ราวๆ ครึ่งชั่วยามต่อมา สภาพที่ซ่างเป่าเหลียนเห็นอยู่ตอนนี้คือ ครรภ์ของรั่วจิ้งได้รับการกระทบกระเทือน สีหน้านางซีด ริมฝีปากคล้ำ เหงื่อแตกท่วมหน้าผาก ทั้งมีกลิ่นคาวเลือดลอยอบอวลอยู่ในห้องรับรองดังกล่าว “รักษาข้าให้หายเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นคนของเจ้า จะถูกตัดแขนขาทิ้ง” ซ่างเป่าเหลียนมิได้ตื่นตระหนก นางพอจะล่วงรู้ว่า รั่วจิ้งเป็นสตรีร้ายกาจผู้หนึ่ง หากประเมินสถานการณ์ให้ดี นางคงท้องกับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี และเมื่ออยู่ในโรงเตี๊ยมก่อนมาถึงจวนรับรองเมืองกุย ก็หวังจะสังหารเขา โดยการโยนความผิดให้ผู้อื่น ทว่าเป็นซ่างเป่าเหลียนที่ขัดขวาง เฮ้อ... การเป็นคนนี้นั้นอยู่อยากโดยแท้ “ข้ามีวิชาการแพทย์สูงส่งตั้งแต่เมื่อใด ก่อนหน้า ก็มีคนปรักปรำว่าทำให้คนงานหญิงสิ้นชีวิต ทั้งที่ข้าได้ช่วยนางฟื้นคืนชีพแล้ว” ซ่างเป่าเหลียนกล่าวเสียงดังชัดเจน ฝ่ายรั่วจิ้ง ที่ปวดท้องอย่างหนักกระแอมไอหลายหน ก่อนกล่าวว่า