"แค่ไปทำงาน ถ้าแกตั้งใจ แกก็จะปลดหนี้ของเราได้ แล้วมีเงินเก็บกลับมา แกเพิ่งจะเรียนจบ" เสียงของคนเป็นแม่เลี้ยงพูดขึ้น แต่มันกลับเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ความฝันที่จะได้เรียนแพทย์ของแพรไหมจบลง เพียงเพราะชายชุดดำที่มากันจนเต็มบ้าน ในเวลานี้ แพรไหมที่เพิ่งกลับจากการไปเอาผลสอบที่โรงเรียน ทำได้เพียงกอดขาคนเป็นแม่เลี้ยงที่กำลังจะผลักไสเธอ
"พี่พลอยละแม่ ทำไมไม่ให้พี่พลอยไป" คำถามของคนเป็นลูกสาว ทำให้แม่เกิดโทสะ แล้วหยิกเข้าที่แขนคนเป็นลูกสาวเต็มแรง
"นังพลอยมันเรียนใกล้จบแล้ว พี่แกมันก็ต้องทำงานหาเลี้ยงที่บ้าน มีแต่แกนั่นแหละ ถ้าแกทำงานดีจะมีเงินเหลือส่งน้องแพรวของแกได้เรียนสูง ๆ เชื่อแม่ งานไม่ยาก ทำไม่นาน แกทำได้" ประโยคของคนเป็นแม่ที่น้ำเสียงเปลี่ยนไปในทุก ๆ ประโยค แพรไหมรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ที่โปรดปรานของบ้าน แต่ไม่คิดว่าแม่จะขอให้เธอจากไป
พลอยลูกสาวคนโตที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยง เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปี 4 เธอไม่เคยจำเป็นต้องทำอะไร แม่เลี้ยงดูแลทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ตัวแพรไหมเอง ก็ยังถูกคนเป็นแม่เลี้ยงขอให้ช่วยดูแลคนเป็นพี่สาว ที่ทำงานพิเศษหาเงินมาเลี้ยงจุนเจือที่บ้าน แพรวลูกสาวคนเล็กที่มีอายุห่างกับเธอเพียงแค่ปีกว่า แต่เป็นลูกของพ่อและแม่เลี้ยงของเธอ ทำให้ถูกประคบประหงมไม่ต่างจากเจ้าหญิง ไม่มีทางที่จะถูกส่งไปทำงานได้เลย ความหวังที่จะทำให้แม่เลี้ยงของเธอเปลี่ยนใจได้ คงจะมีเพียงพ่อของเธอเท่านั้น แพรไหมได้แต่กอดขาอ้อนวอนคนเป็นแม่เลี้ยงด้วยน้ำตา เพื่อให้รอพ่อเธอมาก่อน แต่การมาของพ่อเธอ ทำให้ความหวังของแพรไหมพังทลายลง
"ทำไมนังแพรมันยังไม่ไป" คำถามจากคนเป็นพ่อ ที่เดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน ทำให้โลกของแพรไหมหยุดหมุน และรับรู้ความจริงแล้วว่า มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกคนในบ้านอยากให้เป็นเธอมาตั้งแต่แรก ผลการเรียนของเธอที่เตรียมเอาไว้มาเพื่ออวดคนเป็นพ่อ ความฝันที่มีมันเป็นแค่ลมที่พัดผ่าน แล้วหายไป
"เราเป็นหนี้เค้าเท่าไหร่ หนูจะได้รู้ว่าต้องทำงานใช้หนี้เค้ากี่ปี" เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีทางหนีชะตาที่ครอบครัวลิขิตได้ เลยถามถึงค่าเสียหายที่เธอไม่ได้ทำ
"10 ล้าน รวมทั้งบ้านหลังนี้ที่จำนองไปแล้วอีก ถ้าแกไม่ไปทำ บ้านเราจะถูกยึด พ่อกับแม่พี่และน้องแกต้องตายกันหมด" คนเป็นพ่อพยายามพูดกับลูกสาวดี ๆ
"หนูอยากเป็นหมอนะ หนูอยากเลี้ยงพ่อกับแม่ให้สบาย หนูอยากช่วยเหลือคน หนูบอกพ่อไว้แค่นี้ พ่อกับแม่จะไม่อยากฟังก็ไม่เป็นอะไร" ประโยคสุดท้ายที่แพรไหมพูดทิ้ง ทำให้คนเป็นพ่อต้องยิ้มออกมา แล้วลูบหัวเธอเบา ๆ
"ไปเถอะลูก ไปทำงาน ที่ The Heaven ก็มีมหาวิทยาลัย ไปเรียนที่นั่นก็ได้ เอาเอกสารไปให้ครบ" คนเป็นพ่อเห็นแพรไหมเสียใจ เลยเลือกที่จะใช้ไม้นวมให้แพรไหมไปโดยไม่ขัดขืน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าแพรไหมจะไม่มีทางได้เรียนอย่างที่เธอตั้งใจ เพราะงานที่เธอกำลังจะไปทำคืองานขายบริการ
แพรไหมหันไปมองชายในชุดดำที่แต่งตัวภูมิฐาน ก็เกิดอาการหวั่นใจ แม้จะมีคำถามมากมาย แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เธอเปลี่ยนความคิดของคนในบ้าน ที่ส่งเธอออกไปเจอโลกกว้างได้
"ช่วยเร่งหน่อยครับ เรือจะออกแล้ว" เสียงจากชายชุดดำที่เร่ง ทำให้พ่อของเธอแทบจะจับเธอใส่พานส่งให้กับคนพวกนั้น ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ไม่ได้ เธอทำได้แค่พับผลการเรียนใส่กระเป๋ากระโปรงนักเรียน แล้วโดนคนพวกนั้นลากตัวออกไปจากบ้าน
เรือลำใหญ่ ที่มีตัวหนังสือ แปะที่ท้ายเรือว่า The Company ที่ไม่ได้มีแค่เธอ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงนั่งกันเต็มเรือ บางคนก็กอดเข่าร้องไห้ บางคนก็เต็มใจที่จะมา เธอถูกดันเข้ามาด้านใน ก่อนที่ผู้หญิงอีกหลายคนจะถูกลากมาขึ้นเรือ
"พี่ ๆ เราจะถูกพาไปทำงานโรงงานอะไร" The Company ในความคิดของเธอ คงจะเป็นบริษัท หรือโรงงานอะไรสักอย่าง
"ไม่รู้ พี่โดนที่บ้านบอกให้มา บอกว่าจะสบาย" คำตอบจากคนที่ร่วมชะตากรรม มันกำลังบอกว่าเธอไม่ได้เจอชะตากรรมนี้คนเดียว การที่มีคนใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ทำให้เธอโดนดันเข้าไปข้างในในสุด
เรือที่อัดแน่นไปด้วยคนจนแทบจะเป็นปลากระป๋อง ค่อย ๆ ออกจากท่าเรือ ในเวลาค่ำคืน เสียงของพวกชายชุดดำได้ตะโกนบอกว่า นี่เป็นเรือเฟอร์รี่ เราจะไปถึง The Heaven ภายใน 1 คืน ให้ทุกคนบนเรือนอนกันให้เต็มอิ่มเพื่อเช้าอันสดใส เมื่อแพรไหมหลับตาลง......
.
แพรไหม Say ::
"อย่าเสียงดังนะ ถ้าแกเสียงดังคนอื่นจะตื่น คนทั้งเรือได้เห็นแกโดนเอาแน่" เสียงพูดชายคนหนึ่ง ทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมาดู เดี๋ยวนั่นมันกำลังข่มขืนไม่ได้เหรอ แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว ในช่วงที่ฉันกำลังจะเงยคอ เพื่อหาคนที่พอจะช่วยได้ ก็มีมือจากผู้หญิงคนหนึ่งกดหัวของฉันเอาไว้ แล้วส่ายหัวให้ฉันเบา ๆ
เจอแบบนี้แล้วไม่ให้ทำอะไรเลยงั้นเหรอ แต่พอมีคนตื่นเพื่อที่จะเข้าไปช่วย แม้จะเป็นผู้ชาย ก็ยังถูกพวกมันลากออกไปขืนใจ นี่มันโลกอะไรเนี่ย ฉันได้กอดเข่าของตัวเองเอาไว้แน่นเพราะความกลัว กลัวว่าพวกมันจะเห็นว่าฉัน มันเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความกลัว มันคือนรกบนเรือที่ยากจะข้ามผ่าน ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน จนมาถึงเกาะที่เรียกว่า The Heaven เกาะสวยงาม ที่มันกำลังจะเป็นนรกสำหรับฉัน
"พวกมันก็เลวแบบนี้แหละ ขั้นตอนต่อไปแยกเด็กยาว ๆ รอบนี้คนเยอะแบบนี้ ยันเย็นอะ พี่ไปล่ะนะ" ผู้หญิงคนที่ห้ามให้ฉันลุกเมื่อคืน เดินมาตบไหล่ของฉัน แล้วเธอไปหาพวกชายชุดดำนั่น แล้วโชว์ป้ายอะไรสักอย่างแล้วก็ผ่านคนพวกนั้นไปเลย
พอถึงช่วงสาย ๆ คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกมันก็เดินออกมาจากเรือ แล้วเริ่มสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าแยกคน โดยคนที่เป็นหัวหน้าของมันก็เริ่มขึ้น โดยการอธิบายถึงขั้นตอนการแยกคน โดยจะแบ่งเป็นผู้หญิงและผู้ชาย โดยงานที่จะทำจะถูกแบ่งไปตามสิ่งที่ทุกคนเหมาะสม โดยมีเค้าเป็นคนกำหนดเองว่าใครควรจะไปไหน มันฟังดูดีใช่ไหม แต่มันไม่ได้ดีอย่างที่คิด!!!!
"นังนี่ที่โทรมเมื่อคืน หน้าตาดีนะ แต่เกรดแบบนี้ไม่ผ่านวิคเตอร์ เกรด B" ตัวปั๊มถูกประทับที่แขนของเธอ เป็นตัว B แล้วก็ถูกจัดไปรอที่อยู่ที่พวกมันจัดให้ ฉันกลัวจนตัวเองต้องรีบไปอยู่ท้ายสุดของแถวที่ยาวเหยียด
การแบ่งคัดสรร มันยังเริ่มไปเรื่อย ๆ คนที่เป็นหญิงชายพรหมจรรย์ จะถูกแยกออกมาอีก แน่นอนในกลุ่มนี้มีฉันด้วย ฉันได้แต่มองคนที่ถูกแบ่งไปตามจุดต่าง ๆ กลางแดดร้อน ความยาวนานกินเวลาจากช่วงสาย ๆ ของวันจนเป็นบ่าย
"พี่สุดหล่อ พวกเราทำไมถูกแยกออกมา" ฉันถามคนที่ถือปืนคุมไม่ให้เราหนี เพราะสงสัยทำไมมีแต่กลุ่มของฉันที่ไม่ต้องแยก
"พวกสาวพรหมจรรย์มันขายได้ราคาดีไงนังหนู สวย ๆ แบบนี้ คงจะถูกส่งไปให้ท่านโรเบิร์ตเชยชม ไม่ต้องห่วงหรอก สบายกว่าพวกเกรด B เยอะ พวกนั้นถูกส่งไปซ่อง พวก A จะมีพวกเจ้าพ่ออาบ อบ นวด มาเลือก อะไรกัน พ่อแม่ไม่ได้บอกเลยเหรอ ว่างานที่หนูต้องทำคือขายบริการ" ประโยคของพวกคนชุดดำ ทำให้ใจที่กำลังจะแหลกของฉัน มันสลายกลายเป็นผง ร่างกายที่หนักอึ้ง ชาวาบบบบไปทั้งตัว ขายบริการงั้นเหรอ!!!
หมดแล้วสินะ เส้นทางการเป็นหมอของฉันมันพังทลายลงไป กลับใจ หนี...สิแพร ถ้าเธอหนีทำงานไปด้วย ส่งตัวเองเรียนไปด้วยก็ได้นะ หรือจะหนีกลับไทยก็ยังได้ ใช่ต้องหนี จะยอมให้พวกนี้จับไปขายงั้นเหรอ แล้วไม่นาน พวกชุดดำก็เอาตัวปั๊มมาปั๊มที่แขนของฉัน เป็นตัว S สีแดง ตัว S งั้นเหรอ ฉันมองรอยประทับสีแดง ก่อนจะกำวุฒิการศึกษาของตัวในกระเป๋ากระโปรงที่พับมา ต้องหนี ต้องหนีเท่านั้น
"พวก S เอาไปขึ้นท้ายรถ อันนี้เข้าคฤหาสน์ท่านโรเบิร์ต รอบนี้อะไรวะมีแค่ 5 คนเอง ผู้หญิงซิง ๆ เริ่มหายากแล้วสิ ถ้าพวกหนูทำตัวดี ๆ ก็จะไม่มีผัวเป็นร้อย แต่ถ้าทำตัวไม่ดีจะถูกมาถึงพวกฉัน บอกเลย หน้าแบบนี้ถูกจริตฉันนักแล" คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกมัน บีบแก้มของเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก
การลำเลียงคนไปขึ้นรถ มันกินเวลานานไม่น้อย ตอนนี้ตะวันเริ่มลอยต่ำใกล้ลับฟ้า รถคันที่ฉันขึ้นไปนั่งเป็นรถตู้ ฉันขอเขานั่งหน้าสุด ด้วยเหตุผลที่ว่าฉันเมารถแบบมาก ๆ มันคงจะไม่ดีถ้าฉันเกิดอ้วกใส่พี่ ๆ แล้วถ้าฉันนั่งหน้า พวกพี่ ๆ ก็จะเห็นฉันสายตาตลอด เลยทำให้พวกนั้นยอมฉันแต่โดยดี
ปัญหาของฉันมันเริ่มมาถึง เพราะที่นี่คือที่ไหนไม่รู้ ฉันไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ในเกาะที่แสนจะรุ่งเรืองแต่มีการค้ามนุษย์ที่เสรีแบบนี้ได้ยังไง ฉันนั่งถนนที่ตอนนี้ขับเคลื่อนผ่านสถานบันเทิงมากมายในยามค่ำคืนที่ผู้หญิงต่างออกมาเรียกแขกโดยไม่เกรงกลัวใด ๆ ตรงนี้ไม่รู้ว่าคนที่นี่จะส่งฉันคืนให้พวกชุดดำนี่หรือเปล่า ไม่เอาดีกว่าต้องเลือกตรงอื่น ฉันนั่งเงียบ ๆ ทำตัวให้ไม่น่าสงสัย ก่อนจะเลือกตรงที่รถขับได้ไม่เร็วมาก และมีรถมากมาย ที่จะพลางให้ฉันได้วิ่ง เมื่อถึงไฟแดงหัวใจของฉันมันก็เต้นแรง ตรงนี้แหละ ฉันรอให้ไฟมันเขียว ช่วงที่รถออกตัวได้ไม่ไวมาก เพราะพวกมันจะตามจับฉันไม่ได้ พอรถออกตัวได้สักระยะฉันก็เปิดประตูกระโดดจากรถทันที
"เหี้ยยยย!!!! เจ็บ ทำไมมันไม่เหมือนที่คิดไว้วะ" ร่างที่กลิ้งไปตามโน้มถ่วง ให้ทำฉันรู้สึกเจ็บไม่น้อยเลย แต่ก็กัดฟันลุกขึ้นมาจากพื้น แล้ววิ่งผ่ารถเข้าข้างทาง พวกมันไม่สามารถจอดรถที่กำลังวิ่งอยู่ได้ เลยต้องหาทางชิดซ้าย ทำให้เสียเวลาในการตาม ฉันเลยได้โอกาสนี้ พาร่างที่สะบักสะบอมวิ่งเข้าไปในซอยเล็ก ๆ ที่มีบ้านคน เพื่อขอความช่วยเหลือ
ทำไมไอ้ซอยนี่ไม่มีบ้านใครเลยวะ!!! จะสุดซอยอยู่แล้ว พอมาสุดซอยก็เจอประตูเหล็กขนาดใหญ่ ที่เปิดได้นากด้านในเท่านั้น นี่มันบ้านแบบไหนกันวะเนี่ย!!!! แย่แล้วสิ ฉันอาศัยความตัวเล็กนั่งแอบที่กองขยะ โดยอาศัยความมืดช่วยอำพราง ทำไมพวกมันถึงไม่เข้ามาตามล่ะ ช่างเถอะ ตอนนี้รอเพียงมีคนช่วยเท่านั้น อ่าาา เจ็บจัง เจ็บไปหมดทั้งตัว
.
ไค say ::
ผมขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับบ้านเป็นปกติ เพราะฤทธิ์สุราทำให้ผมขับรถเร็วกว่าที่เคย ทำไมวันนี้มีพวกชุดดำมาเดินหน้าซอยด้วย ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย ช่วงนี้ทำไมเด็ก ๆ ของไอ้วิคเตอร์มันช่างน่าเบื่อจังเลยน้า
Rrrrrr Rrrrrr Rrrrrrr อาการสั่นของโทรศัพท์ ทำให้ผมต้องแตะเบา ๆ ที่หูฟังแอร์พอร์ต ที่สวมอยู่ที่หู
สายสนทนา
[อยู่ไหนครับ ทำไมถึงชอบหนีไปไหนมาไหนคนเดียว ท่านไคจะทำแบบนี้ไม่ได้ครับ]
"วุ้ววว บ่นเป็นแม่เลย หน้าเปิดประตูด้วย" พอพูดจบผมก็แตะที่หูฟังเพื่อวางสาย
จบการสนทนา
รถที่เข้ามาในซอยบ้านมันทำให้ผมชะลอความเร็วลง เพื่อรอประตูที่กำลังจะเปิด แต่พอประตูเปิดออกก็มีเงาดำ ๆ วิ่งตัดหน้ารถ ทำให้ผมต้องหักรถหลบจนล้อสะบัด อะไรวะนั่น หมาเหรอ น่าจะตัวใหญ่กว่าหมาหน่อย ผมจอดรถลงไปดูร่างที่นอนกองอยู่กับพื้น
เสื้อขาว กระโปรงสีกรม เครื่องแบบอะไรวะเนี่ย นักเรียนเหรอ ชาติไหนอะ ถ้าเป็นของที่นี่ต้องกระโปรงสั้น ๆ สีเทาสิ แต่แผลเต็มตัวเลย มีตำหนิแบบนี้เอามานั่งเล่นไม่ได้หรอก เอาไปโยน ๆ ทิ้งให้มันจบ ๆ ไปก็สิ้นเรื่อง
"ท่านไคครับ เกิดอะไรขึ้นครับ" เสียงของลูกน้องที่เดินมาดู
"เอาหมาที่ตัดหน้ารถฉันไปโยนทิ้งที เนื้อตัวเหม็นขยะ" ผมใช้นิ้วเขี่ยผมที่ปิดหน้าของเธอออก จมูกเล็ก ๆ ปากเล็ก ๆ ของเธอทำเอาผมต้องชั่งใจ ผมแพ้คนผมม้า
"เอาไปโยนไว้หน้าซอยเลยนะครับ"
"แกมองซิ แบบนี้อายุเท่าไหร่"
"ไม่น่าจะเกิน 17 ครับ ชุดแบบนี้ยังเป็นนักเรียน ม.ปลายอยู่เลยแน่ ๆ ครับ ผมเป็นแฟนคลับ เพจ Cup E แบบนี้คนไทยแน่นอน"
เด็กไทย ที่เนื้อตัวมีแต่แผล ผมเริ่มสำรวจแขนที่มีแต่แผลถลอก เจอรอยปั๊มตัว S อยู่ที่แขน ยัยนี่เป็นต้นเหตุของไอ้ชุดดำหน้าซอยบ้านผมสินะ หนีมางั้นเหรอ S แบบนี้ ซิงสินะ จะส่งกระต่ายน้อยให้หมาป่า ผมคงจะร้ายเกินไป กระต่ายต้องเป็นเพื่อนเล่นกับเต่าสิถึงจะถูก
"เปลี่ยนใจละ เอาเข้าบ้าน แบกไปแล้วบอกให้พวกตุ๊กตาน้อย ๆ ของฉัน ทำความสะอาดให้หน่อย"
"ครับ ท่านไค"
.
หลายชั่วโมงต่อมา
ผมรอของเล่นใหม่ในชุดฟรุ้งฟริ้งตื่น ชุดวันเกิด ก็ผมต้องทำแผลให้เธอหนิ เชื่อเถอะผมไม่เคยอยากเป็นหมอเท่าตอนนี้มาก่อนเลย ชอบความบึ้ม ๆ ของไฟหน้าเธอจัง ผมทำแผลให้กับร่างที่เปลือยเปล่า จนตาของเธอค่อย ๆ เปิดขึ้น อะไรยังไม่ได้เช็กของเลยรีบตื่นเหลือเกิน
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน เตียงผู้ป่วย ฉันอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ" คนที่เพิ่งตื่นสำรวจรอบตัว ก่อนจะสำรวจร่างกายของตัวเอง"
มือเล็ก ๆ สำรวจที่หน้าอกที่ตอนนี้ไม่มีอะไรปิดเลย ก่อนจะลุกขึ้นมองที่ข้างล่างที่ตอนนี้ ไม่มีอะไรปิดเลยสักนิดเดียว ป่าบาง ๆ ก็ไม่มี น่าพิสมัยจังเลย
"กรี๊ดดดดดดด!!!!! ไอ้โรคจิต!!!! "
"ตัว S ที่แขนได้มายังไง หนีมางั้นเหรอ รู้ไหม...คนที่เธอหนีมาเป็นใคร เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ของ The Heaven เลยนะ ไม่นานคงจะมีสายตรงถึงฉัน เพื่อขอตัวเธอคืนแน่ ๆ " ผมไม่ได้สนใจคำด่าของเธอเท่าไหร่หรอก แม้จะเจ็บจี๊ดดก็ตาม แต่ที่ยอมลงให้เพราะยอดอกของเธอสีสวยหรอกนะ ผมโยนชุดคลุมสีดำให้เธอปกปิดร่างกาย
"พ่อแม่ฉันเป็นหนี้ เลยโดนหลอกฉันมา ฉันหนีมาเพื่อจะได้กลับไป ฉันจะต้องไปเรียนต่อให้จบ ฉันมีความฝัน ฉันอยากไปทำความฝันของฉันเป็นจริง ฉันไม่ได้อยากมาเป็นแค่คนขายตัวอยู่ที่นี่" แล้วเด็กน้อยก็เอาแต่ร้องไห้ออกมาฟูมฟาย เรื่องที่เธอเล่ามาก็ดราม่าดี แต่ผมต้องแคร์มะ คนที่เป็นหนี้ไอโรเบิร์ตก็พล็อตเรื่องแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
"นังหนู ตราบใดที่เธอยังเป็นหนี เธอจะไม่สามารถขึ้นเรือลำไหนได้ ทางอากาศก็ไม่ได้ เพราะสัญญาการชดใช้หนี้ของที่นี่มันเป็นแบบนั้น ยังไงเธอก็ทำงานใช้หนี้ ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับไอ้โรเบิร์ตหรอกนะ ที่เธอหนีมาได้เพราะที่นี่มันเป็นที่ของฉัน" เฮ้อออ เสียดายของสวยงาม
"ชุดของฉันอยากอยู่ไหน"
"ชุดเหม็นขยะทิ้งไปละ"
"ลุงทำแบบนั้นทำไม ในนั้นมันมีของสำคัญของฉันอยู่นะ" เธอกระวนกระวายจะลงจากเตียง ผมเลยต้องชูกระดาษที่น่าจะเป็นผลการสอบ และวุฒิการศึกษา ที่ตอนนี้ยับยู่ยี่ไปหมด
"แก้ตัวก่อน ฉันไม่ใช่ลุง อยู่ที่นี่ก็เรียกฉันให้เหมือนคนอื่น" ผมกางผลการเรียนของเธอออกดู ทำไมมันถึงสำคัญต่อเธอนัก
ว้าว...A ทุกวิชาเลย เด็กเรียนว่ะ ไม่แปลกใจที่เธอจะมีความฝัน แต่ฝันของเธอต้องดับสลายแล้วล่ะ ถ้าได้ส่งไปอยู่กับไอ้โรเบิร์ตคงไม่ดี ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีทางใช้หนี้หมดแน่ ๆ จะให้ดีก็ต้องไปทำงานกับไอ้วิค อาจจะมีเงินไถ่ตัวคืนมา
"เอามานะ เอาของฉันคืนมา" คนตัวเล็กพยายามจะแย่งกระดาษในมือของผม ทำให้ผมต้องคืนให้เธอแต่โดยดี อยากมีอนาคตงั้นเหรอ
"อนาคตของเธอหมดตั้งแต่พ่อแม่เธอเป็นหนี้ละ จะให้เด็กเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน แล้วเตรียมตัวซะ ฉันจะให้พาตัวเธอไปส่งคืน เธอไม่ใช่คนของฉัน ฉันไม่ได้มีความจำเป็นต้องช่วย" ผมทิ้งเธอให้เธอได้ทำใจ สัญญาทาสของเธอ มันจะแขวนคอของเธอให้อยู่แบบนั้น อย่าหาว่าผมแล้งน้ำใจเลย ผมไม่จำเป็นต้องช่วย สาว ๆ ของผมก็มีเยอะแยะ แม้จะเสียดายความน่ารักของเธออยู่หรอก
"ได้โปรดช่วยฉันนะคะ ฉันอยากเป็นหมอ ถ้าฉันได้กลับไปเรียน สัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อทดแทนคุณ" ประโยคของเธอ ทำเอาขาของผมต้องหยุดลง เป็นหมองั้นเหรอ ถ้าเธอขายบริการ การเป็นหมอของเธอมันจะต้องจบลงสินะ
"นั่นมันเรื่องของเธอ"
"คุณเองก็เป็นหมอใช่ไหม คุณต้องเข้าใจสิคะ ฉันไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง แต่ฉันพยายามเพื่อผลการเรียนที่มหาลัยไหนก็ไม่อาจจะปฏิเสธ"
พยายามงั้นเหรอ ผมจะไม่เข้าใจได้ยังไง ผมต้องต่อสู้กับคนที่เก่งไปซะทุกอย่างแบบโทร่า ต้องอยู่ในระดับเดียวกันกับคนที่เพอร์เฟคอย่างอาหลง พวกเราสามคนต้องแข่งกันเอง เพื่อเหนือกว่าคนอื่น
"นอนกับฉันสิ เป็นผู้หญิงของฉัน ฉันอาจจะช่วยก็ได้"