บทที่ 9 เก็บซ่อน

1323 Words
วันต่อมา... ปิ่นมุกมาทำงานด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อยหลังจากเมื่อคืนกว่าจะกลับถึงคอนโดฯ ก็ล่อไปเที่ยงคืนกว่า ทำให้วันนี้ไม่สดชื่นจากการนอนน้อย ...พอเดินมาถึงชั้นที่ทำงานของแผนกตัวเอง สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ที่ตอนนี้แทบไม่ได้คุยกันแล้ว “คุยกันหน่อยไหม” เขาเอ่ยพูดขึ้นระหว่างเดินสวนกัน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใจร้ายถึงกับเดินหนี “มีเรื่องไรเหรอ” เขามองหน้าเธอตาไม่กะพริบ นพณัชเป็นหนุ่มตี๋หน้าตาดี ครอบครัวของเขานั้นเป็นคนรวย แต่เขาก็เข้ามาทำความรู้จักกับเธอ หยิบยื่นไมตรีมาให้ ทว่าพอรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นชอบตน ความรู้สึกของเธอก็เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาเขามองเธอเป็นมิตร หรือหวังอะไรกันแน่ “ทำไมมองฉันอย่างนั้น ฉันยังเป็นเพื่อนเธออยู่ไหม” “_” “ปิ่น” “นายยังหวังเป็นเพื่อนฉันอีกเหรอ ทั้ง ๆ ที่ในใจนายก็รู้ดีว่านายต้องการอะไรจากฉัน” หรือเขาเข้ามาทักในวันแรกพบของมหา’ลัยนั้นต้องการอะไรจากเธอ ต้องการจีบเธอไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกันจริง ๆ “ทำไมล่ะ แล้วทำไมจะเป็นฉันไม่ได้ ฉันมันไม่ดีตรงไหนเหรอ” เอ่ยพูดเสียงอ่อน ไม่เต็มเสียงมากนัก บอกตามตรงว่าทำใจไม่ได้ คนมันรักมาเป็นสิบปี “ไม่ใช่ไม่ดี แต่เราเป็นเพื่อนกันจะดีกว่านะ” เธอยังคงอยากเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ แต่ไม่อยากให้เขาคิดเลยเถิดไปไกลกว่านี้ “ทำไมล่ะ อึก ไอ้นั่นมันดีกว่าฉันหรือไง” เขาเริ่มโมโห อาจารย์ณัฐกฤตมาได้แค่เดือนกว่า แต่เพื่อนของเขาก็ไปชอบอีกฝ่ายเสียแล้ว “ไม่ใช่ มันคนละแบบ นายไม่เข้าใจหรอก” พอเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มโมโห เธอก็ก้าวขาเพื่อเดินหนี แต่นพณัชก็ไม่ยอมจบ “เธอยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่ากำลังถูกมันหลอกฟัน” กึก! ฝ่าเท้าบางหยุดชะงักทันที “อย่าพูดแบบนี้นะ!” พอเห็นว่าเธอไม่พอใจก็พอเดาออกว่าคนเป็นเพื่อนนี้เสร็จไอ้นั่นแล้ว “จริงสินะ เป็นแฟนกันแล้วงั้นสิ” เขาไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ทว่ายิ่งเห็นหน้าเธอแล้วมันก็ยิ่งฟ้องบางอย่าง “หรือมันยังไม่ได้ขอเธอเป็นแฟน” “นี่! ไม่รู้อะไรก็ไม่ต้องพูดหรอกนะ” “แล้วฉันต้องรู้อะไรล่ะ เธอได้กับมัน มันไม่ได้ขอเธอเป็นแฟนทันที มันก็ถูกอย่างที่ฉันพูดแล้วแหละ” “อึก...” มันจุกอก ยิ่งเสียงของเขาเมื่อวานที่ไม่ให้แท็กรูปนั้นยิ่งทำให้สิ่งที่นพณัชพูดเป็นจริง ตอกย้ำความรู้สึกของตัวเองซ้ำ ๆ ว่าตนนั้นเป็นได้แค่ของเล่นแก้เบื่อของเขา “หึ ผู้ชายเป็นเพศที่เดาไม่ยากนะ ถ้ามันจะรับผิดชอบเธอ ให้เกียรติเธอ มันทำไปแล้ว” “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น นายสะใจงั้นสิ ถ้ามันเป็นอย่างที่นายพูดจริง ๆ” นพณัชรีบส่ายหน้า ไม่คิดว่าเธอจะแปลความหมายของเขาแบบนี้เสียด้วยซ้ำ “ฉันเป็นห่วงเธอ ปิ่น เธอมีสิทธิ์เลือกมากกว่านั้น” “ไม่ต้องห่วงฉันหรอก อึก เขาไม่ได้คิดแบบนั้น เราคุย ๆ กันอยู่” เธอแก้ตัวให้เขา ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตา “เธอ...รักมันแล้วเหรอ” เบือนหน้าหนีไม่ตอบเพื่อน ก่อนที่เธอจะสาวเท้าออกตัวเดินไม่สนใจเพื่อนชายต่อไป ปิ่นมุกแอบเข้ามาร้องไห้ในห้องน้ำของห้องพักแพทย์อย่างเงียบ ๆ ร้องไห้ที่สิ่งที่เพื่อนพูดนั้นมันกำลังเกิดขึ้นกับเธอจริง ๆ “ฮึก ฮือ~” ปิ่นมุกรู้สึกเจ็บที่อก หวนนึกถึงวันที่ไปเที่ยวด้วยกัน เขาไม่อยากให้อัปรูปลงโซเชียล ไม่อยากให้ใครรู้ว่าไปไหนมาไหนด้วยกันเสียด้วยซ้ำ ไม่อยากอวดเธอ ไม่ภูมิใจในตัวเธอเลยหรือ... เวลาต่อมา... ทั้งวันที่ปิ่นมุกเอาแต่เงียบ แม้นแต่ตอนที่เข้าห้องผ่าตัดกับเขา ปกติเธอจะช่างถาม แต่วันนี้กลับเงียบ ณัฐกฤตเห็นแววตาไม่สบายใจของเธอ แต่เดี๋ยวค่อยถามเวลาเลิกงาน “ปิ่น!” พอเลิกงานแล้วปิ่นมุกก็รีบสาวเท้าเดินหนีอาจารย์หนุ่มไปจนถึงโรงจอดรถ ซึ่งเขาก็รีบเดินตามมา เธอไม่หยุดเดิน แต่เป็นเพราะเขาขายาวกว่าเลยสามารถเดินถึงตัวเธอได้ในเวลาอันรวดเร็ว หมับ! เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ได้ ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังเดินอยู่นั้นตัวปลิวติดแผ่นอกหนาอย่างช่วยไม่ได้ “อ๊ะ! ปะ ปล่อยค่ะ” เธอเอ่ยพูดเสียงนิ่งเรียบ พลางเบือนหน้าหนี เมื่อใบหน้าของเขานั้นอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ “เป็นไร วันนี้ไม่พูดเลย” เขาใจหาย ตั้งแต่ย้ายมาเดือนกว่า ที่ทำให้เขาอยากอยู่ที่นี่ต่อก็คือเธอคนนี้ “เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าเบา ๆ “เปล่าได้ไง ก็อยู่ ๆ เงียบไปไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน” “ก็ปกติ” “ไม่ปกติ อย่ามาปากแข็ง” เขาว่าเสียงเข้ม ชายหนุ่มเริ่มไม่พอใจที่เธอเอาแต่ปฏิเสธทั้ง ๆ ที่ไม่ปกติ “งั้นปล่อยก่อนค่ะ ไม่กลัวคนมาเห็นหรือไง” เธอเลื่อนสายตาไปมองรอบกาย เขาบอกเองว่ากลัวเพื่อนร่วมงานว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตอนนี้กลับมากอดเธอแน่นกลางโรงจอดรถของโรงพยาบาลเสียอย่างนั้น “เล่ามาสิ” พอเขาปล่อยอ้อมแขนออก ก็เอ่ยถามทันที “เป็นไร” “เป็นแฟนกันไหมคะ” ไหน ๆ เขาก็ไม่คิดที่จะขอเธอแล้ว หญิงสาวเลยตัดปัญหาด้วยการขอเขาเป็นแฟนเลย ทว่าคำพูดของเธอทำเอาอาจารย์หนุ่มสตันไปเลยในทันที “_” เขาเงียบ “ไม่ได้เหรอคะ” ณัฐกฤตกลืนน้ำลายลงคอ เขาเลียริมฝีปากเล็กน้อย เบือนหน้าหนีไม่อยากสบตากับเธอสักเท่าไร “เธอก็รู้ว่าเราคบกันแบบเปิดเผยไม่ได้” เพราะเขาเป็นอาจารย์ของเธอ ส่วนเธอก็กำลังเรียนกับเขาอยู่ มันดูไม่เหมาะสมถึงความจริงจะเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันก็เถอะ “เพราะคุณเป็นอาจารย์เหรอคะ” “อืม มันไม่เหมาะสมน่ะ” เขาเอ่ยพูดเสียงเรียบ แต่ว่าปิ่นมุกกลับคิดว่าไม่ใช่แค่เรื่องนี้ “แล้วถ้าฉันไม่เรียนต่อล่ะคะ อึก ถ้าฉันไม่เรียนต่อยอดแล้วล่ะ” เธอก็ยังเป็นแพทย์รักษาคนไข้ได้เหมือนเดิม แค่ไม่ได้เข้าผ่าตัดแค่นั้น ทว่า “อย่าเอาอนาคตของตัวเองมาล้อเล่น เธอเป็นคนเก่งและไปได้ไกล” ปิ่นมุกส่ายหน้าเบา ๆ เธอไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด ทุกครั้งที่เขาลั่นวาจาออกมาเหมือนกับปกปิดอะไรบางอย่าง และก็จริง...เขายังไม่อยากคบกับเธอจริงจัง เพราะยังรอ รอสลิลทิพย์อยู่ “เราคบกันแบบนี้ไปก่อนไม่ได้เหรอ ตอนนี้มันก็ดีนี่” “มันดี...ฮึก ดียังไงคะ” “ก็มีกันและกัน ช่วยเหลือ อยู่เป็นกำลังใจให้กันก่อน” เขาตอบหน้าตาย แต่คนใจสลายคือปิ่นมุกเอง “มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ ไม่มีหรอกนะคะคนที่ยอมรับได้ว่าไม่ถูกยอมรับน่ะ” “_” “ไม่มีหรอก” เอ่ยพูดจบก็เดินหนีไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้เดินตาม ยืนมองแผ่นหลังบางสั่นเทานั้นด้วยความรู้สึกผิด ชายหนุ่มก็นึกว่าเธอมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่คิดว่าหล่อนต้องการสถานะเปิดเผย...ซึ่งเขาให้ไม่ได้จริง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD