วิเวียนพยายามสูดลมหายใจลึก พยายามเก็บความรู้สึกหวั่นไหวที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับเขาเช่นนี้ แต่ดวงตาที่จ้องมองเธออย่างไม่ยอมละสายตาทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกสะกด ราวกับเอ็ดเวิร์ดสามารถมองทะลุเข้าถึงจิตใจของเธอได้ ความเย็นชาที่เขาเคยมีเหมือนจะละลายลงท่ามกลางความปรารถนาที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา
“แล้วคุณต้องการให้ฉันอยู่ทำไมล่ะคะ?” วิเวียนถามเบา ๆ แต่คำถามนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและความขัดแย้งในใจ เธอรู้สึกว่ามันคือการต่อสู้ระหว่างความอดทนและความรู้สึกที่ซ่อนอยู่
เอ็ดเวิร์ดไม่ตอบ เขาทำได้เพียงจ้องลึกลงไปในดวงตาของเธอ ราวกับค้นหาคำตอบที่เขาเองยังไม่แน่ใจ สัมผัสอบอุ่นจากแขนของเขาที่โอบรอบทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวในใจของเธอ
วิเวียนค่อย ๆ ดึงตัวออกจากอ้อมแขนของเขา แม้จะยังรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านอยู่รอบ ๆ ตัว “ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูด ฉันขอตัว” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงด้วยความเศร้าในแววตา
เอ็ดเวิร์ดรู้สึกถึงความต้องการที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ให้เธอเดินออกจากชีวิตของเขาเหมือนที่เขาตั้งใจไว้แต่แรก ทว่ามือของเขากลับยิ่งกระชับแน่นรอบตัวเธอมากกว่าเดิม ความเย็นชาที่เขาพยายามสร้างไว้กลับกลายเป็นความร้อนแรงที่ไม่อาจเก็บซ่อนได้อีกต่อไป
วิเวียนเงยหน้ามองเขา ดวงตาฉายแววตกตะลึงและสับสน เธอรู้สึกถึงแรงกอดที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งที่เขาไม่เคยแสดงออกมาก่อน หัวใจของเธอเต้นแรง ราวกับถูกสะกดให้อยู่ในช่วงเวลานี้ แม้จะรู้ว่าความใกล้ชิดนี้เต็มไปด้วยความเสี่ยง
เอ็ดเวิร์ดกระซิบเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่นอยู่ใกล้หูเธอ “ฉันพยายามจะปล่อยเธอไป… แต่ทุกครั้งที่คิดถึงมัน ฉันก็ทำไม่ได้” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความสับสนและความเจ็บปวดที่เขาพยายามซ่อน
"คุณเมาแล้วค่ะ" วิเวียนเอ่ยขึ้นเบา ๆ สายตาของเธอพยายามเก็บความรู้สึกหวั่นไหวไว้อย่างสุดกำลัง
เอ็ดเวิร์ดยิ้มเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยันตนเอง “ถ้ามันทำให้ฉันยอมรับความรู้สึกนี้ได้ งั้นก็ใช่… ฉันคงเมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกและเจือปนความเจ็บปวดที่เขาไม่อยากเปิดเผย
เธอพยายามถอยห่างจากเขา แต่แขนของเขายังคงรั้งไว้แน่น ราวกับไม่อยากปล่อยให้เธอหลุดลอยไปจากอ้อมแขนนี้ เอ็ดเวิร์ดสบตาเธออีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้นเกินกว่าจะเก็บซ่อน
"วิเวียน… บางทีความเมานี่อาจทำให้ฉันกล้าพอที่จะยอมรับ… ว่าฉันไม่อยากเสียเธอไป"
คำพูดนั้นทำให้วิเวียนนิ่งค้าง รู้สึกถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีแข็งกร้าวของเขา ราวกับว่าเขาได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ แม้ในใจของเธอจะยังสับสน แต่สัมผัสของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่ยากจะปฏิเสธ
"คุณเมาแล้วค่ะ" วิเวียนเอ่ยขึ้นเบา ๆ สายตาของเธอพยายามเก็บความรู้สึกหวั่นไหวไว้อย่างสุดกำลัง
เอ็ดเวิร์ดยิ้มเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยันตนเอง “ถ้ามันทำให้ฉันยอมรับความรู้สึกนี้ได้ งั้นก็ใช่… ฉันคงเมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกและเจือปนความเจ็บปวดที่เขาไม่อยากเปิดเผย
เธอพยายามถอยห่างจากเขา แต่แขนของเขายังคงรั้งไว้แน่น ราวกับไม่อยากปล่อยให้เธอหลุดลอยไปจากอ้อมแขนนี้ เอ็ดเวิร์ดสบตาเธออีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้นเกินกว่าจะเก็บซ่อน
"วิเวียน… บางทีความเมานี่อาจทำให้ฉันกล้าพอที่จะยอมรับ… ว่าฉันไม่อยากเสียเธอไป"
ในใจของวิเวียน เธอรู้ว่าไม่มีทางที่จะไว้ใจเขาได้ เอ็ดเวิร์ดอาจกำลังเล่นเกมส์หลอกลวงเธอเหมือนสมัยเด็ก ๆ ใช้คำพูดอันอ่อนหวานและท่าทีที่ชวนหลงใหลเพียงเพื่อทำให้เธออ่อนแอ เธอไม่อยากตกเป็นเหยื่อของเขาอีก
วิเวียนดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเขา รู้สึกถึงแรงกอดที่แข็งแรงของเขายิ่งขึ้นตามความพยายามของเธอ เขายังคงยึดเธอไว้แน่น ราวกับไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนได้ง่าย ๆ
“ปล่อยฉันค่ะ!” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง แต่แฝงด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาที่เคยมองเขาด้วยความอ่อนโยนกลับเต็มไปด้วยความระแวงและปวดร้าว
เอ็ดเวิร์ดเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ และสิ่งนั้นก็ราวกับมีดที่กรีดลึกเข้าไปในใจของเขา แต่เขากลับยังไม่ยอมปล่อย เขากลืนน้ำลาย พยายามเก็บความรู้สึกที่ยากจะอธิบายไว้ ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสนและร้อนแรง
“ฉันไม่ได้เล่นเกมส์อะไรกับเธออีกแล้ว… วิเวียน”
ในที่สุด เอ็ดเวิร์ดก็คลายมือออกจากแขนของเธอ วิเวียนเซถอยหลังเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บปวดและสับสน รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของเขา รอยยิ้มที่เธอคุ้นเคยดีในอดีต ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงการเล่นสนุกของเขา
“ใช่… เธอรู้ทันฉันอีกแล้ว” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเย้ยหยันนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา ราวกับจะยืนยันว่าความรู้สึกที่เขาแสดงออกเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวง
วิเวียนรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกบีบรัด เจ็บปวดอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เธอพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย แต่แววตากลับไม่อาจปิดบังความผิดหวังและความขมขื่นได้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด
“ฉันน่าจะรู้…คุณไม่เคยเปลี่ยนไปเลย” วิเวียนเอ่ยพร้อมแววตาที่เย็นชา สายตาที่เคยอ่อนโยนกลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว “ถ้าเกมส์นี้ทำให้คุณสนุก… ก็เชิญเล่นต่อไปเถอะ”
เธอหันหลังให้เขาอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะรู้สึกปวดร้าวในใจ แต่เธอก็เลือกที่จะเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่กดดัน เขายืนมองตามเธอไป รู้สึกถึงช่องว่างในใจที่ยากจะเติมเต็ม ขณะที่เธอเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองแม้สักนิด
เอ็ดเวิร์ดยืนมองตามหลังวิเวียนไป สายตาของเขาเย็นชาขณะที่ความคิดภายในใจเดือดพล่าน เขาหมายมั่นกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ยอมให้เธอล่อลวงเขาได้ เหมือนที่เธอเคยล่อลวงทุกคนให้หลงรักเธอ วิเวียน—หญิงสาวที่แม้แต่พ่อของเขายังรักและเอาใจใส่เธอมากกว่าเขาเอง
ในใจของเขา ความเกลียดชังและความเจ็บปวดที่ถูกฝังมานานเริ่มปะทุขึ้น ความทรงจำอันเจ็บปวดที่เห็นพ่อมอบความรักและความเอาใจใส่ทั้งหมดให้กับเด็กสาวที่เขามองว่าเป็นผู้บุกรุก ความรักของพ่อที่เขาไม่เคยได้รับ ถูกส่งไปให้เธอราวกับว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรค่าแก่การรัก
“เธออาจทำให้คนอื่นหลงรักได้ง่ายดาย…” เอ็ดเวิร์ดพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาแฝงไปด้วยความขมขื่นและความแน่วแน่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ไม่อีกแล้ว”
เขาเตือนตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ความอ่อนแอครอบงำ จะไม่ยอมให้วิเวียนมีอิทธิพลเหนือจิตใจเขาเหมือนที่เธอมีต่อพ่อและคนอื่น ๆ ความรู้สึกที่เขาเคยพยายามเก็บซ่อนไว้กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาต่อต้านเธอมากยิ่งขึ้น เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อในเกมนี้ และจะไม่ยอมให้เธอมีอำนาจใด ๆ เหนือเขาอีก
วิเวียนปิดประตูห้องลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน ความรู้สึกที่กักเก็บไว้มานานปะทุขึ้น น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่อาจห้ามได้ เธอพึมพำออกมาเสียงเบา สะท้อนความเจ็บปวดและความโกรธที่เธอรู้สึก
“ฉันเกลียดเขา…”
คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น น้ำเสียงสั่นเครือขณะที่เธอยกมือขึ้นปิดหน้า พยายามปลอบประโลมตัวเอง ความทรงจำเก่า ๆ ย้อนกลับมาในหัว ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกบีบหัวใจ เอ็ดเวิร์ดที่เธอเคยพยายามเข้าใจและใกล้ชิดกลับกลายเป็นกำแพงที่เย็นชาและโหดร้าย การที่ต้องพบกับเขาอีกครั้งทำให้ความเกลียดที่เธอพยายามจะลืมฟื้นกลับมาอย่างเจ็บปวด
“ฉันเกลียดเขา… ฉันเกลียดที่เขามีอิทธิพลต่อใจฉันขนาดนี้” เธอพูดกับตัวเอง ยิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ความรู้สึกขมขื่นก็ยิ่งทวีคูณ