Intro

2478 Words
“หยา ไหนแกว่าจะเปิดตัวแฟนตอนอายุครบ 18 ไง ไหนล่ะแฟนแก” ปั้นหยา หันไปมองหน้ากลุ่มเพื่อนที่ตอนนี้มองมาที่เธอด้วยหัวใจห่อเหี่ยว เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกับคนอื่นๆ ด้วยความคึกคะนองหรือเพราะคำพูดเยาะเย้ยของพวกนั้นเธอเลยประกาศไปว่าจะเปิดตัวแฟนตอนเธออายุครบ 18 ปี และวันนี้ก็เป็นวันที่เธออายุครบ 18 นั่นเอง... “ก็...เขาบอกว่าติดธุระ...งั้นพวกแกดื่มไปก่อนเลยนะฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” เธอรีบหาทางเลี่ยงแล้วเดินออกจากห้องวีไอพีของผับแห่งนี้ไป...ใช่ พวกเธอเป็นเด็กมัธยมปลายที่อายุเพียง 18 ปี แต่ด้วยอำนาจเงินทำให้พวกเธอเข้าออกที่นี่ได้อย่างง่ายดาย “เฮ้อ กลับเลยดีไหม” เธอถอนหายใจออกมาเมื่อเดินมาถึงห้องน้ำแล้ว ตอนนี้ความสนุกและตื่นเต้นมลายหายไปจนหมด เด็กสาวมองดูตัวเองในกระจก ตอนนี้เธอเป็นหญิงสาวแสนสวย รูปร่างสูงเพรียวราวกับนางแบบ ผิวขาวอมชมพูสะท้อนอยู่ในกระจก ผู้หญิงตรงหน้าสวยงามราวกับนางในวรรณคดีแต่กลับไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าแสนสวยนั้นเลยสักนิด เธอดูสวย...แต่ไร้ซึ่งความสุข พลั๊ก! “โอ๊ย! นี่ลุง! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เมาก็กลับบ้านไปนอนไป!” พอเดินออกจากผับเธอก็ชนเข้ากับผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเข้าจนเกือบล้ม เด็กสาวเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาหาเรื่องเต็มที่เมื่อบวกกับอารมณ์ที่คุกกรุ่นอยู่ก่อนแล้ว “เอ่อ...ขอโทษ...” พอลรภี คุณหมอหนุ่มรูปหล่อ ที่กำลังจะเดินกลับเข้าผับแต่ดันชนกับผู้หญิงที่กำลังจะเดินผ่านออกมาจากผับพอดี ปากหยักที่กำลังจะเอ่ยขอโทษหุบลงทันทีเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขา ก่อนพอลรภีจะจ้องมองไปที่เธอเขม็ง “นี่คุณ...ผมดูแก่ขนาดต้องมาเรียกลุงเลยเหรอ ดูคุณก็ไม่ได้เด็กจนสามารถเรียกผมว่าลุงได้เลยนะหรือว่าหน้าแก่กว่าวัยห๊ะ!” “อ่าวนี่ลุง เดินชนคนอื่นแทนที่จะขอโทษ ไม่มีมารยาทแถมยังปากเสียอีก ถ้าไม่คิดว่ารุ่นพ่อนะ จะด่าให้เดินกลับบ้านไม่ถูกเลย ฮึ่ย!” ปั้นหยาหันกลับมาพูดกับเขาทั้งๆที่เธออุตส่าคิดว่าจะไม่สนใจแล้วแท้ๆเมื่อตอนนี้เธอไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมายืนต่อล้อต่อเถียงกับเขาได้ “ผมอายุแค่ 35 ต้องมีเมียมีลูกตั้งแต่อายุ 13 เลยรึไงล่ะถึงต้องมีลูกโตขนาดเข้าผับได้...หรือว่าคุณอายุไม่ถึง 21...” ส่วนพอลรภีจากอารมณ์ดีที่ชนะพนันกับพวกเพื่อนๆกลับต้องมาอารมณ์เสียเพราะมารยาทของคนตรงหน้า “บ้า! ถึงสิ...ฉันบรรลุนิติภาวะเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเข้าที่นี่ได้ยังไง” ปั้นหยาถึงกับตกใจเผลอพูดเสียงสูงออกมาพร้อมกับอดที่จะหันหน้าหนีหลบสายตาที่มองมาไม่ได้ “อ้อ นึกว่าต้องเรียกตำรวจซะแล้ว” พอลรภีขมวดคิ้วมองแล้วแกล้งพูดออกมา “ตำรวจบ้าบออะไร เรียกมาจับตัวเองรึไงล่ะ!” ทำเอาคนที่ทำผิดถึงกับเผลอพูดเสียงดัง และพอได้ยินคำว่าตำรวจเธอก็ต้องตกใจออกมาเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆเธอต้องถูกที่บ้านทำโทษสถานหนักแน่ “แล้ว...นี่มาคนเดียวเหรอ สนใจไปนั่งร่วมโต๊ะกับผมไหมล่ะ” ส่วนพอลรภีพอได้มองหน้าเธอชัดๆเขากลับรู้สึกอยากรู้จักเธอเสียอย่างนั้น ด้วยหน้าตาที่ดูอ่อนเยาว์แถมยังดูสดใสเหมือนเด็กสาวแรกแย้มเขายิ่งรู้สึกถูกใจเธอเข้าให้อย่างบอกไม่ถูกโดยไม่รู้เลยว่าเขากำลังคุยอยู่กับเด็กสาวอายุ 18 ปีที่แอบหนีมาเที่ยวที่ผับกับพวกเพื่อนๆที่ตอนนี้เมามายอยู่ในห้องวีไอพีกับพวกแฟนของเธอและก็มีเพียงเธอที่ยังโสด ปั้นหยารู้สึกเบื่อเลยคิดที่จะหนีกลับ “ไม่! เอ่อ ไปสิ ไปตอนนี้เลย” หมับ! เด็กสาวที่กำลังจะเอ่ยปฏิเสธต้องเปลี่ยนคำพูดแทบในทันทีเมื่อมองไปเห็นคนของบิดากำลังเดินตรงมาทางนี้ เธอเลยเดินเข้าไปเกาะแขนเขาเพื่อหลบซ่อนตัว “ห๊ะ! เอ่อ ไปสิ...ว่าแต่ อ่าว...” ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอทำเอาพอลรภีงุนงงแต่ยังไม่ทันได้พูดหรือถามอะไรไปมากกว่านั้นปั้นหยาก็กอดเอวเขาแล้วลากพากลับเข้าไปในผับเพราะคนของบิดาของเเธอกำลังเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ จากนั้นพอเข้ามาในผับปั้นหยาก็จับแขนของพอลรภีแล้วลากให้เดินตามเธอไป และเขาก็ตามไปอย่างงงๆจนกระทั่งขึ้นมาถึงโซนวีไอพี “อ่าวลุง จะตามมาทำไมเนี่ย” ปั้นหยารีบสะบัดปล่อยมือของพอลรภีเพราะดันเผลอจูงมือเขาอยู่ ส่วนพอลรภีก็เป็นงงเมื่ออยู่ดีๆเขาก็เหมือนจะถูกไล่เสียอย่างนั้น “ห๊ะ! ก็คุณลากผมมา” “อ่าว โทษทีพอดีลืมตัว...ไปสิ กลับไปที่ของลุง” “อ่าว...” พอลรภีถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกไล่ ส่วนปั้นหยาอุตส่าคิดว่าจะกลับบ้านแล้วแท้ๆกลับต้องเดินกลับขึ้นมาหาพวกเพื่อนๆเพราะปกติแล้วโซนวีไอพีของที่นี่ไม่มีใครสามารถขึ้นมาได้ง่ายๆถ้าไม่ได้เป็นลูกค้าวีไอพีจริงๆ “อ่าวหยา มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้...แล้วนี่...อย่าบอกนะว่าแฟนแก” ขณะที่ทั้งสองยังยืนอยู่หน้าประตูห้อง อยู่ดีๆเพื่อนสองคนของปั้นหยาที่พึ่งกลับมาจากห้องน้ำก็เอ่ยทักขึ้น ก่อนจะเข้าใจว่าพอลรภีคือแฟนของปั้นหยา ทำเอาทั้งปั้นหยาและพอลรภีถึงกับมองหน้ากันอย่างตกใจ แต่แล้วปั้นหยาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ “ลุง! ฉันจ้างแสนนึง แกล้งเป็นแฟนให้หน่อยดิ” ปั้นหยาเขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบข้างหูของพอลรภี “เฮ้ย! ไม่เอาหรอก ผมไปล่ะ” เขารีบปฏิเสธ หมับ! แต่ถูกมือเล็กจับเอาไว้เสียก่อน “ถ้าไม่ทำ ฉันจะบอกทุกคนว่าลุงลวนลามฉัน แล้วพยายามจะพาฉันไปอึ๊บด้วย” แล้วเธอก็กระซิบพูดกับเขาอีกครั้ง “ห๊ะ!...” และสิ่งที่เธอบอกออกมาก็ทำเอาพอลรภีถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเจอผู้หญิงจ้างให้ไปเป็นแฟนยังไม่พอ ยังจะมาถูกกล่าวหาในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำอีก นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ “มีอะไรกันรึเปล่าหยา...” เพื่อนของปั้นหยาที่มองอยู่ถามขึ้นอย่างเริ่มสงสัย “อ้อ เปล่าๆ แฟนฉันแค่จะไปห้องน้ำน่ะ เธอสองคนเข้าห้องไปก่อนเถอะ ฉันขอคุยกับแฟนฉัน แปปนึง” เธอรีบบอกให้เพื่อนๆเข้าห้องไปก่อน ก่อนที่ความลับจะแตก “อืม เร็วๆนะ จะถึงเวลาเซอร์ไพรส์แล้ว รับรองแกชอบแน่รีบตามมาล่ะ” เพื่อนของเธอบอกขึ้น ก่อนที่จะเดินเข้าห้องไปและไม่วายหันมาทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ให้กับปั้นหยา “อืมๆ” ปั้นหยารีบบอกให้เพื่อนๆเข้าไปด้านในก่อนที่แผนของเธอจะแตก แล้วหันมาพูดกับพอลรภีต่อ “สองแสน แค่แกล้งเป็นแฟนคืนนี้ แค่นั่งเฉยๆ ยิ้มนิดหน่อย นะ...ช่วยฉันหน่อยนะๆๆๆๆ” “เฮ้อ โอเค แค่แปปเดียวนะ ผมต้องกลับไปหาพวกเพื่อนๆ” “ได้ๆๆๆ เดี๋ยวฉันจะบอกเพื่อนๆว่าคุณต้องไปทำธุระแล้วค่อยออกมา” พอเห็นว่าเขาตกลง ปั้นหยาก็รีบดึงเขาเข้าห้องเพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ และพอเดินเข้ามา ทุกสายตาก็ต่างจับจ้องมองมาที่ทั้งสองคน เมื่อปั้นหยา ดาวโรงเรียนผู้ไม่เคยมีแฟนดันพาแฟนมาเปิดตัวในงานวันเกิดอายุครบ 18 ปีจริงๆ “หยา...นะ...นี่แกไปแอบมีแฟนตอนไหน แล้ว...นี่แฟนแกจริงๆเหรอ ทำไมถึง...หล่อขนาดนี้! อ๊ายยยยย ใช่ไหมพวกเรา” หนึ่งในเพื่อนที่นั่งอยู่รีบเดินเข้ามาหาทั้งสองพร้อมกับมองจ้องหน้าพอลรภีเหมือนกับคนละเมอก่อนจะกรีดร้องออกมากับความหล่อเหลาราวเทพบุตรของพอลรภี จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันยินดีระคนอิจฉาจนเจ้าของงานวันเกิดอดที่จะยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไม่ได้ ต่างจากพอลรภีที่มองทุกคนในห้องด้วยสายตาสงสัยเพราะถึงแม้จะพากันแต่งตัวจัดจ้านแต่ดูยังไงก็เหมือนเด็กมหาลัยหรือไม่ก็มัธยมปลายกันก็ไม่ปานก่อนจะรีบสะบัดความคิดนั้นทิ้งเมื่อถูกปั้นหยาดึงให้มานั่งข้างเธอ “ขอบใจนะลุงเดี๋ยวให้ทิปเพิ่ม” เธอเอื้อมตัวมากระซิบบอก ก่อนจะหันไปยกแก้วชนกับพวกเพื่อนๆเมื่อต่างก็ยินดีกับความสัมพันธ์ของเธอ ส่วนพอลรภีก็ได้แต่นั่งมองคนนั้นคนนี้ที่เริ่มเมามายและโอบกอดพัวพันจนแทบจะสำเร็จรักกันอยู่รอมร่อ ไม่นานก็มีพนักงานเปิดประตูแล้วเข็นเค้กก้อนใหญ่เข้ามาพร้อมกับเสียงเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นจากพวกเพื่อนๆของเธอ “Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you…” พอเพลงสิ้นสุดลงปั้นหยาก็ลุกขึ้นมาเป่าเทียนพร้อมกับเสียงอวยพรดังขึ้นไม่หยุด ซึ่งคำอวยพรส่วนมากก็จะเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ของเขาและเธอ พอลรภีที่เผลอมองรอยยิ้มของปั้นหยาเข้าถึงกับนิ่งค้างเมื่อมันช่างดูสว่างไสวและน่าค้นหาจนรู้สึกอยากได้มาครอบครอง “งั้นเรามาตัดเค้กแบ่งกันเถอะ รับรองถูกใจทุกคนแน่” พอทุกอย่างสิ้นสุดลง พวกเพื่อนๆของปั้นหยาก็รีบเดินมาตัดแบ่งเค้กโดยตัดแบ่งส่วนที่คิดว่าพิเศษที่สุดให้กับเจ้าของวันเกิดไปแต่ปั้นหยาปฏิเสธเพราะไม่ชอบกินเค้ก “ฉันขอบายนะ พอดีไม่ชอบกินเค้ก” “เอามา เดี๋ยวผมกินเอง” เป็นพอลรภีที่กระซิบบอกเมื่อเขาเป็นคนหนึ่งที่ชอบเค้กเอามากๆปั้นหยาเลยเลื่อนจานเค้กมาให้เขา โดยไม่รู้เลยว่าพวกเพื่อนๆของปั้นหยากำลังมองมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และหลังจากนั้นงานเลี้ยงก็ดำเนินต่อไปโดยที่พอลรภีลืมพวกเพื่อนๆของตนเองไปเสียสนิท ส่วนปั้นหยาก็อยากกลับบ้านแล้วเลยหันมาเอ่ยชวนเขาเพื่อจะได้กลับออกไปจากผับ “อ่าว ลุง เมาแล้วเหรอ...ไปดื่มตอนไหนเนี่ย” “อาราย ครายมาว ม่ายมาวๆ ม่ายด้ายดื่ม...” เสียงอันเมามายของพอลรภีพูดขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่เงยหน้าส่งยิ้มหวานมาให้กับเธอ ปั้นหยาเลยเอ่ยขอตัวกลับทันทีเมื่อรู้สึกเบื่อแล้วด้วย “เฮอะๆๆๆ ไม่ดื่มกับผีน่ะสิ...นี่ๆๆเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ พอดีแฟนฉันเมามาก ไม่ไหวแล้ว” “อืมๆๆ ขอให้โชคดี พวกเราคิดว่าแกคงชอบของขวัญวันเกิดที่เราให้นะ อิอิอิ” “หือ? อืมๆๆ ไปล่ะ เจอกันเปิดเทอม” เธอหันไปบอกเพื่อนๆ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตะโกนผ่านเสียงเพลงบอกออกมาและก็ทำเอาปั้นหยาขมวดคิ้วสงสัยเพราะเธอยังไม่ได้รับของขวัญสักชิ้นจากพวกเพื่อนๆก่อนจะไม่สนใจเมื่อเธอเองก็ไม่ได้อยากได้อะไรอยู่แล้วเลยหันมาจับแขนใหญ่ขึ้นพาดคอของตนเองพาเขาเดินออกมาจากห้องไป “เฮ้อ...แล้วจะทำยังไงกับลุงนี่ดี...ทิ้งไว้นี่เลยดีไหม..อ่าว แล้วกระเป๋าตังล่ะหรือว่าเขาไม่พกมา...ทำหายรึเปล่า โอ๊ย! แล้วจะรู้ไหมว่าบ้านอยู่ไหนเนี่ย...ลุง บ้านอยู่ไหน ลุง...” พอลากเขามาถึงรถของเธอ ปั้นหยาก็เริ่มค้นหากระเป๋าเงินของเขาเพราะต้องการรู้ที่อยู่แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจพาเขามาที่คอนโดของเธอแทน ซึ่งนี่เป็นของขวัญอายุครบ 18 ปีจากบิดาและมารดาของเธอ และเธอพึ่งได้รับมันเมื่อสามวันก่อน ก่อนที่บิดาและมารดาของเธอจะบินไปทำงานต่างประเทศทั้งๆที่เป็นวันเกิดของเธอ… ตุ๊บ! เธอวางร่างใหญ่ลงบนเตียงอย่างไม่คิดสนใจว่าเขาจะเจ็บ “เฮ้ออออ หนักเป็นบ้า นี่เมาเหล้าหรือเมายา พูดก็ไม่รู้เรื่องเอาแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ ว๊าย! ลุง!” หมับ! ขณะที่ยืนบ่นคนเมาดันเอื้อมมือมาจับแขนของเธอแล้วกระชากเธอลงไปนอนกับเขาด้วย ผลั๊ก! เธอรีบใช้กำปั้นทุบตีเขาเมื่อคิดว่าเขากำลังจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ “ปล่อยฉันนะ นี่ลุง! โอ๊ย ปล่อยสิ” “อื้อ...สุขสันต์วันเกิดนะ...” “................” และอยู่ดีๆพอลรภีก็เอ่ยอวยพรออกมา ทำเอาปั้นหยาที่ได้ยินถึงกับนิ่งค้างก่อนจะปล่อยตัวลงนอนข้างเขาอย่างไม่ขัดขืนอีกเมื่อเธอดันนึกไปถึงบิดามารดาของเธอที่ไม่เคยอยู่ร่วมงานวันเกิดของเธอเลยสักครั้งตั้งแต่เธอจำความได้ “ฮึก! ฮือๆๆๆ ฮือๆๆ” และอยู่ดีๆปั้นหยาก็ร้องไห้ออกมาเมื่อความเข้มแข็งที่กักเก็บเอาไว้ด้วยการทำตัวเสเพลเหลวไหลเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ทำเท่าไหร่เหมือนกับว่าเธอก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากบิดามารดาของเธออยู่ดี “อย่าร้อง...เดี๋ยวไม่สวย...” เสียงแหบแห้งบอกออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงสะอื้นไห้ “ฮึก! ร้องก็สวย...หายเมาแล้วก็กลับไปสิ” เธอปาดน้ำตาทิ้งแล้วบอกออกมา “ไม่ได้เมา...ก็บอกว่าไม่ได้ดื่ม...” พอลรภีที่พึ่งอาการดีขึ้นเมื่อเขาไม่ได้ดื่มอย่างที่เขาบอกจริงๆ และที่เขามีอาการอย่างนั้นก็เพราะฤทธิ์ของย****์ที่ผสมมาในเค้กนั่นเอง “โกหก...ก็เห็นอยู่ว่าเมา...อ๊าย!” ส่วนปั้นหยาก็ไม่ได้เชื่อเพราะไม่รู้ว่าของขวัญจากเพื่อนๆคือเค้กผสมยาไอซ์ หมับ! พอเห็นว่าพูดเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมฟัง พอลรภีเลยพยุงร่างพลิกมาคร่อมร่างบางของเธอเอาไว้ “ก็บอกว่าไม่ได้เมา ลองชิมดูไหมว่าผมดื่มรึเปล่า” เขาจ้องมองหน้าสวยหวานที่มีหยาดน้ำตาเกาะอยู่นิ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD