บทที่ 3_3 ข่าวกิ๊กกั๊ก

1143 Words
“นี่ๆ แม่รัญ ป้าได้ข่าวว่าตาหมานลอกบ่ออีกแล้วเหรอ แต่แปลกที่คราวนี้ตาหมานไม่เอาปลามาฝากป้าเลย บ้านแม่รัญได้บ้างไหม” ไม่ทันไร เสียงป้าเจ้าของแผงผักสดก็เอ่ยเรียกชื่อเธอ หิรัญญิการ์หันไปยิ้มหวาน เหมือนก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าอะไรแกในใจเลย “ได้มานิดหน่อยจ้ะป้าน้อย สงสัยลอกบ่อรอบนี้ ปลาในบ่อคงน้อยละมั้งจ๊ะ” ป้าน้อยบึนปากคล้ายไม่พอใจที่ไม่ได้ปลาฟรี มือก็ยกบัวรดน้ำเล็กๆ รดผักไปด้วย “ไม่ใช่ตาหมานรำคาญปากแกรึ ถึงได้ไม่เอาปลามาฝากแกน่ะนางน้อย” แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงแจ๋นๆ ของแม่ค้าแผงเนื้อสดที่มีขายทั้งหมู เนื้อ ไก่ รวมถึงอาหารทะเลด้วยดังแทรก หลังจากนั้นเวทีปะทะฝีปากของเจ้าของแผงผัก และแผงเนื้อสดที่อยู่ข้างๆ กันก็เริ่มอีกครั้ง หญิงสาวมองแล้วขำ เห็นภาพนี้จนชินตาเสียแล้ว “แตงโมปั่นได้แล้วจ้า” เสียงหวานของเพื่อนสาวเอ่ยเรียกให้เธอหันหน้ากลับมาสนใจร้านน้ำผลไม้ปั่นได้อีกครั้ง หิรัญญิการ์ยื่นมือไปรับแก้วน้ำแตงโมปั่นมาดูด ขณะที่สายตามองไปข้างนอกตลาด ต้องหยุดสายตาที่ใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาทำให้เธอต้องหรี่ตา “เฮ้ยรัญ พี่ไม่นึกว่าจะเจอที่นี่ด้วย” ชายหนุ่มในเครื่องแบบทหารลายพราง ยิ้มหน้าบาน เดินตรงมาทางรุ่นน้อง ดวงตากลมโตฉายแววนิ่งสงบคล้ายคลื่นใต้น้ำ ใบหน้าไม่แสดงว่ายินดียินร้ายกับการมาของเพื่อนรุ่นพี่ พอร่างสูงใหญ่เดินมาในรัศมีที่พอจะเหวี่ยงขาไปข้างหน้าได้ ก็จัดการลงมือทันที “นี่แน่ะ!” “โอ๊ย!” ปราบดาร้องลั่นตลาด ยกขาข้างที่ถูกสาวรุ่นน้องเตะเข้ามาที่หน้าแข้งจังๆ ขึ้นมากุมไว้ด้วยสองมือ พร้อมกับกระโดดโหยงๆ เป็นกระต่ายขาเดียว “ทำอะไรเนี่ยรัญ มันเจ็บนะโว้ย” หิรัญญิการ์เชิดหน้า ยกมือกอดอกไม่มีท่าทีสำนึกผิด “สมน้ำหน้าน่ะสิ” ตาหวานเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น รีบวิ่งอ้อมแผงมาดึงเพื่อนไว้ราวกับกลัวว่าเพื่อนจะประทุษร้ายพี่ชายตัวเอง “มีอะไรกันหรือเปล่ารัญ” หญิงสาวตวัดสายตามองผู้หมวดหนุ่มด้วยสายตาเคืองๆ พลางเอ่ยกับเพื่อน “หมวดทิ้งเรา เรานะอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนตั้งนานสองนาน” “ทิ้ง?” ตาหวานที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานจึงขมวดคิ้วกับประโยคที่ไม่ได้ไขความกระจ่างให้เธอเลย ทว่าคนที่เป็นฝ่ายทิ้งนั้นกลับรู้ตัวดี ได้แต่ยิ้มเจื่อน ส่งสายตาขอโทษขอโพยรุ่นน้องสาว หิรัญญิการ์สะบัดหน้าหนี ยังไงก็ไม่ยอมยกโทษให้ร้อยโทปราบดาง่ายๆ รีบเอ่ยฟ้องน้องสาวของเขาแทน “เมื่อวานหมวดมาหาพี่รสที่โรงพยาบาล แต่พี่รสออกไปกินข้าวข้างนอก เรานะอุตส่าห์เป็นห่วงพี่ชายเธอ เลยนั่งรอเป็นเพื่อนจนมืดค่ำ แต่พอหมวดเห็นพี่รสมากับหมอคนใหม่ก็งอนพี่รสแล้วทิ้งเราไว้ที่โรงพยาบาล ปล่อยเรารับชะตากรรมกับพี่รสคนเดียว เมื่อเช้าเราก็เกือบจะถูกลุงผู้ใหญ่เอาไม้หวายฟาด ดีที่ป้ามาช่วยไว้ทัน” เสียงหวานร่ายยาวไม่หยุดพัก ตาหวานได้ยินดังนั้นจึงมองพี่ชายที่ทำกับเพื่อนสาวของเธออย่างไม่พอใจนัก แต่ไม่กล้าต่อว่าพี่ชายตัวเองหรอก ร้อยโทปราบดารู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้รุ่นน้องสาวเกือบโดนที่บ้านทำโทษแล้วยิ่งรู้สึกผิด เดินเข้ามาหยุดยืนใกล้หญิงสาวอีกนิด คว้ามือเล็กมาจับไว้ สายตาสำนึกผิดสุดๆ “พี่ขอโทษนะรัญ เมื่อวานพี่รู้สึกไม่พอใจไอ้หมอนั่นมากๆ ถ้าขืนยังอยู่ตรงนั้นต่อ พี่กลัวว่าตัวเองจะระงับอารมณ์ไม่ได้ มามีเรื่องกับหมอในโรงพยาบาล เลยหนีออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งรัญเลยนะ” เขาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองจำเป็นต้องออกจากตรงนั้น จนลืมรุ่นน้องที่อุตส่าห์มีน้ำใจอยู่เป็นเพื่อน หิรัญญิการ์ยังคงเงียบ ดูท่าแล้วว่าเธอจะไม่ยอมหายงอนง่ายๆ จึงส่งสายตาบอกน้องสาวเป็นนัยๆ ให้ช่วยเหลือ แต่น้องสาวกลับส่ายหน้า “งั้นเอาอย่างนี้ เงินเดือนพี่ออก รัญอยากกินอะไรพี่จะพารัญไปเลี้ยง เพื่อเป็นการไถ่โทษความผิดเรื่องเมื่อวาน” หิรัญญิการ์ลอบยิ้ม ดวงตากลมโตลุกวาวสุกสกาวระยิบ แต่ยังปั้นหน้าราบเรียบ ปรายหางตาไปที่เพื่อนรุ่นพี่ “หมวดพูดแล้วนะ” “จริงสิ พี่พูดคำไหนคำนั้น รัญก็รู้” ร้อยโทปราบดาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คำยืนยันของผู้หมวดหนุ่มทำให้หิรัญญิการ์ยิ้มกริ่มออกมาได้ในที่สุด เธอหันมาจับมือกับเพื่อนสาว “ไปด้วยกันนะตาหวาน เราไปถลุงเงินเดือนหมวดให้เรียบเลย” “อืม” ตาหวานพยักหน้ายิ้มๆ พอหันมาเห็นหน้าซีดๆ ของพี่ชายแล้วต้องหัวเราะอย่างชอบใจ “ว้ายยยย! ข่าวใหม่ ข่าวใหญ่ ข่าวดังมาแล้ววว” เสียงแหลมๆ อันคุ้นหูของคนในตลาด เสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากเจ๊บันนี่ หิรัญญิการ์ ตาหวานและปราบดาหันไปมองผู้ชายวัยประมาณสี่สิบต้นๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด วิ่งสะดีดสะดิ้งเข้ามาหยุดยืนระหว่างแผงสองป้าขาเมาท์ “อะไรของแกนังบันนี่ ร้องลั่นตลาดเหมือนหมูโดนเชือดอย่างนั้นแหละ” ป้าอ้อย เจ้าของแผงเนื้อสดเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก เจ๊บันนี่เบะปาก กลอกตามองบน “แหม ไอ้ที่พูดออกมาอยู่เนี่ย เขาเรียกปากเหรอพี่อ้อย” แขวะมาแขวะกลับไม่โกงกัน “เอ๊ะนังนี่” ป้าอ้อยมีอาการไม่พอใจ “พอๆ มัวแต่ตีกันอยู่นั่น ฉันจะได้รู้ไหมว่าไอ้ที่แกแหกปากลั่นตลาดมาแต่ไกลมันเรื่องอะไร” ป้าน้อยเป็นคนห้ามทัพ เจ๊บันนี่ทำท่าทางอิดออด แต่เพราะคันปากยิบๆ ก็เลยยอมเล่า “ก็จะไม่ให้ฉันตกใจได้ไงล่ะ เมื่อกี้ฉันไปเข้าห้องน้ำหลังตลาดมา ตอนเดินกลับเห็นหมอรสกับหมอคนใหม่ ฉันเห็นคนในโรงพยาบาลนินทากันว่าทั้งสองคนน่าจะกำลังกิ๊กกั๊กกันอยู่ นี่นะเดินคุยมาด้วยกัน กระหนุงกระหนิงเลยละ อยู่ตรงตลาดฝั่งโน้น” ชี้นิ้วไปยังทิศทางที่เพิ่งเห็นทั้งสองคนเดินผ่าน คนทั้งสามที่ยืนอยู่หน้าร้านน้ำผลไม้ปั่นได้แต่ประสานสายตากันตาปริบๆ กับข่าวเมาท์ใหม่ของตลาดที่เพิ่งมารู้พร้อมๆ กัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD