เช้าวันต่อมา....
ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับอยู่ในอ้อมกอดของคนข้างๆ เมื่อคืนเราตกลงกันไว้แล้วว่าเขาจะเรียนรู้คำว่ารักพร้อมกับฉัน และเมื่อเราสองคนมั่นใจในกันและกันแล้วถึงเวลานั้นมันก็ไม่ยากที่จะตกลงกันเรื่องในอนาคต
"ตื่นแล้วเหรอ"
ฉันเงยหน้ามองเขาก่อนจะยิ้มกว้าง ตื่นนอนเช้ามากเลยฉันว่าฉันตื่นเช้าแล้วนะ
"ตื่นไวจังค่ะ"
"เป็นชายชาติทหาร ตื่นสายไม่ทันรบ เพราะฉะนั้นฝึกไว้ให้ชิน"
"จะไปรบกับใครคะ"
"พวกที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับทางการ พวกเขาพยายามแยกที่อยู่กับพวกเราดาว Karius ทั้งๆที่พวกเขากับเราเป็นคนบนดาวเดียวกันแต่พวกเขากลับไม่ยอมรับแถมยังชักชวนคนที่ทำตามกฎระเบียบมาแหกกฎอีก"
นึกว่ามีแต่ในโลกของฉันแต่ใครจะคิดว่าที่ดาว Karius จะมีแบบนี้ด้วย ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่จะมีคนต่อต้ายอำนาจของทางการ เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทหารเท่านั้น ทั้งๆที่เราสามารถปรับเปลี่ยนระบอบการปกครองของดาวดวงนี้ให้เป็นประชาธิปไตยได้
"เพราะพวกเขาไม่ชอบระบอบเผด็จการแบบที่เป็นอยู่ พวกเขาแต่ต้องการสิทธิเสรีภาพและมีเสียงในการร่วมออกความเห็นเท่านั้น"
"ไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นยังไง แต่ดาวเราก็ไม่ได้บังคับให้ใครต้องมาทำตามที่เราสั่งซะหน่อย"
เขายังไม่เข้าใจในคำว่าประชาธิปไตยกับเผด็จการเลยแล้วฉันจะอธิบายอย่างไรดี
"แต่ก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องอะไรได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเลยค่ะ ความเท่าเทียมของมนุษย์ก็ถือว่าบังคับแล้ว ใครเป็นคนคิดว่าผู้หญิงจะต้องทำตามที่ผู้ชายสั่งเท่านั้น ใครนิยามว่าการเดินไปคุยไปถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้มารยาท การที่ผู้หญิงอยากจะเป็นนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ หรือเป็นหมอใครเป็นคนตั้งกฎมาว่าผู้หญิงไม่สามารถที่จะทำได้"
ฉันร่ายยาวออกมาจนเหนื่อย บางทีการที่ทุกคนคิดว่านั้นมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือเป็นกฎนั้นแหละทุกคนกำลังละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆอยู่
"มันเป็นกฎที่ปฎิบัติมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น มีมาตั้งร้อยพันปีก่อนแล้ว เราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนตั้งกฎแบบนี้แต่พวกเราคนของดาวKarius มีหน้าที่ต้องทำตาม"
"นั้นแหละค่ะคุณไบรอันเขาเรียกว่าเผด็จการ เหมือนจะให้อิสระแก่ทุกคนแต่ไม่ใช่ค่ะ สุดท้ายก็ยังบังคับอยู่ดี เกรซบอกเลยนะคะว่าสงครามกับคนและคนไม่มีทางจบถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่ยอมรับฟังอีกฝ่าย คุณไบรอันก็เตรียมสู้รบกับคนบนดาวเดียวกันได้เลยค่ะ นองเลือดชัวร์ๆ"
ฉันเอ่ยออกไปก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน เขาคงปวดแขนมากพอควรเพราะเมื่อคืนเขาให้ฉันนอนหนุนไหล่เขาทั้งคืนเขาคือสุภาพบุรุษมากเลยเขารับปากว่าจะไม่ล่วงเกินฉันถ้ายังไม่ได้แต่งงานกันและเขาก็ทำได้อย่างที่พูดจริงๆ
"เกรซคิดว่าจะมีคนต่อต้านทางการมากขึ้นเรื่อยๆ เหรอ ผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไว้แน่ๆ เรากลัวว่ามันจะมีการนองเลือด"
"ถ้าทางการยอมรับฟังประชาชนมากขึ้นว่าพวกเขาต้องการอะไร บางทีการสงบศึกโดยการเจรจาก็เป็นผลดีต่อทางการนะ อย่างน้อยพวกเขายังศรัทธาในการแก้ปัญหามากกว่าใช้กำลัง จริงมั้ยคะ"
"งั้นฉันจะลองไปคุยกับผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดดู แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจในความหมายซักเท่าไหร่ เช่นคำว่าเผด็จการ ประชาธิปไตยอะไรนั้นอ่ะ ไว้จะมาถามนะ"
"ได้เสมอค่ะเกรซว่างตอบทั้งวัน"
ฉันส่งยิ้มให้แก่เขาบางๆ การแก้ปัญหาที่ใช้ความรุนแรงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ ยิ่งกฎของดาวนี้เอาเปรียบเพศหญิงจนน่ากลัวแบบนี้และแบ่งแยกฐานะชนชั้น ฉันว่ามีโอกาสจะแบ่งแยกแผ่นดินแน่นอน คิดดูสิระดับหัวหน้าภาคขึ้นไปสามารถอยู่กินกับภรรยาได้แต่พลทหารกลับต้องมาฝึกโดยไม่ได้อยู่กับครอบครัว เห็นแก่ตัวอย่างสุดเลย แม้กระทั่งเลือกคู่ครองคนเราต้องรักกันและมีสิทธิ์จะเลือกสิไม่ใช่ชี้เลือกเหมือนเลือกสิ่งของ ผู้หญิงก็มีจิตใจเหมือนกันทำไมถึงจะต้องมายอมผู้ชายด้วย
เราสองคนอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเรียบร้อยและตอนนี้เขาคงจะพาฉันกลับฐานบัญชาการ เห็นว่ามีประชุมตอนบ่ายๆ เราสองคนกลับมาถึงที่ห้องนอนเขาเดินมาโอบรอบเอวฉันไว้แน่นหลังจากที่เราสองคนเข้ามาในห้องเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น
หมับ!!
"ว่าไงคะ"
ฉันเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้แน่นก่อนจะเงยหน้าสบสายตาเขาที่มองมาเช่นกัน
"อยากกอดนี่นา ขอกอดนะ"
"อยากกอดก็กอดจะขอทำไมคะ"
"ก็เห็นเรียกร้องสิทธิเสรีภาพซะเหลือเกิน ถ้าอยู่ๆฉันเอาเปรียบเธอเธอคงจะมองฉันแย่ไปกว่านี้"
เขาเอ่ยออกมายิ้มๆ ก็ยังดีที่ยังมีความรู้สึกแคร์คนอื่นอยู่บ้าง นึกว่าจะเป็นเหมือนผู้ชายคนอื่นบนดาว Karius แห่งนี้ที่เอาเปรียบผู้หญิงโดยไม่เคยไถ่ถามความรู้สึกของผู้หญิงพวกนั้นว่าพวกเขามีความสุขมั้ย
"ถ้าผู้ชายบนดาว Karius มีความคิดที่แคร์คนอื่นบ้างเหมือนคุณไบรอัน ดาวดวงนี้คงจะน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย"
"การจะเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ยิ่งคนที่อยู่มานานเช่นท่านพ่อท่านแม่นั้นคงจะปรับเปลี่ยนความคิดพวกเขายาก"
"ก็ยังดีกว่าไม่คิดจะทำและไม่คิดจะเริ่มไม่ใช่เหรอคะ"
เขามองหน้าสบตากับฉันยิ้มๆก่อนจะผละออกจากตัวฉัน
"ฉันจะลองไปคุยกับผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดดู ถ้าท่านคล้อยตามก็อาจจะทำอะไรได้บ้าง"
"คุณไบรอันต้องคุยกับเขาเรื่องพวกที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับทางการก่อน อย่างน้อยถ้าเรารับฟังว่าพวกเขาต้องการอะไรและเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง มันอาจจะจบลงด้วยดีก็ได้"
เขายื่นหน้ามาจุ๊บแก้มฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินไปหยิบชุดคลุมมาคลุมตัวไว้
"ไปก่อนแล้วนะอยู่กับมูฉี่ห้ามแกล้งมันนะ ห้ามซนทั้งคู่เลยเข้าใจมั้ย"
"เกรซน่ารักจะตายเคยซนที่ไหน"
"จะให้ร่ายยาววันนี้ก็ไม่จบหรอก"
ฉันเบะปากใส่เขาก่อนจะง่างมือจะตีเขา เขาหัวเราะร่าก่อนจะรีบเปิดประตูออกไป ขืนยังอยู่ในห้องนี้ได้มีวางมวยกันแน่นอน
"กลับมาหละแม่จะตบให้ ชิ"