2
ถ้าในวันนั้นเบนนิโต้และอันโตนิโอ้ไม่เล่นอยู่แถวนั้นและช่วยเหลือเธอไว้ได้ทัน ป่านนี้ก็คงจะไม่มีคนชื่อเมษาอยู่ในโลกนี้แล้ว
ป้าดาและลุงเปรโดเป็นคนน่ารัก ใจดีและอบอุ่น ที่สำคัญทั้งสองคนรักเธอเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่ง ความรักที่คอบครัวของเบนนิโต้มอบให้ทำให้เด็กน้อยที่กำลังหวาดกลัวและต้องการความรักความอบอุ่นจึงทุ่มเทใจทั้งหมดที่มีไปกับครอบครัวของเบนนิโต้อย่างไม่คิดเผื่อแผ่ความเจ็บช้ำและผิดหวังเอาไว้เลย
ทุกวันเธอก็จะรีบตื่นตอนเช้า เพื่อที่จะวิ่งมาหาเบนนิโต้และอันโตนิแม้ว่าจะจากกันไปแต่เธอก็ยังเขียนจดหมายติดต่อกับครอบครัวของเบนนิโต้เสมอ แรกๆ ก็ติดต่อกับชายหนุ่มได้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จดหมายที่ได้รับจากเบนนิโต้เริ่มห่างไป...ห่างหายจนไร้การติดต่อ หากเธอก็ยังได้รับข่าวคราวจากอันโตนิโอ้ผู้เป็นพี่ชายอีกคนเสมอ
“ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เองนี่น่าหนูเมย์ รักใครไม่รักดันมารักพี่บี”
มีนายิ้มเยาะ เขาว่ากัน...แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ใช้เวลาระหว่างนี้คิดหาแผนการเพื่อเอาคืนศัตรูให้แพ้ยับเยิน แม้ใจจะเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยายามที่เห็นเมษา เบนนิโต้และอันโตนิโอ้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ที่เธอต้องท่องไว้เพียงว่าอดทน...อดทน ไม่นานจะต้องเป็นวันของเธอและมันก็เป็นจริง
ตอนไปเรียนต่อเมืองนอก เธอจับได้ว่าเมษาจะส่งจดหมายไปหาเบนนิโต้และอันโตนิโอ้อยู่เสมอ ที่กลายเป็นโอกาสของเธอได้เอาคืนยายตัวมาร จดหมายที่ควรจะถึงมือเบนนิโต้กลับกลายเป็นขยะอยู่ในถัง
ฉบับแรกผ่านไป...เมษายังไม่สงสัย แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับหลายๆ ครั้ง ก็มีการถามไถ่พร้อมกับคำตัดพ้อต่อว่า ทำไมเขาถึงไม่ยอมตอบจดหมาย ที่ทำให้เธอขำหัวเราะไม่หยุดเลยทีเดียว
“เข้าใจอะไรยากจริงๆ เลยนะเมษา” มีนาเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายใจ หญิงสาวแกะมือเมษาออกจากแขน ก่อนจะผลักร่างโปร่งให้ไปไกลๆ
“ถ้าพี่บีรักแก จะขอหมั้นฉันทำไม” นี่ไงผลตอบแทนที่แกสมควรจะได้รับจากการแย่งคนที่ฉันรักไป
ต้นรักษ์ผู้ชายคนแรกที่เธอมอบทั้งร่างกายและหัวใจให้ แต่เขากลับไม่เคยเหลียวมอง พ่อที่แม้จะดุด่าว่ากล่าวเมษาอยู่เสมอ แต่ในใจกลับรักและเอ็นดู รวมถึงภาคภูมิใจในตัวน้องสาวที่ทั้งเรียนเก่ง การบ้านการเรือนก็เก่ง แม้แต่เบนนิโต้ก็ไม่เว้น ปากก็บอกว่ารักเธอ แต่ความจริงแล้วคนที่อยู่ในใจเสมอมานั้นก็เป็นเมษา
ถ้าเป็นคนอื่นเธอจะไม่แค้นใจเท่านี้...ทำไมใครๆ ถึงได้หลงรักเมษากันนัก ยายตัวมารมีดีอะไรนักหนา
ฮึ! ในเมื่อรักกันมากนัก...ก็ให้มันเจ็บปวดอย่างที่เธอได้รับมันทุกคนไปเลย!
มีนามองรูปร่างของเมษา ที่เมื่อเห็นชัดๆ ความเกลียดที่มีก็ทวีขึ้น ไหนจะความอิจฉาที่ทำให้อกร้อนเหมือนถูกไฟเผาเมื่อเห็นใบหน้านวลผุดผาด ผิวขาวผ่องเป็นยองใย ดวงตากลม ปากนิดจมูกหน่อย ขนตายาวงอน ปากเป็นสีแดงอมชมพูโดยไม่ต้องใช้เครื่องประทินผิวราคาแพงอย่างเธอมาเสริมแต่งเพื่อให้ดูสวยงามและดึงดูดใจผู้ชาย
“โธ่เอ๊ย! นังลูกเมียน้อย อย่างแกนี่นะ จะมาสู้ฉันได้ ไม่ว่าเพื่อน...แฟนแกกี่คนต่อกี่คน ก็ต้องหลงในเสน่ห์ของฉันทั้งนั้น” มีนายิ้มเยาะเย้ย ยกนิ้วจิ้มไปที่อกเมษา
“หล่อนน่าจะรู้ตัวเองได้แล้วนะเมษา ไม่มีผู้ชายคนไหนรักและจริงใจกับแก ขนาดผู้ชายคนแรกที่เอ่ยปากสารภาพรักกับหล่อน เพียงแค่ไม่ทันข้ามวันเขาก็มานอนหมอบอยู่แทบเท้าของฉันแล้ว”
มีนายกไหล่ เดินไปนั่งบนเก้าอี้ พูดอย่างได้ใจ ทั้งที่จริงแล้วผู้ชายแต่ละคนหวังเพียงใช้เธอเป็นสะพานข้ามไปหาเมษา แต่ละคนอ้อนวอนขอร้องให้เธอช่วยเป็นแม่สื่อให้ทั้งนั้น แม้จะใช้ร่างกายหลอกล่อให้ผู้ชายพวกนั้นหลงใหล แต่ก็ไม่เคยมีใครจริงใจหรือรักจริงเลยสักคน ต่างก็เพ้อหาแต่เมษา แม้ขนาดตอนที่กำลังหลับนอนกับเธอก็ตาม
แต่ก็ดี ในเมื่อผู้ชายพวกนั้นแต่ละคนล้วนแล้วแต่อยากที่จะพิชิตใจยายลูกเมียน้อยคนนี้ เธอก็จะใช้ประโยชน์จากพวกหน้าโง่พวกนั้น หลอกให้พวกมันมาเผชิญหน้ากัน ให้ทะเลาะต่อยตีต่อหน้าเมษาและคนในบ้านที่ต่างก็คิดว่าเมษาเป็นผู้หญิงร่านรักชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายรุมรัก
ส่วนบางรายก็หวังเพียงสัมผัสสวาทชั่วคราว เสร็จกิจก็แยกย้ายกันไปคนทิศคนละทาง บ้างยังหน้าหนาไปพะเน้าพะนอเอาใจเมษาที่ไม่เคยมีสายตามองชายคนใด นอกจากเบนนิโต้
“หล่อนรู้ไหมนังเมย์ พี่บียอมตามใจฉันทุกอย่าง ชี้ไม้เป็นนก ชี้นกเป็นไม้ก็ได้ คำพูดคำจาก็หวานอย่างกับน้ำตาล ทำเอาใจฉันสั่นระรัว ตัวอ่อนระทวยอย่างกับขี้ผึ้งลนไฟ อยากที่จะนอนอิงแอบแนบชิดอกกว้างของพี่บีตลอดไป” มีนาทำท่าทางเหมือนสาวน้อยกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันและความที่ทั้งเป็นสุขและแสนหวาน
ถ้อยคำของมีนากรีดเฉือนหัวใจเมษาจนปวดร้าวไปทั้งทรวง กายอรชรสั่นเทิ้มไปหมด ในหูเหมือนกับมีเสียงนกหวีดเป่าไม่ยอมหยุด
“พี่บีทำให้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แล้วแกคิดหรือนังเมย์ ฉันจะปล่อยผู้ชายแสนดีแบบนี้ไปให้แก แต่แกไม่ต้องห่วงนะเมษา ฉันจะดูแลพี่บีให้ดีที่สุด รอฉันเบื่อเมื่อไหร่แกก็ค่อยรับดามหัวใจพี่บีต่อ ฉันก็ไม่ว่า”
เมษามองดูพี่สาวยกมือขึ้นป้องปาก หัวเราะเสียงแหลมเล็กราวกันนังปีศาจจากขุมนรกบาดหัวใจเธอให้แหลกละเอียดเป็นผุยผง
“ฉันจะทวงพี่บีกลับคืนมา เรารักกันมาก่อนที่เธอจะแทรกตัวมาทำให้พี่บีไขว้เขว แต่ไม่นานพี่บีจะต้องรักฉัน”
“อ๋อ...เหรอ” เมษาหัวเราะเสียงแหลมเล็ก “ดูแกจะมั่นใจเอาซะเหลือเกินนะเมษา ช่างน่าสงสารแท้ ยังอุตส่าห์คิดได้ แกคิดว่าฉันจะยอมให้มีวันนั้นรึไง”
“มีสิ...ฉันนี่แหละจะทำให้พี่บีเห็นเช่นเห็นชาติ เห็นว่าเธอเลยระยำแค่ไหน”
มีนาหัวเราะเสียงดังลั่น มองเมษาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างสมน้ำหน้าและสะใจ “คิดว่าเธอทำได้รึเมษา แค่เข้าเข้าใกล้พี่บียังทำไม่ได้เลย แล้วจะใช้วิธีไหนทำให้พี่บีรู้ว่าฉันไม่ใช่คนดีกันล่ะ”
ฉันให้เธอทำทุกวิถีทาง...ให้เธอรอไปจนตาย ฉันก็ไม่คืนเบนนิโต้ให้แน่เมษา แม้จะไม่รักไม่ต้องการ ก็ยังจะดึงเอาตัวไว้ให้มันทรมานกันจนตายไปข้างหนึ่งเลย
“พี่บีทั้งหล่อและรวย เป็นสุภาพบุรุษแสนดี ใครๆ ก็ต้องการอยากจะได้ผู้ชายแบบนี้เป็นคู่ชีวิต ไม่เว้นแม่แต่ฉัน”
เมษากัดฟันมือกำหมัดแน่น ใบหน้าและดวงตาเป็นสีแดงราวกับกำลังอยู่ในกองเพลิง โทสะที่มีทำให้หญิงสาวขาดสติ เธอเดินเข้าไปหามีนาอย่างเร็ว มือเล็กเรียวแต่กลับมีเรี่ยวแรงมหาศาลกระชากแขนพี่สาวต่างมารดาขึ้นจากเก้าอี้ เหวี่ยงจนมีนาเซถลาไปชนขอบโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า
“โอ๊ย!! อีนังเมย์ อีนังน้องบ้า แกอยากตายมากหรือไง”
มีนาหน้าตาแดงก่ำ ลุกขึ้นยืนกัดปากข่มกลั้นความเจ็บแปลบ มือเรียวข้างหนึ่งจับที่สะเอวที่ถูกเหวี่ยงไปชนกับขอบโต๊ะ อีกมือก็ยกขึ้นสูงเพื่อจะฝาดลงไปบนใบหน้าเมษา แต่ก็ต้องลดมือลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นสูงเช่นกัน
มีนาได้แต่ฝากคำอาฆาตไว้ในใจ เพราะเมษาในตอนนี้ผิดกับเมื่อก่อนลิบลับ แม้ร่างกายจะบอบบางแต่ก็สู้คน ไม่ยอมให้ใครทำอะไรตัวเองง่ายๆ เหมือนกับเมื่อตอนเป็นเด็กอีกแล้ว
“ฉันจะทำให้เธอเจ็บกว่านี้อีกมีนา ถ้าเธอยังจะยืนยันความคิดเรื่องหมั้นกับพี่บี”
เมษาจ้องมีนาตาเขม็ง บอกให้รู้ว่าเธอพูดจริง ถ้ายังไม่เลิกคิดเรื่องแต่งงานกับเบนนิโต้ เธอก็จะหาทางทำให้ทั้งสองแต่งงานกันไม่ได้