พบกันครั้งแรก NC

3394 Words
ภายในป่าเขตชายแดนของเขตหว่านเซิง เป็นเขตแดนที่กั้นระหว่างเซียนและมาร ภายใต้ความเงียบ ความมืดยามราตรีตอนนี้มีหญิงสองนางกำลังสุ่มแอบอยู่ด้านหลังพุ่มไม้ที่สูงจนสามารถให้สตรีร่างเล็กสองล่างได้แอบ ใบหน้าสวยถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำอำพรางใบหน้า ในขณะอีกคนหนึ่งก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งสองกำลังนั่งเงียบๆ รอจังหวะอยู่ รอไม่นานมากนักก็มีสตรีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับคนสองคนที่กำลังพานางออกมา ที่พวกมันทำสำเร็จเป็นเพราะขณะนี้จ้าวเสี่ยได้ถูกเรียกตัวไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ของแดนสวรรค์ทำให้เขาต้องจากไปที่ตำหนัก และนิสัยส่วนตัวของนางเอกที่วางให้เป็นคนใสซื่อเชื่อคนง่าย โดนล่อลวงจนโดนลักพาตัวได้อย่างไรละ “ปล่อยข้านะ!!” “เงียบๆ หน่าแม่นาง!” ไอคนซ้ายมันพูดขึ้นมาถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะสิ่งตอบแทนมันมากมายจนมันสามารถอยู่ได้ไปได้อีกหลายปีมันคงทำให้ผู้หญิงนางนี้เป็นเมียของมันไปแล้ว หน้าตาหวานๆ ร่างบางๆ นี่ถูกใจมันยิ่งนัก! เหม่ยฮวาที่แอบซุ่มอยู่นั้นครั้นเห็นคนที่พาออกมาน่าจะเป็นฮุ่ยหลิง แต่หน้านางกลับถูกคลุมด้วยผ้าคลุมปิดตาไว้ นางจึงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วหน้าของฮุ่ยหลิงนั้นเป็นเช่นไร แต่สิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจนางก้มลงบีบหน้าอกอันใหญ่ตูมของตัวเอง พร้อมกับพยักหน้ารับอย่างมั่นใจว่า หน้าอกนางนั้นใหญ่กว่าแม่นางเอกผู้นี้อย่างแน่นอน ชิส์ “เอาอย่างไรดีเจ้าค่ะ” ซูผิงแอบกระซิบกับคุณหนูของนาง เมื่อเห็นนางมองไปทางคุณหนูฮุ่ยหลิงพร้อมกับขยำหน้าอกตัวเองไปมา “ข้าไปเอง!” ยังไม่ทันที่ซูผินจะห้ามเจ้าตัวก็วิ่งออกไปดักทางเจ้ามารสองตัวนั่นทันที “หยุดก่อน!!” นางโดดเข้ามากลางคันพร้อมกับกางแขนออกสองข้างเพื่อบอกว่าไม่ให้พวกมันเดินผ่านไป! จุดนัดพบของเฉินฉือกับฮุ่ยหลิงคือกลางเขตแดน เธอจะไม่ยอมให้พวกมันพาฮุ่ยหลิงไปเด็ดขาด เพราะนางจะไปแทน! ส่วนซูผิงนั้นก็รีบเดินตามแม่นางของนางออกมาติด ๆ “ชะ ช่วยข้าด้วย อื้อ อื้อ” เหม่ยฮวาปรายตามองฮุ่ยหลิงเล็กน้อยที่กำลังดิ้นโดยที่พวกมันปิดปากนางไว้ “เผย! แม่นางเจ้าเป็นใคร!” “ข้าเหม่ยฮวา เป็นคนว่าจ้างเจ้าทั้งสองเอง แต่หากข้าเปลี่ยนใจแล้วพวกเจ้าสองคนจงเอาข้าไปแทนเถิด!” พวกมันสองคนมองคนตรงหน้าอย่างฉงน พลางมองสตรีมาใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า นางใส่ชุดฮั่นฟูสีขาวขาดกับผ้าสีแดงรวดลายปักสวยงามประณีตรอบตัวนางดูสุกสว่างราวกับเทพเซียน แต่กลิ่นนางช่างยั่วยวนราวกับน้ำดอกไม้ที่ล่อลวงให้เหล่าแมลงบินเข้าไปดอมดม! พวกมันชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าด้วยความลุ่มหลง “ท่านอย่ามาหลอกข้าเสียให้ยากเลย ท่านหญิงเหม่ยฮวาเป็นคนกำชับข้ามาอย่างดี และพวกเราทั้งเซียนและเหล่ามารทั่วทั้งยุทธภพรับรู้โดยทั่วกันว่านางชิงชังแม่นางฮุ่ยหลิงอย่างมาก คำของท่านมันเชื่อได้แน่หรือ” “ข้ายืนยันอย่างที่พูด หากพวกเจ้าไม่เชื่อ” นางพูดพร้อมกับเผยใบหน้าใต้ผ้าคลุมออกมา หน้าสวยราวเทพเซียน ดวงตาฉายแววซุกซนทำให้พวกมันตกอยู่ในภวังค์ กลิ่นกายของนางยามจ้องมองดวงตานั้นยิ่งปลุกเร้าอารมณ์พวกมันมากนัก! “ขะ ข้าคือเหม่ยฮวาตัวจริงนะ!” นางใจดีสู้เสือพยายามยืดอกพูดไม่สนใจสายตาแทะโลมของพวกมัน หารู้ไม่ว่าท่าทางของนางที่ยืดอกพูดอย่างมั่นใจนั่นทำให้หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวของนางนั้นกระเด้งตามแรงสั่นไหว พวกมันเหมือนสติขาดพึงทันที! แม้สตรีที่อยู่ในมือพวกมันจะงดงามเช่นกัน แต่สตรีตรงหน้านี้กลับงดงามกว่ามากรวมถึงมีความยั่วยวนบางอย่างที่ไม่อาจทำให้พวกมันต้านทานได้ พวกมันเชื่อแล้วว่านางคือ เหม่ยฮวาตัวจริง เพราะสีดวงตาเป็นตัวบ่งบอกสถานะของนางได้อย่างดี มันผลักฮุ่ยหลิงออกไปก่อนจะกระโจนมาตระครุบร่างเหม่ยฮวาทันที “กรี๊ดดดดดดด” “คุณหนู!” ซูผิงพยายามเข้ามาปกป้องผู้เป็นนาย “กรี๊ดดดดดดด” ทั้งเสียงของสองสตรีร้องขึ้นมาพร้อมกัน แต่หากคนละเรื่อง! เหม่ยฮวากรี๊ดเพราะไอสองตัวนั่นมันพยายามจะกระโจนเข้าหานาง นางโดดเด้งออกมาจากตรงนั้นทันที ในขณะที่แม่นางเอกนั่นแค่โดนผลักก้นจ้ำเบ้า! เว้ยยยย คนซวยมันคือนางนะ คนสวยงง!! พรึบ!! ตุ้บ!! เพราะนางโดดถอยหนีเร็วเกินไปทำให้นางนั้นสะดุดจนล้มลงไป ไอสองตัวนั้นกำลังจะเข้ามาใกล้นางทุกทีนางมองซ้ายขวาเลิ่กลัก โผละ! เสียงเหมือนอะไรสักอย่างระเบิดออก ตรงหน้านางคือร่างของคนที่เหลือเพียงครึ่งท่อนแต่ส่วนตัวและหัวนั้นได้ระเบิดเละไปแล้ว นางนิ่งตาค้างมองภาพตรงหน้าอย่างหวาดกลัวจนลืมแม้กระทั่งเสียงของตัวเอง ในขณะนั้นเองที่มีร่างเงาสีดำร่างหนึ่งพุ่งผ่านหน้านางไปอย่างรวดเร็ว บุรุษผู้นั้นสวมชุดคลุมสีดำทับแดงปักลวดลายประหลาดแต่ดูสง่าที่เด่นเลยคือลายปักมังกรขาดตรงชายเสื้อบ่งบอกถึงยศของคนๆ ผู้นี้ ผมสีดำยาวถูกมัดไว้ครึ่งหนึ่งกลางศรีษะ สาบเสื้อแหวกออกมากกว่าครึ่งจนเห็นแผงมัดกล้าม รอยแผลตามตัวบ่งบอกถึงสิ่งที่เจ้าของรอยแผลเผชิญมา แต่นั่นมันกลับยิ่งทำให้เขาดูแบด ดูกร้าวใจมาก!! ดวงตาสีเทาคู่สวยตวัดสายตามามองที่นาง ใบหน้าคมคายราวกับปติมากรรมภาพแกะสลัก ชั่วขณะนั้นเหมือนทุกอย่างเงียบสงัด ภาพสยองตรงหน้าไม่อาจจะทำให้นางละสายตาจากบุรุษเบื้องหน้าได้ นั่น นั่นเขาใช่ไหม เฉินฉือ! ฟิลผัวมากแม่ กว่านางจะคลำหาเสียงตัวเองเจอ ก็พบว่าเฉินฉือละสายตาจากนางไปแล้วเดินตรงไปที่ร่างบางที่กำลังสั่นหงกๆ อยู่ที่พื้น เฉินฉือเดินไปถึงก่อนจะดึงผ้าคลุมนางออก ดวงหน้าหวานๆ แต่ดูจืดชืดนั่นกำลังสั่นเหมือนกระต่ายตัวน้อย ดวงตามีน้ำตาคลอไม่ขาดสาย นางเบะปากมองบนกับพร้อมตรงหน้าพร้อมกับคิดในใจอย่างอดไม่ได้ว่า สำออยมากค่ะ! “ฮุ่ยหลิง” เสียงนุ่มทุ้มถูกเอ่ยออกมาจากเฉืนฉือ กรี๊ดดด แค่เสียงก็กระชากใจแล้ว ไม่นะไม่น้า เหม่ยฮวาทำเพียงกัดปากไปมาสะกดกั้นความตื่นเต้นที่ได้เจอพระรองในดวงใจ โคตรหล่อเลยอ้ะ “ท ท่านเป็นใครเจ้าคะ” “กลับกันเถิด” “ท่านจะพาข้าไปที่ใดเจ้าคะ” “ที่หุบเขาของข้า” “ม ไม่” ไม่รอให้ฮุ่ยหลิงเอ่ยอะไรอีก เขาก็ทำอะไรสักอย่างอยู่ๆ นางก็สลบไป ก่อนจะอุ้มแม่นางเอกขึ้นมา ทำเหมือนกับว่านางบาดเจ็บหนักมากจนเดินเองไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น นางเห็นดังนั้นรีบทักท้วงขึ้นมาทันทีเหมือนพวกเขาจะลืมนะว่ามีข้าอยู่ตรงนี้หนะ! ซูผิงที่เพิ่งหายตกใจรีบวิ่งเข้ามาดูนางทันที “เดี่ยวก่อน!! เฉินฉือ! ท่านจะทิ้งข้าไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ” ร่างสูงชะงักฝีเท้าทันทีก่อนจะหันมามองนางที่นั่งอยู่กับพื้น คราแรกนั้นที่เขายอมรับข้อเสนอของเหม่ยฮวาเพราะเขาต้องการจะเอาชนะจ้าวเซี่ยเพียงเท่านั้นการที่เขาชิงตัวคนรักของมันมาได้ทำให้เขาได้เปรียบ เขาแปลกใจมิใช่น้อยที่เห็นนางมาโผล่ที่นี้และยังบอกว่าให้พาตัวนางมาแทน จากที่รับรู้มานางนั้นทั้งร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก และอีกหลายเสียงที่บอกกันว่านางนั้นงดงามอย่างมาก ไม่คิดเลยว่านางจะงดงามถึงเพียงนื้ ที่จริงแล้วเขามาถึงตั้งแต่ที่นางแอบอยู่หลังพุ่มไม้นั่นแล้ว หากแต่เขาไม่รู้ว่านางผู้นี้มีแผนอะไรและเป็นใครเขาจึงไม่ได้บุ่มบ่ามออกมา จนนางนั้นกระโดดเข้ามาขัดขวางและบอกว่านางนั้นคือเหม่ยฮวา เขาเป็นคนที่ไวต่อกลิ่นเป็นอย่างมาก กลิ่นเหม่ยฮวานั้นต่างจากกลิ่นของฮุ่ยหลิงโดยสิ้นเชิง ฮุ่ยหลิงนั้นแค่ให้ความรู้สึกสบายเท่านั้น แต่ยามที่เขามองนางและได้กลิ่นนางนั้นมันทำให้เขารู้สึกร้อนลุ่มแปลกๆ และกลิ่นกายของนางนั่นหอมหวานทำให้เขาแทบคลั่ง แต่เพราะฝึกตบะมามากจึงไม่เป็นดังเช่นไอพวกกระจอกสองตัวนั่น ทันทีที่พวกมันสองตัวจะกระโจนเข้ามาถึงตัวเหม่ยฮวา เขาก็พุ่งตัวออกมาและฆ่าพวกมันทันทีโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป เขาแปลกใจมากที่นางรู้จักเขาปกติเขาไม่เคยจะโผล่หน้าไปไหนมาไหนน้อยมากนักที่จะมีคนรู้จักหน้าตาของเขา “เจ้ารู้จักข้า” “ข ข้ามีประโยชน์มากกว่านะเจ้าคะ” เหม่ยฮวาพูดด้วยความมั่นใจ กร่อนจะปลายตามองสองมือที่กำลังอุ้มฮุ่ยหลิงอยู่ ปล่อยสักทีสิเว้ยย ในใจนางร่ำร้องอย่างหนัก “ข้าเห็นว่าเจ้าไม่มี” เสียงเย็นพูดก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินจากไป ฟึ่บ นางวิ่งมาเกาะแขนเขาไว้ทันที นางช้อนสายตามองฮุ่ยหลิงเล็กน้อยอย่างขัดใจ เขาเห็นดังนั้นก็แอบกระตุกยิ้มเล็กน้อย “แต่ข้ามี มีมากกว่านางนะ!” เหม่ยฮวาส่งเสียงอย่างขัดใจ คนที่ต้องโดนอุ้มต้องเป็นข้าสิ ข้าอยากโดนเขาอุ้มง้า ข้าก็เจ็บขานะ นางทำได้เพียงร้องภายในใจกลั้นใจพาร่างที่เจ็บขามาหาเขาก่อนที่เขาจะไป “หืม” เขาเลิกคิ้วมองมาทางนาง “ขะข้า ทำอาหารเป็น ดูแลเทคแคร์ดีที่หนึ่ง ศาตร์ทั้ง 4 รำ ร้อง เต้น ดนตรี ข้าทำเป็นทุกอย่าง ละ แล้วข้าก็อึ๋มมาก!!” นางพูดก่อนจะบีบนมตัวเองขึ้นมา ทำให้ใบหน้าของเฉินฉือหน้าขึ้นสือรือทันที สตรีหน้าไม่อาย! “เอาข้าไปด้วยนะ น้า นะ” นางพูดพร้อมส่งสายตาออดอ้อนที่คิดว่าน่ารักที่สุดไปให้เฉินฉือ พร้อมกับเบียดทั้งสองเต้าเข้ากับแขนแกร่งของเขา หน้าเขาเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง นางคิดจะล่อลวงเขางั้นรึ! ฟึบ! “พาตัวนางไป” เขาเพียงก้มหน้าลงเล็กน้อย ก็ประกฏเงาด้านหลังของเขาเขาส่งตัวแม่นางฮุ่ยหลิงให้กับเงานั่น เงานั่นรับร่างของฮุ่ยหลิงไปก่อนจะโค้งคำนับเขาอย่างนอบน้อมแล้วหายไปทันที มันน่ากลัวยิ่งนัก ! หากนางจะตายเพราะคนตรงหน้านี้นางคงตายโดยที่ไม่รู้ตัวแน่ๆ เมื่อร่างเงานั่นหายไปจากสายตาแล้ว เฉินฉือก็หันมาทางสตรีข้างกายที่กำลังบดซาลาเปาสองลูกนั่นกับแขนของเขา และเขาก็นึกแปลกใจตัวเองนักที่ไม่ผลักไสนางออกไป “ทำไมเจ้าถึงอยากมากับข้า ไม่ใช่ว่าเจ้ามีใจให้กับจ้าวเซี่ยไม่ใช่หรือ” “ข้าไม่อยากแล้ว ข้าอยากอยู่กับท่าน” เฉินฉือใจกระตุกกับคำพูดของนาง “เจ้ากำลังล่อลวงข้า คิดจะเข้าเป็นไส้ศึกให้คนรักเจ้างั้นรึ!!” เฉินฉือพูดพร้อมกับบีบหน้านางอย่างแรก โอ้ยนางเจ็บนะ! “ข ข้าไม่ได้รักจ้าวเซี่ย!” “แต่ข้าก็ไม่เห็นถึงเหตุผลที่เจ้าจะมาอยู่กับข้าสักนิด!!” มือหน้าพูดพร้อมกับเพิ่มแรงบีบจนใบหน้าเล็กนั้นน้ำตาเริ่มเล็ดออกมา โอ้ยยทำไมผัวกูโหดขนาดนี้วะ! “ข้าแค่อยากอยู่กับท่าน!” “หึ” “อื้อ!” ซูผิงรีบหันหลังให้กับภาพเบื้องหน้าทันทีพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ เขากระชากร่างนิ่มมาใกล้ก่อนจะบดจูบนางอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนพยายามสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวาน เหม่ยฮวาที่ตกใจกับจูบที่กระทันหันทำให้เผลอเผยอปากออกมาทำให้ลิ้นร้อนนั้นเข้าปากตักตวงของหวานข้างในของนางได้อย่างง่ายดาย เหม่ยฮวาตัวอ่อนระทวยกับสัมผัสดุดันของเขา แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดแน่นก่อนจะบดจูบลงไปมากยิ่งขึ้น ริ้นพลันวนไปมาหาความหวาน ยิ่งคนตรงหน้าตอบสนองอย่างเงอะงะยิ่งทำให้เขาพอใจ เหม่ยฮวาใจเต้นจนเหมือนจะระเบิด ทันทีที่ร่างแกร่งดันนางเข้าพิงเข้ากับต้นไม้ก่อนจะบดจูบลงมาลึกอีกครั้ง มือข้างหนึ่งกระชับอ้อมกอดไว้ก่อนที่มืออีกข้างจะกระตุกปมเสื้อของนางออก เมื่อผ้าคลายมือหนาก็ล้วงหายเข้าไปใต้เสื้อ ก่อนจะสัมผัสกับหน้าอกนุ่มนิ่มอย่างถือวิสาสะ “อ้ะ อื้อ” “อืมม” เสียงทุ้มครางในลำคอ เขาบีบคลึงหน้าอกของนางจนปริ้นออกมาตามร่องนิ้ว นางพยายามดันเขาออกเพราะซูผิงก็อยู่ตรงนี้ด้วย แต่เหมือนคนตรงหน้านี้จะสติเลือนหายไปเสียแล้ว เขาปลดเสื้อนางออกจนท่อนบนเปลือยเปล่า เขามองสัดส่วนที่น่าหลงใหลตรงหน้า หน้าอกของนางนั้นขาวผ่องและใหญ่เกินตัวของนางจริงๆ ผิวขาวนวลเป็นน้ำนมของนางทำให้เขาอย่างจะขย้ำให้นางเป็นรอยและเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว “อ้ะ อื้อ เฉินฉือ” เหม่ยฮวารู้สึกสะท้านกับสัมผัสแปลกใหม่ตรงหน้า เมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาขบเม้มซอกคอขาวๆ ของนางจนเป็นรอยแดง ก่อนจะไล่ลองเลียรอบเต้านมของนาง เขาลอกลิ้นร้อนวนรอบยอดเผ่าถิงของนาง นางรู้สึกเสียวซ่านจนขยุ้มศรีษะของเขาไปมาด้วยความรัญจวน “อ้ะ อ๊า” เขาฉกปลายยอดเผ่าถิงไว้ในครอบครอง ลิ้นร้อนทั้งดูดและดึงขบเม้มจนน้ำลายนั้นเปียกชื้นก้อนเนื้อไปทั้งสองข้าง ปลายนิ้วสัมผัสกับหัวนมของนางพร้อมกับเขี่ยไปมา เขาทั้งดูดและเลียจนเกิดเสียงดังน่าอาย ร่างหนาดันร่างบางให้นอนราบไปกับพื้นหญ้า เขาถอดเสื้อผ้าของนางจนหมด “ตัวเจ้าหอมนัก” เหม่ยฮวาไม่อาจจะตอบอะไรได้เพราะนางกำลังเสียวจนพูดอะไรไม่ออก เขาพูดเสียงสั่นเครือก่อนจะลากลิ้นร้อนไปตามท้องเรียบเนียนของนาง เขาจับขาของนางแยกออก “อ อย่าเพิ่ง ไม่ อื้อ” เหม่ยฮวาพยายามเรียกสติทั้งกับเขาและกับตัวเธอเอง! “อืมม” นางกระตุกวูบทันทีที่ลิ้นของเขาสัมผัสกับจุดอ่อนไหวของนาง นางรู้สึกเกร็งและเสียวไปหมดยามที่เขาแทรกลิ้นเข้ามาภายในร่างกายของนางพร้อมกับแยงเข้าแยงออกไปมา นางเสียวจนกระเด้งก้นพยายามหลบหนีลิ้นร้ายกาจของเขาแต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งบดเข้าไปกับริมฝีปากของเขา “อ้าขะ ข้าไม่ไหวแล้ว อื้อ” เฉินฉือได้ยินอย่างนั้นยิ่งตวัดลิ้นไปมาเร็วและรุนแรงจนเกิดเสียงเลียดังขึ้นมาอย่างหน้าอาย ร่างบางพยายามกลั้นเสียงพร้อมกับมืออีกข้างจิกไหล่หนาของเขาเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนนางจะกระตุกสองสามทีพร้อมกับน้ำหวานที่เอ่อทะลักออกมาไม่รอช้าร่างสูงเลียกลืนกินน้ำหวานนั่นทุกหยดราวกับของหวานอันโอชะ นี่ข้ากำลังทำสิ่งนี้กับเขาในป่าหรือนี่ และนี่ก็เป็นการพบกันครั้งแรกนะ! มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ นางมองภาพเฉินฉือที่ส่งสายตาเร้าร้อนมาให้และก่อนที่จะเลยเถิดไปกว่านี้ พลัก! นางใช้จังหวะนี้ถีบเข้าไปเต็มอก “เจ้า!!” เขาตะโกนใส่นางอย่างเดือดดาล ไม่เคยมีใครทำกับเขาเช่นนี้! นางกล้าดียังไง ถ้าหากเป็นผู้อื่นเขาคงฆ่าให้ตายไปแล้ว “ท ท่านจะทำอะไร ข้ายังมิได้ออกเรือนเลยนะ!” นางพูดทั้งๆ ที่ใจยังคงเต้นโครมครามกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงเรื่อ อร๊ายยย นางคิดจะเกี้ยวเขาแต่ถูกเขากินก่อนซะนี่! “หึ เจ้าบอกอยากอยู่กับข้ามิใช่รึ ข้านึกว่าเจ้าหมายถึงสิ่งนี้” “ท่าน!! ข้าไม่ใช่คนมักง่ายนะเจ้าคะ” ถึงจะอยากถวายตัวและหัวใจให้ซะเดี๊ยวนี้ตอนนี้ก็เถอะ แต่มันยังไม่ได้มันต้องได้ใจเจ้ามาก่อนสิ เจ้าหน้าตายเอ้ย “จิ๊ อย่าพูดมาก” เขาพูดสีหน้าขัดใจ เฉินฉืออารมณ์เสียไม่น้อยที่โดนสตรีตัวเล็กๆ ถีบเอาได้! ใครได้ยินเข้าเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เขาขยับตัวเข้าไปใกล้นางพร้อมกับกระชากนางมาเพื่อจะทำสิ่งที่ทำเมื่อสักครู่ให้เสร็จ เพราะตอนนี้เขาปวดหนึบที่แก่นกายอย่างมาก ถ้าหากไม่ได้ปลดปล่อยเขาคงเป็นบ้าตายแน่ “ไม่! ท่านรักข้าหรือเจ้าคะ!” นางที่พยายามหาคำพูดมาหยุดเขาก็คิดออกแต่เพียงสิ่งนี้ เขาชะงักไปกับคำพูดของนาง “ไม่ข้าไม่ได้รัก” จึก โอ้ยเจ็บจี๊ด “เช่นนั้น ข้าก็ไม่ยินดีทำเจ้าค่ะ ข้าไม่นิยมร่วมรักกับคนที่ไม่ได้รักข้าเจ้าค่ะ!” “เจ้าจะบอกว่า หากคนๆ นั้นรักเจ้าเจ้าก็จะยินยอมให้ทุกคนอย่างงั้นรึ” “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าต้องรักเขาด้วย” “แล้วเหตุใดเจ้าถึงถามเพียงว่า ข้ารักเจ้าหรือ” เขาเปรยตามองด้วยความสงสัย นางเงียบนิ่งไปสักพักก่อนจะหลับตากลั้นใจพูดความในใจออกไป “ก็ข้าชอบท่านอย่างไรละเจ้าคะ” นางพูดพร้อมกับมองเขาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมากอีกครั้งไม่มีใครสักคนที่บอกชอบเขาโจ่งแจ้งอย่างที่นางทำ สตรีน่าไม่อาย และนี่เป็นครั้งแรกที่เจอกัน นางจะมาบอกชอบเขามันน่าสงสัยเกินไปหรือไม่ เหม่ยฮวาเมื่อเห็นเขาคิ้วขมวดมุ่นก็จิ้มไปอย่างเบามือคล้างหยอกเย้าตรงระหว่างคิ้วของเขาก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เบาหน้าคมคายพร้อมกับยิ้มหวาน “ข้าชอบท่านจริงๆ นะเจ้าคะ” “เจ้าพูดจาเพ้อเจ้อยิ่งนัก” เขาผลักหน้านางออกไปให้ไกลพร้อมหันหน้าหนี นางสังเกตเห็นหูที่แดงระเรื่อของเขาก่อนที่นางจะหัวเรอะคิกคักพลางเดินหายไปหลังต้นไม้ต้นหนึ่งเพื่อใส่อาภรของตนเอง เขาลอบมองใบหน้านางที่ยิ้มสดใสราวกับเด็กน้อยนั่นก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะไม่มีใครบอกชอบเขามาเนิ่นนานแล้วตั้งแต่แม่เขาจากไป มีแต่คนเกรงกลัวและด่าว่าเขาเป็นปิศาจร้ายฆาตรกร นางเดินกลับมาก่อนจะเอ่ยเสียงใส เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยนักเพราะนางใส่ไม่เป็น จึงแค่สวมทับๆกันไปมาก็พอแล้ว ละมั้ง “ให้ข้าไปกับท่านนะเจ้าคะ น้า” นางพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนเขาอีกครั้ง แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้เขามากเหมือนตอนแรกเพราะกลับจะถูกเขาจะจับกิน! ด้านเฉินฉือเห็นนางส่งสายตาออดอ้อนก็นึกใจอ่อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจึงพยักหน้ารับอย่างช้าๆ ฟอดดด “เย้เย้ ท่านใจดีที่สุด” เฉินฉือตกใจเมื่อจู่ๆ ร่างเล็กก็โดดเข้ามาหอมแก้มเขา ก่อนที่เหม่ยฮวาจะลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นพร้อมกับมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้นิ่งเป็นหินไปแล้ว ทั้งๆที่เมื่อกี้เขากับนางแทบจะรวมร่างกันอยู่แล้วแต่กลับมาเขินเพราะเรื่องแค่นี้หรือนี่ น่ารักจริงๆ อิอิ มาถึงขนาดนี้แล้วนางขอตักตวงความสุขก่อนแล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD