ปล้นรักคุณ บก.

EP.01 เวลา 01:00 น ณ ใต้ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ณ ถนนเลียบคลองชลประทานจังหวัดเชียงใหม่ ชายรูปร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดดำยืนหลบมุมอยู่ในความมืด ดวงตาคมเข้มมองไปยังบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ที่เห็นอยู่ตรงหน้าเพราะ ณ ที่แห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ทำงานและเป็นทั้งที่อยู่อาศัย แต่จะมีใครอาศัยอยู่ที่นี่ไหมเขาไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าบ้านยุค 90 ที่ถูกรีโนเวทกรุกระจกด้านหน้าของบ้านทั้งหมดนี้เป็นออฟฟิศของ ‘สนพ.พราวแสงดาว’ เพราะเขาได้มาเยือนแล้วครั้งหนึ่งในตอนที่แสงอาทิตย์ยังคงสาดส่อง และเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่หวังเขาก็ต้องกลับไปมือเปล่า กลับไปคิดทบทวนอยู่ที่โรงแรมที่เช่าเอาไว้ไม่ไกลจากที่นี่ แล้วก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาใครบางคนเพื่อขอความช่วยเหลือถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะเข้าไปด้านในโดยที่ไม่ให้ใครรู้เห็น และเมื่อได้คำตอบที่ต้องการ เขาจึงกลับมาเยือนอีกครั้งในยามที่ดวงอาทิตย์ลาลับไปแล้ว และครั้งนี้จะต้องได้ในสิ่งที่เขาตั้งใจมาเอาคืน จะไม่ยอมให้เหตุการณ์เป็นเช่นตอนกลางวันอีกแน่ ดวงตาคมเข้มมีแววคาดหวังเมื่อดวงไฟด้านในค่อยๆ ดับลงทีละโซน สักพักไฟบนชั้น 2 ก็เปิดสว่าง แสดงว่าคนที่อยู่ด้านในนั้นไล่ปิดไฟทีละดวงจากด้านล่างแล้วขึ้นไปเปิดไฟที่ชั้น 2 จากที่คิดว่าอาจจะมีพนักงานทำงานเลิกดึกก็เปลี่ยนเป็นความคิดว่ามีคนอาศัยอยู่จริงๆ แต่จะเป็นใครนั้นเขาก็ไม่สนใจหรอกเพราะของที่เขาต้องการอยู่ชั้น 1 ‘นนท์’ เหลียวซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครเขาจึงลัดเลาะหลบมุมตามเงาไม้ใหญ่แต่ละต้น วิ่งตรงไปที่แนวกำแพงด้านข้างของบ้านอย่างเร็ว 'ประตูด้านหลังบ้าน ติดกับกำแพงในซอยด้านข้างน่ะ มันชำรุดนะเว้ย แต่คนนอกถ้ามองมาก็จะไม่รู้หรอก ต้องลองเขย่าดู แต่ก่อนเวลากูลืมกุญแจ กูก็เข้าทางนี้แหละ แต่มึงต้องเสี่ยงดวงดู ถ้าตรงนั้นเข้าได้ก็โชคดีของมึงไป แต่ถ้าเข้าไม่ได้ก็หมดหวังว่ะ เพราะด้านหน้า renovate ใหม่หมดแล้ว และกูก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย แบ่งทรัพย์สินกันแล้วกูไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องของเจ๊ว่ะ' นั่นคือข้อมูลที่ ‘ดิน’ เพื่อนสนิทวัยเด็กของเขาบอกมา จะว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือว่าโชคเข้าข้างเขาก็ได้ เพราะออฟฟิศของ สนพ.พราวแสงดาว เคยเป็นบ้านเก่าของไอ้ดินมาก่อน เมื่อช่วงเช้าที่มาถึง เขารู้สึกคุ้นตากับบ้านหลังนี้มาก แต่สภาพที่รีโนเวทด้านหน้าใหม่หมดก็เลยไม่แน่ใจ แต่เพราะสงสัยและต้องเคลียร์ เผื่ออาจทำให้การเจรจาในวันนี้ผ่านไปด้วยดีก็ได้ เขาจึงโทรศัพท์ไปถามดินว่าบ้านที่อยู่ซอยเลียบคลองชลประทานยังอยู่หรือเปล่า หรือว่าขายต่อให้ใครไปแล้ว เพราะดินย้ายครอบครัวไปอยู่กรุงเทพฯ ได้มากกว่า 10 ปี เป็นไปได้ว่าบ้านอาจเปลี่ยนเจ้าของ และดินก็บอกว่าพอพ่อตายที่บ้านก็เลยแบ่งทรัพย์สินกัน ดินได้บ้านอีกหลังในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนบ้านหลังนี้พี่สาวต่างแม่ได้ไป ซึ่งดินไม่ได้สนิทสนมสักเท่าไรก็เลยไม่ได้เข้ามาดูบ้านหลังนี้อีก แต่ก็พอรู้จากญาติมาบ้างพี่สาวรีโนเวทบ้านใหม่ แค่นั้นที่เขาถามจากดินก่อนจะเข้าไปติดต่อธุระในออฟฟิศ แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เข้ามาทำมันสูญเปล่า เขาเลยต้องโทรศัพท์กลับไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้ดินฟัง บอกจุดประสงค์เพื่อให้ดินช่วย และตอนนี้เขาต้องเข้าไปข้างในให้ได้ นนท์เดินลัดเลาะไปซอยด้านข้างที่มาสำรวจแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงเย็น ซอยนี้คนอยู่หนาแน่นการเดินสำรวจไปมาจึงไม่ได้เป็นที่สังเกต และเขาก็ใจชื้นที่เห็นว่าประตูด้านหลังเป็นประตูเดิม มีรูปแบบการก่อสร้างเดิมของตัวบ้านไม่ได้ถูกรีโนเวทเช่นด้านหน้า ดังนั้นโชคอาจเข้าข้างเขาก็ได้ถ้าพี่สาวของดินไม่รู้ว่าประตูนี้ชำรุด ทางเดียวที่จะรู้ก็คือต้องเข้าไป แต่ต้องหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามมุมระเบียง นนท์เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญสุดของเขาในขณะนี้ ฝ่ามือกระชับฮูดให้เคลื่อนต่ำลงมาปิดบังใบหน้าให้มากขึ้น รั้งผ้าปิดจมูกขึ้นสูงให้พื้นที่เปิดเผยมีเพียงดวงตา ก่อนที่ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยจะโหนตัวเองข้ามกำแพงบ้านไปอย่างง่ายดาย เขาแนบร่างกับผนังบ้านทันที พาตัวเองเดินผ่านแค่บริเวณที่เงาดำพาดผ่านไปจนถึงประตูด้านหลัง และทำตามที่ดินบอกนั่นคือทาบฝ่ามือข้างหนึ่งที่บ้านจับประตู อีกข้างจับขอบประตูด้านล่างแล้วยกขึ้นพร้อมๆ กัน แกรก! เสียงกลอนประตูเคลื่อนออกเบาๆ ทำให้เขายิ้มกว้าง ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูให้เบาที่สุดและพาตัวเองแทรกร่างเข้าไปด้านในจากนั้นก็งับประตูปิดไว้ ดวงตาคมเข้มกวาดมองด้านในออฟฟิศที่มืดแต่ก็ยังพอเห็นพื้นที่โดยรอบได้โดยง่าย เพราะไฟตามจากด้านนอกที่ส่องลอดกระจกเข้ามา