เก้า เจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรและใบหน้าหล่อคม
ที่สร้างความหลงใหลให้แก่ผู้คนที่พบเจอ แถมเขายังเป็นแชมป์นักแข่งรถระดับประเทศถึงสองสมัยซ้อน แม้ว่าตอนนี้เขายังเรียนอยู่แค่ชั้นปีที่สี่ คณะวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น
เขาเป็นหนึ่งในแก๊งวิศวะเถื่อนที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น และทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรทำให้เก้าหงุดหงิด แต่เหมือนเวลานี้จะมีบางคนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้เขาหงุดหงิดอยู่
“เฮ้ย ไอ้เก้า หงุดหงิดอะไรวะ”
“เปล่า”
เก้าตอบทั้งที่สายตายังจับจ้องข้อความในโทรศัพท์ และข้อความจะมาจากใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ กวากวา ยัยตุ๊กตาคู่หมั้นของเขา
“เดี๋ยวนี้หัดกวนตีนหรือไง”
เขาพึมพำคนเดียว สันกรามขบเข้าหากันแน่นเมื่อกวากวาตอบคำถามเขาด้วยสติกเกอร์เพียงตัวเดียว
ตั้งแต่เรื่องวันหมั้นวันนั้น เขาก็ไม่ได้เจอกวากวาอีกเลยเพราะเธอดันไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ต่างประเทศโดยไม่บอกเขาสักคำ แถมยังใช้ชื่อเขาในการขออนุญาตพ่อของเธออีกด้วย
“พวกเฮียไปรับน้องคณะกันมั้ยครับ”
นนท์เดินยิ้มร่าเข้ามาหาบรรดารุ่นพี่ตัวเองที่นั่งจับกลุ่มกันข้างตึกคณะ
“ขี้เกียจว่ะ”
มาวินเป็นคนตอบ ก้มหน้าลงกดเกมในมือถือ ไม่ได้สนใจสิ่งที่
รุ่นน้องถามเท่าไหร่
“แต่ปีนี้มีผู้หญิงตั้งเก้าคนนะครับรุ่นพี่”
มาวิน เชน และ เปรมรีบวางมือถือ หันไปสนใจรุ่นน้องแทบทันที
คงจะมีแต่เก้าที่ไม่ได้หันมาสนใจ เห็นเดินออกไปด้วยสีหน้าดูหงุดหงิด พวกเขาเลยไม่อยากยุ่งเท่าไหร่ รู้กันอยู่ว่า เก้าน่ากลัวขนาดไหน
“ไหนเอารูปมาดูดิไอ้น้องรัก”
“นี่เลยคร้าบ”
นนท์ส่งรูปบรรดาปีหนึ่งให้รุ่นพี่ดู
“เด็กปีหนึ่งปีนี้งานดีว่ะ”
“เออ ดูน้องคนนี้ดิ โคตรน่ารัก”
“จริงด้วย อย่างกับตุ๊กตาเลย”
โครม!!
ทั้งสี่คนสะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ ๆ เก้าก็ถีบถังขยะใบใหญ่ล้มลง โชคดีที่ไม่มีขยะ ไม่อย่างนั้นต้องช่วยกันเก็บอีก
“เป็นอะไรครับเพื่อนเก้า”
เปรมถามขึ้นเป็นคนแรก เก้าถอนหายใจก่อนจะกลับมากระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้
“รำคาญ”
“รำคาญพวกกู?”
“เปล่า”
“อะไรของมัน”
ทั้งสี่คนได้แต่เกาหัวแกรก ๆ ไม่เข้าใจอาการของเก้าแต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
“นี่ มึงมาดูนี่ดีกว่า เด็กปีหนึ่งโคตรน่ารัก”
“แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว ยังจะหม้อเด็กอีกนะพวกมึง”
“แหม่ อย่าให้กูพูด มึงก็คั่วเด็กปีหนึ่งทุกปีครับไอ้เก้า”
“กูไม่ใช่คนจีบ”
“ครับ เฮียเก้าคนหล่อ บ้านรวย สาว ๆ รุมล้อมเป็นแมลงวัน”
มาวินเอ่ยแซวเพื่อน เลยโดนถีบไปครั้งหนึ่ง แต่เจ้าตัวก็ยังนั่งยิ้มภูมิใจ ได้กวนตีนเพื่อนโดนถีบสักครั้งก็คุ้มแล้ว
“กูไม่ใช่ขี้ ไอ้เหี้ย”
“พอ ๆ เลิกกัดกัน พวกกูจะไปดูรับน้องคณะสักหน่อย มึงไปมั้ยไอ้เก้า”
“ไม่อะ ขี้เกียจ”
“ไปเถอะเฮียเก้า เด็กปีนี้ดีนะพี่”
นนท์หันไปชวนรุ่นพี่ตัวเอง แต่เก้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ
“มันไม่กล้าไปหรอกไอ้นนท์”
“ทำไมเพื่อนเราไม่กล้าไปวะไอ้มาวิน”
“ก็วันนี้รับน้องแถวคณะบริหาร เพื่อนเก้าของเราจะกล้าไปได้ยังไง”
ปัง!
มือหนาตบลงบนโต๊ะเสียงดัง พูดออกมาเสียงดังไม่แพ้กัน
“ทำไมกูจะไม่กล้าไป!”
พูดจบเก้าก็ลุกเดินออกไป เพื่อนทั้งสามคนมองกันพลางส่ายหน้าเบา ๆ
“เฮีย ตกลงข่าวลือที่ว่าเฮียเก้าโดนพี่ขวัญดาวคณะบริหารทิ้งเป็นเรื่องจริงเหรอ”
“อย่าเผลอพูดซี้ซั้วนะมึง”
“ระวังโดนตีนโดยไม่รู้ตัว”
นนท์รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองก่อนจะรีบวิ่งตามรุ่นพี่ตัวเองไป
ทั้งสี่คนเดินมาถึงลานกิจกรรมและดูเหมือนรุ่นพี่กำลังให้ปีหนึ่งแนะนำตัวกันอยู่พอดี
“คนนั้นไงพี่ น้องที่น่ารัก ๆ อะ”
นนท์รีบสะกิดรุ่นพี่ตัวเองยิก ๆ ทุกคนหันไปสนใจยกเว้นเก้าที่เดินไปนั่งรวมกับพวกสตาฟ
“สวัสดีค่ะพี่เก้า”
ปีสองแถวนั้นรีบยกมือไหว้เก้าเมื่อเขานั่งลง ผู้หญิงละแวกนั้นแทบจะหยุดกิจกรรมทุกอย่างหันมามองเก้าเป็นตาเดียว
จะไม่ให้มองยังไงไหว รังสีความหล่อกระแทกตาเสียอย่างนั้น อีกอย่างคนอย่างเฮียเก้าหาตัวจับได้ง่ายที่ไหนกัน
“อืม”
เก้าตอบรับนิ่ง หันมองไปยังรุ่นน้องปีหนึ่งก่อนจะต้องเบิกตากว้างเพราะคนที่กำลังยืนขึ้นแนะนำตัว นั่นคือ...
“สวัสดีค่ะ”
“ฮิ้้วววว น่ารักจังเลยครับ”
เสียงแซวดังขึ้นแทบทันทีที่เธอยืนขึ้น คนโดนแซวยิ้มเล็กน้อย และไม่ลืมที่จะหันมายิ้มให้คนที่นั่งมองเธอตาค้างอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะ กวากวา นะคะ”
“ยัยตัวแสบ”
เก้าพึมพำเสียงเบา กำหมัดตัวเองแน่น ยิ่งเห็นรอยยิ้มที่เธอส่งมาเหมือนเยาะเย้ย ยิ่งอยากเข้าไปฟาดให้ก้นลาย
ถึงจะไม่ได้เจอกันเป็นเดือนแต่กวากวาก็ส่งไลน์หาเขาทุกวัน บอกทุกอย่างว่ากำลังทำอะไร ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยตอบก็เถอะ แต่เรื่องนี้เธอไม่แม้แต่จะบอกเขาเลยสักนิดว่าเธอมาเข้าปีหนึ่งคณะเดียวกับเขา
“ปีหนึ่งน่ารักกันเยอะเลยว่ะ โดยเฉพาะน้องกวากวา”
“จริง คนอะไรน่ารักอย่างกับตุ๊กตา ผิวนี่ขาวจั๊วะ เนียนละมุนไปทั้งตัว”
ทุกคนต่างชื่นชมกวากวากันออกนอกหน้า ดูเหมือนจะมีเก้าคนเดียวที่ไม่ได้พูดอะไร สายตาคอยจับจ้องคนตัวเล็กนิ่ง จนเห็นว่าเธอเดินแยกจากกลุ่มเพื่อน เขาจึงเดินตามออกไป
หมับ
“โอ๊ย กวาเจ็บนะคะ”
“เธอทำบ้าอะไรของเธอ!”
เก้าตวาดเสียงดัง คนตัวเล็กสะดุ้ง น้ำตาเริ่มคลอเบ้าแต่ก็ยังฝืนยิ้ม
“กวาแค่เข้ามหาวิทยาลัยนะคะ”
“แล้วทำไมต้องที่นี่ เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”
“คือ คือกวา...”
“รีบพูดมากวากวา ก่อนฉันจะหมดความอดทน”
กวากวาหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าปอดรวบรวมความกล้าก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“กวาแค่อยากอยู่ใกล้เฮียเก้าค่ะ”
“เหอะ งี่เง่า”
“เฮียเก้าโกรธกวาเหรอคะ”
เก้าไม่ตอบแต่คลายแรงที่บีบข้อมือเล็กออก แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อกลับมีเสียงหวานของใครบางคนเรียกเขาให้หันไปมอง
“เก้า เก้าจริง ๆ ด้วย”
“ขวัญ”
มือหนาปล่อยข้อมือเล็กอย่างไม่รู้ตัว สายตาจับจ้องใบหน้าสวยหวานของผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาที่ยากจะอธิบาย
“ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีนะ”
“อืม”
“แล้วเด็กคนนี้”
“ขอตัวก่อนนะ”
เก้าตัดบทเสียดื้อ ๆ ก่อนจะลากกวากวาออกมาโดยไม่ได้พูดอะไร กวากวาเองก็ยอมเดินตามโดยไม่ท้วงติงอะไรเช่นกัน ตอนนี้เธอรับรู้อย่างเดียว รับรู้ว่ามือเขาร้อนขึ้นกว่าเดิม
“พี่คนนั้นเขาเป็นใครเหรอคะ”
“อย่ายุ่ง มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก”