บทนำ
“เราหย่ากันเถอะ!"
ประโยคที่ดังขึ้นยามดึกสงัดในห้องแต่งตัว มันทำให้คนที่กำลังยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตทีละเม็ดนั้นหันมาสนใจ...แววตาคมเข้มหรี่มองเมื่อเห็นสีหน้าขึงขังของเจ้าหล่อน ริมฝีปากหยักยกยิ้มคล้ายกับขบขัน เมื่อจู่ ๆ หล่อนก็ลุกขึ้นมาชวนเขาหย่ากลางดึกเช่นนี้
พริมาก้าวเท้าเข้าไปประจันหน้ากับเจ้าของร่างสูงเด่น จมูกของหล่อนได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคย เป็นแบบนี้เกือบทุกครั้งที่เขากลับบ้านดึก หล่อนช่างบ้าบอที่เริ่มจะทนกับพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
หล่อนจะไม่ยอมให้ลูกมีพ่อที่เปลี่ยนคู่ควงแทบไม่ซ้ำหน้า...แววตากลมโตสบตากับแววตาเข้มแสนมีเสน่ห์ ย้ำกับเขาด้วยน้ำเสียงจังจริง
"พรีมพูดจริงนะคะ เรา...ไปหย่ากันเถอะค่ะ"
เพียงมันออกมาจากปากครั้งที่สอง เงาใหญ่ก็เคลื่อนกายเข้ามาทาบทับ เขาส่งผ่านความเยือกเย็นผ่านปลายนิ้วแกร่งที่บีบลงบนปลายคางเรียว จนใบหน้าเล็กแหงนเงยขึ้นไปตามแรง
ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้ม เมื่อเขาและหล่อนต่างรู้ ใครถือไพ่เหนือกว่ากันในตอนนี้
"เรื่องของเรามันคือธุรกิจไม่ใช่เหรอพรีม คุณพูดอะไรออกมา จะหย่าตอนนี้ได้ยังไงในเมื่อลูกของผมในท้องนั้นเพิ่งจะสองเดือน ถ้าหย่ากันนั่นหมายถึงคุณทำผิดสัญญา..และคุณคงรู้นะว่าคุณจะต้องชดใช้ยังไงบ้าง"
แรงบีบนั้นมากขึ้นคล้ายข่มขู่ไปในตัว จนหล่อนสะดุ้งเฮือก
"ฮึก...ขะ...คุณ...คิน..."
สีหน้าและแววตาเขาทำให้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กขึ้นมาทันที พริมาบดกรามจนเป็นสันนูน ยามนี้หล่อนสับสนไปหมด หล่อนกำลังคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ถึงไม่พอใจที่เห็นเขาไปต่อกับคนโน้นคนนี้หลังเลิกงาน และหล่อนก็ไม่ชอบที่มีกลิ่นน้ำหอมแปลก ๆ ติดเสื้อผ้าเขามาแบบนี้
จริงอยู่ การแต่งงานของหล่อนกับเขามันคือธุรกิจ แต่เหมือนหล่อนจะอินไปนิด ก็เลยคิดว่าตัวเองเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายที่กำลังอุ้มท้องลูกของเขา และเขากำลังนอกใจไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ
ความหึงหวงที่ไม่อาจซ่อนเร้น เรียกแววตาเข้มให้หรี่มองอีกครั้ง ก่อนเขาจะกระตุกยิ้มคล้ายรู้ทัน
"หรือว่า...คุณหึงผมเข้าแล้ว ก็เลยโกรธจนพานพะโรขอหย่าทั้งที่งานไม่ยังจบ"
"มะ ไม่ใช่นะคะ! พรีมแค่รับงานเพราะต้องการเงิน เราคือคนแปลกหน้าต่อกัน แล้วทำไมจะต้องหึงคุณด้วยคะ"
“หวังว่าคุณคงจะไม่เผลอใจรักผมนะพรีม...จำเอาไว้ กฏของเราคือห้ามรักผม ห้ามผูกพัน ห้ามหึงหวง ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว เพราะเราคือคนแปลกหน้าที่แค่มาทำธุรกิจร่วมกัน ผมอยากได้แค่ลูกแต่ไม่อยากได้เมีย เมื่อจบงานก็แยกย้าย ผมจ่ายเงินให้คุณ ส่วนคุณจะไปทางไหนนั่นก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว"
ถ้อยคำย้ำเตือนถึงสถานะที่ทำให้รอบขอบตาคนฟังร้อนผ่าว หล่อนกลั้นเอาไว้จนปวดหนึบหนับไปทั้งกระบอกตา ใบหน้าที่แดงเห่อไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนท่าที มือใหญ่ยอมคลายออกจากปลายคางเรียว ก่อนเขาจะยืนหันหลังให้ แล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตนทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีการคุยกันถึงเรื่องหย่าอะไรทั้งสิ้น
ใช่แล้ว...หล่อนไม่ใช่เมียของเขา เป็นแค่เมียรับจ้างแบบหลอก ๆ ที่รอวันเลิก เขาก็บอกอยู่ว่าอยากได้แค่ลูกยังไม่อยากได้เมีย ประโยคนี้หล่อนถึงกับหน้าชา ที่ริทำตัวหึงหวงเขาอย่างไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
"ผมจะอาบน้ำ เราคุยกันจบแล้วใช่มั้ย"
พริมานิ่งเงียบ มองเขาสลัดเสื้อสีขาวออกจากร่างแล้วโยนใส่ตะกร้า เรือนร่างของเขาแม้เพียงแผ่นหลังและต้นแขนที่กล้าม เนื้อเป็นมัด สะกดสายตาให้หล่อนมองอย่างลืมตัว
เขาเอี้ยวหน้ากลับมา ทำตาดุใส่คนที่ยังคงยืนนิ่ง
"ผมจะถอดกางเกง ออกไปได้แล้ว"
เสียงดุ ๆ เรียกสติหล่อนกลับคืน แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะก้าวขาออกจากห้องนี้ไป เขาก็คว้าผ้าขนหนูที่พับอยู่อย่างเรียบร้อยวางซ้อนกันเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยท่าทีคล้ายไม่พอใจ...เสียงบานประตูเลื่อนปิด พริมามองผ่านม่านกระจกขาวขุ่น เห็นเงาสูงใหญ่เรือนลางอยู่ข้างใน สักพักเสียงสายน้ำจากเรนชาวเวอร์ก็ดังเล็ดลอดออกมาข้างนอก เขาอยู่ในโลกของเขาที่หล่อนไม่อาจก้าวล้ำ
พริมาเดินกลับมาที่เตียง เตือนตัวเองไปพร้อมกันถึงสถานะระหว่างตนกับเขา เขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้าง ดังนั้นเขาจะทำตัวอย่างไรก็เรื่องของเขา
แต่หล่อนก็ไม่อาจก้าวข้ามความรู้สึกผูกพันที่เริ่มถักทอขึ้นมาในใจทีละน้อย เมื่อสายเลือดของเขาเริ่มเติบโตขึ้นในกาย สัญชาตญาณความเป็นแม่ก็กระตุ้นเตือน หล่อนไม่อาจห้ามใจไม่ให้รักชีวิตน้อย ๆ นี้ได้ เมื่อรักก็อยากปกป้องไปจนตลอดชีวิต จนอยากเปลี่ยนใจฉีกสัญญาทิ้งแล้วก็หนีไป ทำตัวเงียบหายไม่ให้เขาตามเจออีกเลย