล้วจ๊ะ” (เพื่อนเป็นยังไงบ้างละยังดีกันอยู่ไหม?) คำถามของพ่อทำให้ฉันชะงักไป ฉันไม่กล้าบอกเพราะกลัวพ่อเป็นห่วงและให้ลาออกถ้าไม่เรียนที่นี่พ่อก็ไม่สามารถส่งฉันเรียนที่ไหนได้แล้วละเพราะบ้านเราจนมาก “ดีสิจ๊ะเพื่อนดีสังคมดีมากเลยไม่งั้นนิลจะเรียนมาจนจะปีสามได้ยังไงเนอะ” (นั่นสิถ้าเพื่อนดีเราก็ควรดีกับเขาเยอะ ๆ นะ มีแต่คนรวยทั้งนั้นนิ) “จ๊ะพ่อแล้วพ่อสบายดีไหม?” (ก็เรื่อย ๆ แหละรับจ้างทั่วไป ๆ วัน ๆ ก็พอได้อยู่ พ่อขอโทษนะที่ส่งเสียอะไรมากไม่ได้) “ไม่เป็นไรเลยพ่อนิลอยากเรียนเองก็ควรหาทางเองสิจ๊ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะพ่อนิลต้องไปทำงานแล้วอะ” (ได้ ๆ งั้นค่อยคุยกันใหม่นะลูกพ่อคิดถึงนะ) “นิลรักพ่อนะ” ฉันมีพ่อคนเดียวอายุก็มากแถมยังมีโรคประจำตัวอีก ความจริงมาเรื่องไกลแบบนี้ฉันก็เป็นห่วงพ่อแต่ถ้ายังอยู่ที่นั่นก็คงไม่ได้เรียนหนังสือแน่ เฮ้อออ!! เมื่อไหร่จะเรียนจบนะ หลายวันต่อมา สนามกีฬามหาวิทยาลัย K ปึก!! “ทำซะ!!” ควีนโยนไม้ถูให้ฉันวันนี้เรามีเรียนพละเป็นวิชาเสริมเข้ามานอกจากวิชาหลักและกีฬาของเราก็คือบาสเกตบอล “อาจารย์บอกว่าให้ช่วยกัน...” “กล้าเถียงเหรอฉันบอกให้ทำก็ทำสิ!!” ควีนผลักไหล่ฉันเพราะงั้นฉันเลยไม่มีทางเลือกและต้องทำความสะอาดสนามทั้งหมด ปึก! ปึก! ปึก! “เร็วหน่อยยัยปลาเน่า!” แต่ระหว่างที่ฉันกำลังทำความสะอาดเพื่อนคนอื่นก็ปาลูกบอลหนัก ๆ ใส่ฉันไม่หยุด “ถ้าจะยังเล่นบอลงั้นนิลไปถูตรงนู้นก่อนแล้วกัน” ฉันพูดและเดินไปที่อัฒจันทร์ “หนีเหรอวะ?!” ปึก!!!เกมส์ปาลูกบาสใส่ฉันอย่างแรง “ไม่ใช่นะนิลแค่จะถูที่นี่ก่อน” ฉันขึ้นมาบนสุดของอัฒจันทร์เพื่อทำความสะอาด “อ่อเหรองั้นถูต่อไปนะ ^^” “อะอืม” ปึก!! ปึก!! ปึก!!พวกนั้นก็ปาบอลใส่มาไม่หยุดเลยฉันเจ็บไปหมดแล้ว ปึกกกก!! “ว้ายยยย!!” และลูกบอลที่ปามาอย่างแรงและหลายลูกทำให้ฉันล้มแล้วพัดตกจากอัฒจันทร์ลงมาทันที “เฮ้ยยยยย!!!” “กรี๊ดดดดดดดดด!!!” ตุบ! ตุบ! ปึก!!!!!! “เหี้ยยยย!!ตายไหมวะน่ะ?!!” เสียงร้องของทุกคนฉันได้ยินแต่ว่าไม่สามารถขยับตัวได้มันชาไปหมดและกลิ่นเลือดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ “ฮึก!!ทำไมทุกคนต้องแกล้งฉันด้วย...” ฉันพูดออกมาเสียงเบา “แม่งเอ๊ยย!!ทำไมไม่ทรงตัวดี ๆ วะ!!” “ฉันไม่อยู่แล้วฉันไม่เกี่ยวนะ!!” และบางคนก็หนีออกไปไม่ได้หันมามองฉันเลย “กลัว...พ่อจ๋า...” ฉันพยายามเอ่ยปากออกมา “โทรหารถพยายามดิ!!” เกมส์ที่พูดและมองมาทางฉันเราสบตากันก่อนฉันจะเอ่ยออกไป “ยะอยากให้ฉันตายจริง ๆ เหรอ ฉันกลัว...” ฉันพยายามยื่นมือหาใครสักคนแต่แล้วโลกก็ดับสนิท
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD