Chapter 1 **อุบัติเหตุอลเวง** 2

1239 Words
กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! ขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ของปั้นหยาดังขึ้น ทำให้เธอหยุดเดินแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย “สวัสดีค่ะ” ปั้นหยารับสายด้วยน้ำเสียงหม่น “สวัสดีค่ะ คุณปั้นหยาใช่ไหม ดิฉันจะโทรมาแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายบุคคลขอเลื่อนนัดสัมภาษณ์ออกไปจาก 8.30 น.เป็น 9.30 น. ค่ะ” เสียงนี้ดั่งเสียงสวรรค์ ทำให้ปั้นหยาดีใจมากเพราะมีโอกาสต่อเวลาอีกครั้ง “ขยายเวลาออกไป ดีจัง” ปั้นหยาดีใจจนพลั้งปาก “อะไรนะคะ” ปลายสายถามย้ำอีกครั้ง “ออเอ่อ เปล่าค่ะ คือ ฉันบอกว่าดีจัง เพราะตอนนี้รถติดมากค่ะ อาจจะไปช้านิดนึง” “ค่ะ พอดีเช้านี้มีประชุมด้วย เกรงว่าจะกินเวลานาน แล้วทางเจ้านายก็ให้ผู้บริหารประชุมทั้งหมด ซึ่งมันชนกับตารางสัมภาษณ์พอดี” “ขอบคุณนะคะ ยังไงฉันจะไปให้ทันเวลาค่ะ” “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วเจอกันนะคะ” “ค่ะ สวัสดีค่ะ” ปั้นหยารับคำพร้อมกับวางสาย อย่างน้อยในความแย่ยังมีเรื่องดีมาต่อชีวิตให้อีกสักหน่อยก็ยังดี ว่าแล้วจึงรีบเดินจ้ำอ้าวกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนชุดให้เร็วที่สุด แต่เอกสารนี่สิมันเป็นสำเนาที่ต้องถ่ายเอกสารใหม่ ทำให้เสียเวลามาก กว่าจะเรียบร้อยก็ครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ออกจากบ้าน คราวนี้ไม่เดินมันแล้ว นั่งวินฯ ไปเลยจะดีกว่า แม้จะขับอันตรายแต่ก็ต้องยอม เรียกว่าเหมาไปเลยละกัน “พี่ หนูเหมาไปบริษัทศิริทรัพย์ พร้อพเพอร์ตี้เลยได้ไหมพี่” “มันไกลนะน้อง ต้องเหมาแล้วเนี่ย” “ไกลดีกว่ารถติดน่า เหมาก็เหมา หนูกลัวไปไม่ทัน นี่สายมากแล้ว” “เออๆ งั้นขึ้นมาใส่หมวกด้วย” ว่าแล้วปั้นหยาก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายด้วยการนั่งเบี่ยงและใส่หมวกกันน็อกเป็นอย่างดี จากนั้นคนขับก็ บิดตามที่เธอต้องการ เรียกว่าขับเหมือนที่เธอบ่นนั่นแหละ “รีบไปตาย” สุดท้ายตัวเองก็ได้มานั่งเองเพราะต้องรีบไปให้ทันเวลา “ท่านประธานมาแล้ว เสียงของพนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ระหว่างที่กำลังนั่งรอให้ครบองค์ประชุม เรียกได้ว่าทุกคนพร้อมแล้วเหลือแต่เจ้านายที่เพิ่งมาถึง และเมื่อส่งสัญญาณ ผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประชุมก็ลุกขึ้นเพื่อต้อนรับเจ้านาย จังหวะเดียวกันนั้นเจ้านาย หรือทุกคนเรียกติดปากว่าท่านประธานก็เดินดุ่มๆ เข้ามาทางประตูด้านหน้าซึ่งตรงกับหัวโต๊ะพอดี สีหน้าเขาเคร่งเครียด หงุดหงิด เหมือนพร้อมจะเหวี่ยงตลอดเวลาทำให้ทุกคนไม่กล้ามองหน้าได้แต่กล่าวทักทาย “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” ทุกคนกล่าวทักทายพร้อมกัน “สวัสดีครับ ขอโทษที่ทำให้รอนาน Accident นิดหน่อย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้เรียบที่สุด ทว่าปิดไม่มิดด้วยแววตาและสีหน้าที่หงุดหงิดเอามากๆ “Accident เหรอครับ เกิดอะไรขึ้นครับ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ก้องการุณผู้ช่วยคนสนิทถามขึ้น “เปล่า แค่พูดเปรียบเทียบน่ะ เราประชุมกันเถอะ” “เอ่อ ท่านมีอะไรกังวลใจครับ ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อน แล้วนี่เสื้อสูทไปเปื้อนอะไรมาครับ เหมือนโคลนน่ะ” ก้องการุณถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนั่งอยู่ใกล้ๆ กัน “ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยจัดการ จริงๆ งานประชุมวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเครียด แต่ผมมีเรื่องรบกวนใจนิดหน่อย ถ้าแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวออกมา เตือนผมด้วยก็แล้วกันครับ” “จะพักก่อนก็ได้นะครับท่าน” ผู้บริหารคนหนึ่งบอก “ไม่ มันได้เริ่มแล้ว ผมไม่มีปัญหาอะไร ไม่อยากเสียเวลา เอ่อ วันนี้มีอะไรจะรายงานผมบอกได้เลย” “จะว่าไม่มีเรื่องเครียดก็ดูจะแปลก แต่ผมขออนุญาตแจ้งว่า เรื่องสร้างเฟตใหม่ทางผู้รับเหมา ขอขยายเวลาทำงาน และขยายเวลาส่งมอบออกไปอีกสักหกเดือนครับท่าน คือเสร็จไม่ทันกำหนด” ผู้จัดการคนหนึ่งอธิบายขึ้น “หกเดือน! ก็รู้ว่ามันไม่ได้ มีการผิดสัญญา มีการฟ้องร้อง พร้อมจ่ายไหมล่ะ แล้วทำไมต้องขอขยายเวลา” ตฤณพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “คือ จากที่ทางผู้รับเหมาได้เปลี่ยนบริษัทจัดซื้ออุปกรณ์และสั่งไป ผมได้ตรวจสอบด้วยพบว่าของไม่ได้มาตราฐานเหมือนเมื่อก่อนเลย ลดเกรด กลัวจะสร้างความเสียหายระยะยาว เลยจะขอเปลี่ยนกลับไปใช้บริษัทใหม่ ซึ่งมันต้องใช้เวลานิดหน่อยครับ” “ทำไมต้องทำอะไรให้มันเสียเวลาหลายขั้นตอน ไม่เข้าใจ มันเสียหายไปถึงลูกค้าของเรา ที่เขาจองจนเต็มแล้ว ผมจะบอกเขาว่ายังไง หืม เฮ้อ! บอกบริษัทผู้รับเหมาแก้ไขปัญหาของตัวเองและจ่ายค่าเสียหาย ส่วนปัญหาของเราคือลูกค้า ให้ฝ่ายขายไปจัดการ” ท่านประธานหนุ่มบอกเสียงเรียบผิดวิสัย เพราะปกติจะหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้มากพอสมควร “เอ่อ ดูท่านจะเออออง่ายนะครับ ดูแปลกๆ ปกติพวกเราโดนด่าแล้วนะเนี่ย” ก้องการุณถามด้วยความสงสัย “นั่นน่ะสิ ไม่ดีเหรอ เขามีปัญหาอะไรให้เขาจัดการกันเอง ไม่เกี่ยวกับเรา ส่วนเราทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าพอใจ รับบ้านช้าก็ว่าน่าหงุดหงิดพอแล้ว หาอะไรแถมๆ เขาไป” “แถมเหรอครับ” ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน “ตกใจอะไรกัน” “แถมสมาชิกสปอร์ตคลับสักปี อะไรก็ว่าไปครับ ไม่ได้ซื้อ 1 หลังแถม 1 หลัง คิดอะไรกัน” “ก็ปกติคุณท่านไม่ใจดีแบบนี้ วันนี้มาแปลก ไหนบอกว่าหงุดหงิดกับบางเรื่อง” ก้องการุณบอกอีกครั้ง “ไม่รู้สิ ผมพูดอะไรก็อัดคลิปไว้ด้วย เผื่อผมลืม เอ่อคุณ... คุณเปี๊ยก หัวหน้าฝ่ายบุคคล ผมให้เวลาหาเลขาผู้หญิงให้ผมสองเดือนแล้ว ได้เรื่องหรือยังครับ” ประธานหนุ่มไล่ถามไปเรื่อย จะได้เคลียร์กันไป “เอ่อ ได้แล้วค่ะท่าน นัดมาวันนี้ แต่เปี๊ยกขอสัมภาษณ์ก่อนแล้วค่อยให้ท่านสัมภาษณ์ต่อ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลวัยเดียวกับเจ้านายตอบ “ทำไมต้องให้ผมสัมภาษณ์ต่อ รับหรือไม่รับก็ตัดสินใจไปเลยไม่ได้เหรอครับ” “ก็ นี่เป็นเลขาท่าน ถึงเปี๊ยกรับตรงสเปก ท่านอาจจะไม่รับ แต่เห็นว่าโปร์โฟล์โอเค เลยอยากให้ท่านเห็นด้วยและรับทราบค่ะ” “ผมมีเวลาให้ครึ่งชั่วโมงไม่เกินกว่านั้น ถ้าผมไม่รับก็จะหาใหม่ใช่ไหม” “ก็ทำนองนั้นค่ะ ต้องให้ท่านพอใจด้วย” “เฮ้อ! ปวดหัวจริง มีอะไรรายงานผมอีกไหม” “เรื่องสำคัญก็จะมีเรื่องเลื่อนรับมอบงานนั่นแหละครับ ต้องลงรายละเอียด อีกเรื่องก็ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ครับ” “หนึ่งชม.นับจากนี้ เริ่มเลย” ตฤณบอกกับทุกคนด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น จากความหงุดหงิดใจที่เกิดจากอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝันเมื่อเช้า มาจนถึงที่ทำงาน พาลให้เขาหน้าบึ้งไม่พูดคุยอะไรกับใคร แต่พยายามที่จะไม่เหวี่ยงเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น แต่เวลาจริงจังก็คือจริงจังแบบไม่ซีเรียส ไม่ชอบชวนลูกน้องทะเลาะและไม่ชอบสร้างบรรยากาศมาคุในบริษัท
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD