7
เมษายิ้มให้กานพลูมองเห็นความจริงใจจากดวงตาคู่สวย ปากกานพลูอาจจะร้ายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเธอผู้หญิงตรงหน้าคือเพื่อนที่แสนดีที่สุด
“เมื่อคืนพี่บีพามีนาไปงานเลี้ยง แล้วก็ประกาศกลางงานเลี้ยงว่าจะหมั้นกับยายปีศาจนั่น” เมษาพูดไม่ทันที่จะจบประโยคดี กานพลูก็ตะโกนออกมาเสียก่อนจนเธอสะดุ้งกับเสียงดังราวกับฟ้าผ่าของคนเป็นเพื่อน
“อะไรนะ!!! แกพูดใหม่ซิหนูเมย์ ใครจะหมั้นกับใคร หูฉันไม่ได้ฝาดไปใช่ไหมแก” กานพลูยกนิ้วแคะหูตัวเองพร้อมกับมองหน้าเซียวๆ ของเมษาตั้งใจฟังเพื่อนเล่าใหม่อีกครั้งด้วยความไม่ชอบใจ
“พี่บีประกาศว่าจะหมั้นกับมีนา ฉันทำอย่างไรดีกาน ฉันจะทำไงดี!” เมษาพูดเสียงแผ่วเบา หญิงสาวเขย่าตัวกานพลูอย่างแรงจนหัวสั่นคลอน
กานพลูปลดมือเมษาออก ก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูในกล่องบนโต๊ะอาหารเช็ดน้ำตาให้เพื่อนรักอย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องกลัวนะหนูเมย์ ฉันยินดีจะช่วยทวงพี่บีคืนมาให้แกอย่างสุดความสามารถที่เพื่อนคนนี้จะทำได้ แต่ตอนนี้ แกไปอาบน้ำให้ผ่อนคลายก่อนดีกว่าไหม แล้วเรามาคิดกัน จะทำอย่างไรให้พี่บีเลิกคิดว่ายายปีศาจมีนาเป็นคนดี เรามาหาทางทำให้พี่บีเห็นเนื้อในอันเน่าเฟะของยายปีศาจมีนากันดีกว่า”
“แกช่วยฉันจริงๆ นะกาน”
“หรือแกไม่เชื่อคำพูดฉันแล้ว” กานพลูถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจ หากใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม พลางยกนิ้วก้อยให้เมษาเกี่ยวเพื่อเป็นการยืนยัน
“แกน่ารักที่สุดเลยกาน” เมษาผวากอดกานพลู พลางหอมแก้มซ้ายขวาของเพื่อนรักก่อนจะรีบลุกขึ้นนำจานข้าวไปวางบนอ่างล้างจาน จัดการล้างจนเรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องครัว หยิบกระเป๋าเป้มุ่งสู่ห้องนอนกานพลู เพียงแค่ก้าวเข้าไปในห้องได้ หญิงสาวก็โยนกระเป๋าเป้ไว้บนเตียงนอนลายหมีพูสีชมพูที่ช่างไม่เหมาะกันเพื่อนที่มีบุคลิกห้าวๆ อย่างกานพลูเลยสักนิด
อย่างว่าละนะ คนเราก็ต้องมีอะไรให้แปลกใจกันบ้าง มันก็เหมือนกับเธอนั่นแหละ ที่ยังฝังจิตฝังใจกับความทรงจำสมัยเด็กที่คอยหลอกหลอนใจให้เจ็บปวดช้ำชอกอยู่แบบนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตัดใจไม่ได้ มันก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด!
หญิงสาวเอื้อมไปหยิบวิทยุเครื่องเล็กของกานพลูขึ้นเปิดเพลง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูลายหมีพูสีชมพูและเดินเข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง
เมษาห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ เธอยกผ้าขนหนูขึ้นเช็ดผมบนศีรษะให้แห้งพอหมาดๆ ขณะเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น
“นี่ถ้าฉันเป็นพี่บีนะ จะไม่หลงใหลไปกับยายปีศาจมีนาหรอก แกยังจะน่ากินกว่ายายนั่นตั้งเยอะ ดูซิ...ทั้งขาวทั้งอวบ อยากเป็นผู้ชายจังวุ้ย จะได้จีบแกเป็นแฟน”
กานพลูที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียง ลุกขึ้นนั่งยกมือเท้าคาง มองรูปร่างเมษาตาวาว
ผิวเมษาส่วนที่โผล่พ้นผ้าขนหนูออกมานวลเนียน ขาขาวเรียวและกลมกลึง ที่ยิ่งพิศยิ่งมองก็ได้เห็นถึงความงามตามธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง ส่วนเนื้อใน...คงจะมีเพียงแค่คนใกล้ชิดเท่านั้น ถึงจะรู้ว่า เนื้อแท้ของเมษานั้นดีแค่ไหน หญิงสาวยังเฉลียวฉลาด อดทน ใจดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
เมษาส่ายศีรษะกับความทะเล้นของเพื่อนรัก ดวงตาที่เคยหม่นหมองกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง เมื่อคนเป็นเพื่อนชวนคุยเรื่องอื่น
“เย็นนี้พี่ต้นจะกลับมานอนบ้านหรือเปล่ากาน” เมษาถามถึงต้นรักษ์พี่ชายของเพื่อนที่แอบรักเธออยู่ ไม่ใช่ไม่รู้ เพราะชายหนุ่มแสดงออกให้เห็นทุกครั้งและยังเคยบอกรักด้วย แต่เธอก็ปฏิเสธไป ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อใจของเธอได้มอบให้กับใครบางคนจนหมดทั้งดวงแล้ว ต้นรักษ์เลยเป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้น
“เปล่า พี่ต้นไปทำงานต่างจังหวัดหลายวันเลยล่ะแก ปล่อยฉันอยู่บ้านคนเดียวเปล่าเปลี่ยวอุรา” กานพลูล้มตัวนอนบนเตียงสองมือวางซ้อนกันใต้ศีรษะแทนหมอน ขณะมองเมษาหยิบเสื้อผ้าตัวสวยของเธอในตู้มาใส่อย่างข้องใจ เมื่อเห็นเพื่อนหยิบชุดชีฟองสีฟ้าน้ำทะเลมาใส่
“ก็ดีนะซิ คืนนี้เราจะได้ไปเที่ยวกันให้สนุกสุดเหวี่ยง พอพรุ่งนี้ก็มาช่วยคิดวางแผนการกำจัดยายปีศาจมีนาให้พ้นไปจากพี่บี บอกตรงๆ ว่าถึงคิดตอนนี้ก็คิดไม่ออกอยู่ดี สมองมันตื้อมันงงไปหมด ไปโยกซ้ายโยกขวาให้เหงื่อออก เผื่อจะได้มีความคิดดีๆ ผุดออกมาตอนกำลังเต้นอยู่บ้างก็ได้”
“ฮือ...เอาอย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่เราจะไปไหนกันล่ะ เห็นแกแต่งชุดนี้แล้วน้ำลายหกว่ะหนูเมย์” กานพลูทำตาวับวาว กลืนน้ำลายลงคอ ขณะมองผิวขาวเนียนนุ่มและร่างสูงโปร่งของเมษาในชุดสีฟ้าน้ำทะเล ตรงบ่าคล้องด้วยสายไก่เส้นๆ ตัวเสื้อแนบกับอกขาว ฐานอกจับจีบเล็กๆ แล้วปล่อยตัวชุดให้ยาวลงมาจนถึงเข่าขับผิวขาวอมชมพูเนียนเด่นให้ยิ่งงามผุดผ่องมากยิ่งขึ้น
เบนนิโต้โง่หรือเปล่า เมษาสวยขนาดนี้และยังรักเขาถึงขั้นตายแทนได้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ มัวแต่ไปสนใจยายปีศาจมีนาที่วันๆ คิดและทำแต่เรื่องร้ายๆ คิดแล้วมันช่างเสียเซลฟ์จริงๆ
“ไปที่ประจำที่พี่บีชอบไปไงแก” เมษายิ้ม ด้วยนิสัยเบนนิโต้ ถึงจะประกาศว่าจะมีงานหมั้นกับยายปีศาจมีนาแล้วก็จริง แต่เขาก็ยังคงมีอิสระที่จะไปไหนมาไหนกับสาวคนอื่น จนกว่าจะได้หมั้นเป็นทางการนั่นแหละ เบนนิโต้ถึงจะเลิกควงสาวคนอื่น หันมาควงมีนาเพียงคนเดียว
“ลุกไปอาบน้ำซิจ๊ะคุณกานพลูจ๋า จะได้ไปกันสักที ฉันอยากจะเจอหน้าพี่บีใจจะขาดแล้วนะจ๊ะ” เมษาหันมาสั่งและดึงตัวกานพลูจากเตียง
“ได้จ้า...คุณหนูเมษาจอมยุ่ง แกนี่วุ่นวายที่สุดเลย คืนนี้ฉันว่าจะนอนดูหนังเกาหลีที่เช่ามาสักหน่อย เห็นน้องๆ ที่ร้านบอกว่าเรื่องสนุกต้องดูให้จบในคืนเดียว” กานพลูหยิบผ้าขนหนูอีกผืนที่อยู่ในตู้มาแทนผืนเก่าที่โดนเมษาใช่ไปเสียแล้ว
“แกนี่นะ จะดูหนังเกาหลี คิดผิดหรือเปล่ายายกาน ฉันว่าแกดูได้ไม่ทันถึงสิบนาที ตาก็ปิดแล้ว แกไปดูหนังบู๊ดุเดือดเลือดท่วมจอเหมือนเดิมดีกว่า เช่ามาทำไมไม่รู้ เสียเงินเปล่าๆ ” เมษาถามเสียงหลงหยิบแผ่นซีดีที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของเพื่อนมาดู
“รักวุ่นวายคุณหญิงวายร้ายกับเจ้าชายน้ำแข็ง โห! นี่แกคิดจะดูเรื่องนี้จริงเหรอกาน” เมษาตาโตแค่เห็นชื่อเรื่อง เธอก็คิดออกแล้วว่ามันจะต้องรักจี๋หวานจ๋อยอย่างกับน้ำตาลหกใส่แน่ๆ
“อือ...ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แค่คิดว่าจะลองดูก่อน แต่อย่างแกว่าแหละ ไม่รู้ฉันจะดูได้ถึงสิบนาทีหรือเปล่า สงสัยคงจะหลับในเสียก่อนเป็นแน่” คนในห้องน้ำตะโกนกลับมา
“เออ...ดีนะแก อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องเสียงเงินเปล่าๆ แกนี่จริงๆ เลยยายกาน ถ้าฉันเป็นพี่ต้นนะ จะตีแกให้หลังลายเชียว โทษฐานนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในทางไม่เหมาะสม”
เมษาบ่นยาวกับการใช้เงินของกานพลู เพื่อนเธออยากได้อะไร อยากซื้ออะไรก็ซื้อทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน บางครั้งมานั่งเสียใจเมื่อสายไปแล้ว เสื้อชุดนี้ก็เหมือนกัน ตอนแรกที่เห็นก็ชอบบอก สวยอย่างโน้นสวยอย่างนี้ อยากได้จนอดใจไม่ไหว แล้วเป็นไงล่ะ พอซื้อมาแล้วก็ไม่ใส่ เธอเสียดายเลยเอามาใส่เสียเอง
“อย่าบ่นเป็นแม่แก่ไปเลยหนูเมย์ ตอนนี้ฉันก็รู้จักคิดแล้วนี่ แต่มันก็ยังคงมีเล็กๆ น้อยๆ ที่รอดหูรอดตาไปบ้าง แต่ถึงฉันไม่ดู แกก็ดูไม่ใช่หรือไง” กานพลูพูดมาจากในห้องน้ำ ด้วยรู้ว่าเมษาเป็นคนชอบหนังเกาหลีและมักจะบ่อน้ำตาตื้นทุกครั้งที่ได้ดูหนักรักโรแมนติกหรือหนังรักเศร้าๆ ประเภทที่พระเอกหรือนางเอกตายตอนจบ